xs
xsm
sm
md
lg

"เจ๊ฉอด" ฉะเละ นสพ. น้องใหม่ เล่นไม่เลิกยัวะ ด่า "กฤษณ์" เลวระยำ แรงเกินไป

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


กลายเป็นรายการฮอตขึ้นมาทันที เมื่อ นสพ. น้องใหม่ของค่ายยักษ์อุทิศพื้นที่ให้ "แฉแต่เช้า" ของคลื่น 93.5 EFM. จากค่ายเอไทม์ขึ้นหน้าหนึ่ง 7 วันรวด โดยตลอดช่วงหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมา นสพ. ฉบับดังกล่าวมีการนำเสนอข่าววิพากษ์วิจารณ์การทำงานของรายการดังกล่าวว่า ค่อนข้างใช้คำพูดที่ปากจัดวิพากษ์วิจารณ์คนที่ตกเป็นข่าวแบบเสียๆ หาย ๆ ซึ่งแน่นอนว่าคนที่โดนไปเต็มๆ ก็คงจะหนีไม่พ้น "กฤษณ์ ศรีภูมิเศรษฐ์" กับ "มดดำ คชาภา ตันเจริญ" ดีเจคู่หู เจ้าของฉายา "ดีเจมดดำกัดจิก ดีเจกฤษณ์กัดเจ็บ"

โดยเฉพาะกฤษณ์นั้นดูเหมือนจะโดนหนักสุด เพราะมีการลงข่าวปริศนาลากไส้ "ตี๋ตาส่อน" ถึงเรื่องบนเตียงกับดาราสาว และ เรื่องติดการพนัน ติดยา งานนี้แม้จะไม่มีการออกชื่อแซ่ให้ได้ฟ้องกันจะๆ แต่ใครที่อ่านเนื้อหาดังกล่าว ต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า "น่าจะหมายถึงกฤษณ์"

สงครามน้ำหมึกปะทะน้ำลายทำท่าจะบานปลาย เพราะวันนี้ก็ยังมีข่าวของรายการแฉแต่เช้าขึ้นหน้าหนึ่งบน นสพ. ฉบับดังกล่าวอยู่เช่นกัน

ทางด้านบอสใหญ่จากค่ายเอไทม์มีเดีย "สายทิพย์ มนตรีกุล ณ อยุธยา" ได้เปิดแถลงข่าวถึงอาการป่วยของ "ดีเจโจ้ อัครพล ธนะวิทวิลาศ" ไปเมื่อช่วงเที่ยงวันที่ผ่านมา (25 ม.ค.) และทันทีที่จบการแถลงข่าว บอสใหญ่เอไทม์ก็ได้กล่าวถึงการนำเสนอข่าวของ นสพ. ฉบับดังกล่าวที่ยังคงโจมตีไม่เลิกว่า สาเหตุน่าจะเกิดจากการที่ "ดีเจกฤษณ์ และ ดีเจมดดำ" ไปวิพากษ์วิจารณ์นสพ. น้องใหม่ในรายการ "แฉแต่เช้า" กรณีลงข่าว โจ้ อัครพล จะเสียชีวิตภายใน 6 เดือน ว่ารุนแรงเกินไป

"กับข่าวที่เค้าลงโดยส่วนตัวไม่รู้สึกอะไร แต่เป็นห่วงความรู้สึกของโจ้มากกว่า เราแข็งแรงพอเราสามารถรับได้ทุกเรื่อง แต่นึกถึงโจ้ คนเคยทำงานอยู่ดี ๆ ก็มาเป็นแบบนี้เค้าก็รู้สึกแย่แล้ว ยังต้องมาเจอใครมารุมเขียนว่าจะตายวันนั้นวันนี้ คิดดูว่าเค้าจะรู้สึกยังไง ทุกวันนี้เราต้องคอยสกรีนข่าวให้โจ้ตลอด พยายามไม่อยากให้เขาเห็น แต่ก็คงเป็นไปยาก"

"ที่เค้าเขียนถึงโจ้เรารับไม่ได้ ไม่รู้ว่าเพราะเรื่องตรงนี้หรือเปล่าที่ทำให้เค้าเล่นเราหนักแบบนี้ แต่มันคงมีหลายเหตุผล เรื่องเป็นคู่แข่งทางธุรกิจกันด้วย จริงๆ วันนั้นก็ฟังกฤษณ์กับมดดำจัดรายการนะ ก็ไม่เห็นว่าเค้าจะพูดอะไรที่มันเลวร้ายรุนแรงถึงกับต้องออกมาตอบโต้กันรุนแรงแบบนี้ หลังจากวันนั้นเค้าก็ลงข่าวอย่างต่อเนื่อง โดยส่วนตัวเราไม่คิดจะตอบโต้ เราอยากจะทำงานและทำรายการเพื่อคนฟัง ซึ่งมันต่างจากที่เค้าทำ"

