หลังถอนสมอจาก “มีเดีย ออฟ มีเดียส์” ไปตั้ง "บริษัทเอเชียเทเลวิชั่น แอนด์ มีเดีย จำกัด" ความสัมพันธ์ของ “ยุวดี บุญครอง” กับช่อง 7 ก็ดูเหมือนจะขาดสะบั้นลงไปด้วยถึงขนาดที่ว่าล่าสุดมีข่าวออกมาว่าเจ๊ยุตะเวนขอเวลาทำรายการแทบจะทุกสถานียกเว้นช่อง 7 ช่องเดียว
“เรามีไอเดียที่จะทำรายการดี ๆ หลายอันก็อยากจะไปเสนอที่ช่อง 3 ช่อง 5 ไอทีวี และช่อง 9 ที่สามารถเปิดเผยได้ก็คือรายการเรียลิตี้ที่ดังที่สุด เราไปซื้อลิขสิทธิ์ไว้เรียบร้อยแล้ว ตอนนี้กำลังจะเข้าไปเสนอกับช่อง 3 อยู่ในขั้นตอนการนัดหมาย”
“รูปแบบรายการจะเป็นเรียลิตี้ผู้หญิง สาเหตุที่เราเลือกเจาะกลุ่มนี้เป็นเพราะผู้หญิงเป็นกลุ่มที่ดูทีวีมากที่สุด 80 เปอร์เซ็นต์สินค้าส่วนใหญ่ที่ลงโฆษณาทีวีก็เป็นสินค้าที่เกี่ยวกับผู้หญิง เรามีโอกาสได้ไปพบลูกค้าทำให้ทราบความต้องการของพวกเค้า ประกอบกับรายการค่อนข้างฉีกแหวกแนว คิดว่าถ้ารายการนี้ออกอากาศเมื่อไหร่น่าจะประสบความสำเร็จแน่นอน”
แม้จะมีความมั่นใจเพราะรูปแบบรายการค่อนข้างแปลกใหม่ แต่ดูเหมือนว่ากระแสเรียลิตี้ในบ้านเราเวลาน้อยไม่ค่อยได้รับความนิยมมากเท่าเมื่อก่อน
"ตรงนั้นคงเป็นเพราะรายการไม่เหมาะสมกับคนไทย คนไทยเราไม่ชอบการแสดงออกอย่าง Big Brather ถ้าจะมีการกอดการจูบกันออกอากาศคนไทยก็รับไม่ได้ การทำเรียลิตี้เราต้องดูกลุ่มคนดูด้วยถึงจะประสบความสำเร็จ”
ปีนี้รายการของเอเชียเทเลวิชั่นส่วนใหญ่จะเป็นรายการที่ซื้อลิขสิทธิ์จากเมืองนอก
“ส่วนหนึ่งที่ต้องซื้อลิขสิทธิ์เราต้องยอมรับว่ารายการบางอย่างของเราสู้ฝรั่งทำไม่ได้ ในเมื่อเค้ามีสิ่งดี ๆ อยู่แล้ว เราก็น่าจะไปซื้อสิ่งดี ๆ มานำเสนอดีกว่า ฉะนั้นแนวโน้มในปีนี้เราก็คงจะมีการซื้อซอฟท์แวร์มาจากเมืองนอก ตอนนี้ตลาดเป็นเทรนด์โปรดักชั่นเมืองนอก จะให้เราหันไปทำละครมาชนก็คงจะไม่ไหว เราต้องเอาอะไรที่แตกต่างมาชนดีกว่า”
นอกจากจะลุกธุรกิจโทรทัศน์แล้ว เอเชียเทเลวิชั่นก็ยังเตรียมเปิดสำนักพิมพ์ บี พลับลิชชิ่ง ด้วย
“จากการที่เราได้ทำหนังสือเกิดแต่กรรมเมื่อปีที่แล้วจนประสบความสำเร็จมียอดขายอันดับ 2 ทำให้เราเห็นว่า ตลาดนี้เป็นตลาดที่น่าสนใจ ยังมีโอกาสเจริญเติบโตมาก ซึ่งเราเองก็มีรายการโทรทัศน์สามารถใช้ในการโปรโมตได้อยู่แล้ว ก็เลยจะเปิดบีพลับลิชชิ่ง”
“โดยจะยึดความหลากหลาย ไม่ทำเรื่องเกี่ยวกับดาราเหมือนที่เค้าทำๆ กัน เราอยากทำหนังสือที่ให้ประโยชน์กับผู้อ่าน และเร็วๆ นี้เราจะไปร่วมงานหนังสือที่ประเทศอังกฤษเพื่อหาหนังสือเด็กมาแปล ซึ่งตลาดหนังสือเด็กในบ้านเราค่อนข้างน้อย ยังไม่มีหนังสือดีๆ ให้เด็กๆ บ้านเราได้อ่านกันเลย นอกจากนั้นแล้วเราก็ยังจะทำหนังสือผู้หญิง การตลาด ปรัชญา และนิยาย"
