เคยช้ำรักเพราะ ”ระยะทาง” มาแล้วครั้งที่คบกับ “เทย่า โรเจอร์” เหตุสาวเจ้าต้องไปเรียนต่อเมืองนอก ครั้งนั้นทำเอาหนุ่ม “หลุยส์ สก๊อตต์” เจ็บหนักเอาการอยู่ ล่าสุดเพื่อนสาวคนสนิท “เอลี่ แมคควีน” ที่หวานกันอยู่ดีๆ ก็จะบินหนีไปเรียนอีกแล้ว
เหยี่ยวข่าวเลยรุมถาม”หลุยส์” ในงานทอปอวอร์ดสที่ควงสาว ”เอลี่” มาเปิดตัวครั้งแรกว่ากลัวประวัติศาสตร์รักคุดจะซ้ำรอยอีกหรือไม่ เล่นเอาเจ้าตัวตอบเสียงอ่อยๆ ว่า...
“เอ่อ...หวังว่าไม่ใช่นะครับ หวังว่าไม่เหมือนครั้งของเทย่านะครับ แต่ถามผมว่าตอนนี้ผมเทใจให้เขาหมดเลยใช่มั้ย มันก็ไม่ใช่ครับ หรือจะถามว่าผมมั่นใจในตัวเขาว่าเป็นคนที่ใช่รึยังอันนี้ก็ตอบไม่ถูก คงจะพูดยากนะครับว่าใช่หรือไม่ใช่”
“แต่วันนี้ที่ผมพาเขามางานด้วยไม่ใช่ว่าผมมั่นใจในตัวเขาหรือจะเปิดตัวอะไรนะครับ จริงๆ ผมก็ไปไหนมาไหนกับเขาบ้างอยู่แล้ว เวลามาในงานอย่างนี้ผมก็อยากให้เขามาให้กำลังใจด้วยเท่านั้นเอง ไม่อยากจะเก็บเขาในที่มืดหรืออะไรอย่างนั้น”
คบกันมานานถึง 4 ปี มีภาพปาปารัซซี่ที่ทั้งคู่โชว์หวานออกมาให้เห็นบ่อยๆ แต่หลุยส์ยังแทงกั๊กว่าเอลี่ไม่ใช่แฟน เหตุเพราะเรื่องเวลาและความห่างไกลเป็นตัวแปร
“เราก็รู้จักกันนานแล้วนะครับ 4 ปีแล้วครับผม ที่ผมประทับใจเขาก็คงเป็นในเรื่องความร่าเริงของเขา เขาไม่ซีเรียสอะไรเลย เป็นคนที่สนุกสนาน ปกติแล้วผมทำงานค่อนข้างเยอะและบ่อยก็เลยจะมีการเครียดเกิดขึ้น ก็จะมีเขาที่ให้กำลังใจแล้วก็ทำให้เราหัวเราะแบบสนุกๆ ได้น่ะครับ”
“แต่ผมยังไม่อยากพูดว่าเราเป็นแฟนกันออกไปนะครับเผื่อว่ามันจะมีอะไรเกิดขึ้น...แหม! พี่ อธิบายยากน่ะ มันอายมากเลยนะเนี่ยที่จะให้มาพูดเรื่องแบบนี้ คือผมยอมรับครับว่าต้องมีบ้างอยู่แล้วที่คนจะมองว่าเราเป็นแฟนกัน ผมก็ถือว่าเขาเป็นเพื่อนสนิทสุด(หัวเราะ)”
“คืออย่างนี้ ผมก็คิดว่าครึ่งหนึ่งละกันครับครึ่งคือตอบว่าใช่เป็นแฟน คือมันก็มีเรื่องของเวลาด้วยน่ะครับแล้วการเรียนของเขาก็ต้องไปเรียนที่เมืองนอก เขาเพิ่งไปดูมาว่าจะเรียนที่ออสเตรเลียหรืออังกฤษดี มันมีเวลาที่เราต้องห่างกันเยอะ ปีที่แล้วเราก็ไม่ค่อยได้เจอกันเลยนี่เขาเพิ่งกลับมาฉลองคริสต์มาสเท่านั้นเอง ผมก็เลยรู้สึกยังไม่อยากจะตอบตกลงใช่น่ะครับ”
แม้จะไม่กล้าใช้คำว่า “แฟน” อย่างเต็มปาก แต่ถ้าต้องห่างกันจริงๆ หนุ่มหลุยส์ออกปากรู้สึกใจหาย พร้อมไม่ขอยืนยันถึงความสัมพันธ์ของตัวเองกับเพื่อนสาวว่าจะเป็นอย่างไรต่อ
“มันก็ต้องมีบ้างเล็กน้อยเรื่องใจหายแต่ว่าผมก็มีงานที่ผมต้องทำด้วยเหมือนกัน จริงๆ เวลาเราก็ไม่ค่อยมี ซึ่งผมก็ว่ามันดีสำหรับเขานะที่จะไปเรียน แต่ถามว่าผมจะบินตามไปมั้ยอันนี้ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน ต้องดูอีกทีหนึ่ง”
“ถามว่าผมกลัวน้ำตาตกอีกมั้ยถ้าถึงเวลาที่เขาต้องไปจริงๆ ซึ่งก็เหลืออีกแค่ 2 เดือนเอง คืออันนี้ผมขอไม่ตอบดีกว่านะ ถ้าเราไม่มั่นใจในกันและกันมันก็ไปกันไม่ได้อยู่แล้วน่ะครับ อันนี้ต้องดูอีกทีหนึ่งว่าจะตกลงกันยังไง”
“เพราะเขาก็ต้องมีคนมาจีบอยู่แล้วครับ เขาก็บอกผมตลอดแต่ผมก็ว่าอะไรไม่ได้อยู่แล้วครับ แต่ไม่ใช่ว่าเขาจะมีคนมาจีบฝ่ายเดียวนะ ผมก็มีคนมาจีบเหมือนกันนะ (หัวเราะ)”
อ๋อ ! เรื่องมันเป็นอย่างนี้นี่เอง
