ทำเอาตะลึงทั้งงานเมื่อ“เบียร์ สรณัฐ มัสยวาณิช” น้องชายสุดรักของหนุ่ม“ฟลุค เกริกพล” ขโมยซีนคู่รักคนดังคู่อื่นด้วยการโน้มคอแฟนสาว“นาด้า นฎาประไพ บุญนันท์” ลงมาจ๊วบๆ กลางเวทีขณะเดินแฟชั่นโชว์ในงาน“All we need is love” ที่ร้าน Playground วันก่อน ได้ทีถามไถ่กับฝ่ายหญิงถึงความมั่นเกินร้อยครั้งนี้ ซึ่งคำตอบก็ทำเอาอึ้งไม่แพ้กัน....
“ก็ให้ทุกคนรู้ว่าเรายังคบกันอยู่นะ ไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับเรา ยังรักกันดี...ก็ไม่เป็นไงมันเป็นสิ่งที่คนเราทุกคนก็ทำกันอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าไม่มีใครเห็น มันเป็นเรื่องธรรมดาที่ทุกคนต้องมีเรื่องแบบนี้ ก็เขินนิดหน่อยแต่ต้องตามเค้าไป(หัวเราะ)”
“ที่บ้านก็คงโอเค.คงไม่ว่าอะไรเพราะรู้จักกันอยู่แล้ว คบกันมาปีกว่าก็ราบรื่นดี เวลาเราคบกับใครเราก็คงจะไม่อยากมีเพิ่มอีก ถ้าคบใครซักคนเราก็ควรจะคบกับเค้าต่อไป มันผูกพันกันแล้ว”
พร้อมถือโอกาสเคลียร์ข่่าวมือที่สามทำครอบครัว"เต๋า-นัท"แตกหักด้วยว่าไม่เป็นความจริงแม้แต่น้อย
“เรื่องข่าวนาด้าก็ไม่รู้จริงๆ ว่าเกิดอะไรขึ้น นาด้าไม่รู้จักกับใครเลยทั้งพี่เต๋าพี่นัท ข่าวที่บอกว่าพาเข้าโรงแรมเบียร์เป็นคนโทร.มาบอก พอได้ข่าวปุ๊บก็ช็อคเหมือนกัน เพราะนาด้าไม่รู้จักกับเค้าเลย ก็ไม่รู้ว่าตัวเองถูกดึงไปด้วยได้ยังไง”
“เบียร์เค้าไม่ว่าไง ก็ขำๆ เพราะก็รู้อยู่แล้วว่ามันไม่จริง มันเสียความรู้สึกพอๆกันแหละ แต่รู้อยู่แล้วว่ามันไม่จริง เราไม่รู้จักกันเลย”
“ส่วนเรื่องที่เบียร์ฝากด่าพี่เต๋านั้นมันไม่ได้เกิดขึ้นค่ะ เรื่องนี้มันไม่เกี่ยวอะไรกันเลย วันนั้นเค้าอาจจะอารมณ์เสีย เค้ามีวันที่ไม่ดีแล้วเค้าก็อารมณ์เสียวันนั้นเค้าก็ปลดปล่อยไปในวันนั้น แต่มันไม่เกี่ยวกับเรื่องนั้นเลยค่ะ หนูยืนยันได้ว่าไม่ใช่แน่นอนร้อยเปอร์เซ็นต์ค่ะ”
“คือเบียร์ก็อยู่เอ็กแซ็กท์กับพี่นัทอยู่แล้ว รู้จักกันเพราะเค้าอยู่ค่ายเดียวกัน ก็คุยกันธรรมดามีเรื่องเครียดอะไรปรึกษากันได้อยู่แล้ว แต่นักข่าวคงเห็นเป็นการอาละวาดอะไรกันตอนนั้น เค้าก็เลยเขียนขึ้นมาอย่างนั้น ทั้งคู่รู้อยู่แล้วว่ามันเกิดอะไรขึ้น จริงๆ มันไม่มีอะไรเลย”
ทั้งนี้เจ้าตัวยอมรับว่าข่าวมีส่วนบั่นทอนความสัมพันธ์บ้าง แต่เพราะต่างฝ่ายต่างรู้ดีอยู่แก่ใจว่าความจริงเป็นยังไง ดังนั้นจึงไม่อยากใส่ใจมากนัก
“ผลกระทบมันก็มีอยู่แล้วค่ะ แต่ไม่สนใจอยู่แล้วเพราะว่าเรารู้ว่าความจริงเป็นยังไง เราไม่มีทางทำอย่างนั้นแน่ๆ ก็แล้วแต่ว่าคนจะเชื่อยังไง แต่หนูก็เป็นคนอย่างนี้อยู่แล้ว ไม่สนใจค่ะ ความรู้สึกเราก็ยังเหมือนเดิมไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลง เราก็ใช้ชีวิตธรรมดาเหมือนที่ทำอยู่ทุกวัน ไปไหนก็ไปด้วยกันเหมือนเดิม ไม่ได้รู้สึกว่าต้องระมัดระวังอะไรมากมาย”