“เรามีไอเดียที่จะทำรายการดี ๆ หลายอันก็อยากจะไปเสนอที่ช่อง 3 ช่อง 5 ไอทีวี และช่อง 9 ที่สามารถเปิดเผยได้ก็คือรายการเรียลิตี้ที่ดังที่สุด เราไปซื้อลิขสิทธิ์ไว้เรียบร้อยแล้ว ตอนนี้กำลังจะเข้าไปเสนอกับช่อง 3 อยู่ในขั้นตอนการนัดหมาย”
“รูปแบบรายการจะเป็นเรียลิตี้ผู้หญิง สาเหตุที่เราเลือกเจาะกลุ่มนี้เป็นเพราะผู้หญิงเป็นกลุ่มที่ดูทีวีมากที่สุด 80 เปอร์เซ็นต์สินค้าส่วนใหญ่ที่ลงโฆษณาทีวีก็เป็นสินค้าที่เกี่ยวกับผู้หญิง เรามีโอกาสได้ไปพบลูกค้าทำให้ทราบความต้องการของพวกเค้า ประกอบกับรายการค่อนข้างฉีกแหวกแนว คิดว่าถ้ารายการนี้ออกอากาศเมื่อไหร่น่าจะประสบความสำเร็จแน่นอน”
แม้จะมีความมั่นใจเพราะรูปแบบรายการค่อนข้างแปลกใหม่ แต่ดูเหมือนว่ากระแสเรียลิตี้ในบ้านเราเวลาน้อยไม่ค่อยได้รับความนิยมมากเท่าเมื่อก่อน
"ตรงนั้นคงเป็นเพราะรายการไม่เหมาะสมกับคนไทย คนไทยเราไม่ชอบการแสดงออกอย่าง Big Brather ถ้าจะมีการกอดการจูบกันออกอากาศคนไทยก็รับไม่ได้ การทำเรียลิตี้เราต้องดูกลุ่มคนดูด้วยถึงจะประสบความสำเร็จ”
ปีนี้รายการของเอเชียเทเลวิชั่นส่วนใหญ่จะเป็นรายการที่ซื้อลิขสิทธิ์จากเมืองนอก
“ส่วนหนึ่งที่ต้องซื้อลิขสิทธิ์เราต้องยอมรับว่ารายการบางอย่างของเราสู้ฝรั่งทำไม่ได้ ในเมื่อเค้ามีสิ่งดี ๆ อยู่แล้ว เราก็น่าจะไปซื้อสิ่งดี ๆ มานำเสนอดีกว่า ฉะนั้นแนวโน้มในปีนี้เราก็คงจะมีการซื้อซอฟท์แวร์มาจากเมืองนอก ตอนนี้ตลาดเป็นเทรนด์โปรดักชั่นเมืองนอก จะให้เราหันไปทำละครมาชนก็คงจะไม่ไหว เราต้องเอาอะไรที่แตกต่างมาชนดีกว่า”
นอกจากจะลุกธุรกิจโทรทัศน์แล้ว เอเชียเทเลวิชั่นก็ยังเตรียมเปิดสำนักพิมพ์ บี พลับลิชชิ่ง ด้วย
“จากการที่เราได้ทำหนังสือเกิดแต่กรรมเมื่อปีที่แล้วจนประสบความสำเร็จมียอดขายอันดับ 2 ทำให้เราเห็นว่า ตลาดนี้เป็นตลาดที่น่าสนใจ ยังมีโอกาสเจริญเติบโตมาก ซึ่งเราเองก็มีรายการโทรทัศน์สามารถใช้ในการโปรโมตได้อยู่แล้ว ก็เลยจะเปิดบีพลับลิชชิ่ง”
“โดยจะยึดความหลากหลาย ไม่ทำเรื่องเกี่ยวกับดาราเหมือนที่เค้าทำๆ กัน เราอยากทำหนังสือที่ให้ประโยชน์กับผู้อ่าน และเร็วๆ นี้เราจะไปร่วมงานหนังสือที่ประเทศอังกฤษเพื่อหาหนังสือเด็กมาแปล ซึ่งตลาดหนังสือเด็กในบ้านเราค่อนข้างน้อย ยังไม่มีหนังสือดีๆ ให้เด็กๆ บ้านเราได้อ่านกันเลย นอกจากนั้นแล้วเราก็ยังจะทำหนังสือผู้หญิง การตลาด ปรัชญา และนิยาย"