"เสียงวิพากษ์วิจารณ์เราน้อมรับอยู่แล้วไม่ว่าจะเป็นฝ่ายใด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงานหรือเรื่องส่วนตัว ก่อนอื่นที่จะรู้สึกว่าอะไรอย่างไร เราจะหันมาเช็คตัวเองก่อนว่า เราดีหรือไม่ดี จะต้องปรับปรุงแก้ไขตรงไหนบ้าง แม้ว่าบางอย่างอาจจะเกิดจากความไม่สุจริตในการนำเสนอ แต่เราก็จะปล่อยทิ้งไป เราไม่ค่อยคิดเยอะกับเรื่องพวกนี้"

ยืนยันว่าสิ่งที่หนังสือพิมพ์ฉบับดังกล่าวลงเกิน 50 เปอร์เซ็นต์ไม่ใช่ความจริง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่ "สุรนันท์ เวชชาชีวะ" รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีที่กำลังกวดขันดูแลเรื่องสื่ออยู่ เรียกเข้าไปพบ เรื่องที่รายการจะโดนปิด

"ทุกคนก็รู้อยู่แล้วว่ามันเป็นยังไง สิ่งที่เค้าลงไปนั้นเกิน 50 เปอร์เซ็นต์เป็นเรื่องไม่จริง มีข่าวออกมาว่าเราจะโดนสั่งปิด มีผู้ใหญ่เชิญไปพบ ทั้งที่ความจริงไม่มีเลย ไม่ใช่ว่าเราใหญ่โตหรือว่ากร่าง แต่ทางผู้ใหญ่ท่านคงเข้าใจว่าเราไม่ได้ทำอะไรขนาดนั้นถึงกับต้องมายึดรายการ ใบผู้ประกาศกฤษณ์กับมดดำก็มี เห็นข่าวแล้วงง เค้าอยากเขียนอะไรก็เขียน บอกว่าเราจะโดนยึดรายการงงมาก จริงๆ ประเด็นนี้มันตกเป็นข่าวตั้งนานแล้ว ตั้งแต่เรื่องกสช. ซึ่งตอนนี้ทุกอย่างมันก็เคลียร์ไปแล้ว มันเป็นการรื้อประเด็นเก่า ๆ ทำให้เป็นเรื่อง"

"ที่ผ่านมาแฉแต่เช้าค่อนข้างตกเป็นประเด็น เวลาเราทำงานเราก็แก้ไขมาตลอดอย่าดึงผู้ใหญ่มาเกี่ยวข้องเลย แต่อะไรที่มันเกินไปเราก็เห็นเจตนาแล้ว คนเราจะอยากมาใช้หน้าหนังสือเยอะขนาดนั้นเพียงเรื่องเดียวก็ไม่เป็นไร ถ้าเค้าตั้งใจ"

ส่วนกรณีที่มีการลงข่าวปริศนาแฉยับตี๋ตาส่อน ซึ่งหลายๆ คนมองว่า น่าจะเป็นการเอ่ยถึงกฤษณ์ รวมไปถึงการพาดหัวใช้คำรุนแรงด่า "เลวระยำ" ทำให้หลายๆ คนคาดการณ์ว่า งานนี้อาจมีรายการจับมือกันระหว่าง กฤษณ์ กับ เอไทม์ ฟ้องหนังสือพิมพ์ฉบับดังกล่าว

"สำหรับกฤษณ์เราไม่ได้ออกมารับแทน คนที่รู้จักกฤษณ์จะรู้ดีว่ามันไม่จริง อย่างเรื่องการพนัน ใครที่ดูรายการโทรทัศน์ก็จะรู้ว่า ครอบครัวกฤษณ์เคยล้มละลาย กฤษณ์กอบกู้ตรงนี้ขึ้นมาใหม่ด้วยการทำงาน แล้วคิดเหรอว่าคนแบบนี้จะไปเล่นการพนัน มันนอนเซนส์มาก ก็รู้ๆ กันอยู่ว่ามันยังไง"

"เรื่องนี้กฤษณ์ไม่ได้สนใจ เค้าใส่ใจเรื่องงานมากกว่า เค้าไม่ได้คิดถึงใครในแง่ร้าย โดนขนาดนี้ก็ไม่เห็นเค้าพูดแบบอยากทำร้ายฝ่ายตรงข้าม ส่วนใหญ่จะแค่พูดเล่นว่า โดนอีกแล้ว แต่ถามว่าเค้าแรงไหม คำว่า เลวระยำ มันแรงอยู่แล้วแหละ แต่ตรงนี้เราไม่ใส่ใจ แรงไม่แรงให้ประชาชนเป็นคนตัดสินดีกว่า ใครที่ซื้อหนังสือพิมพ์ฉบับนี้ไปอ่านแล้วปลื้มเค้ารับได้ก็แล้วไป"

"ส่วนเรื่องฟ้องร้องกฤษณ์ไม่คิดที่จะฟ้องหรอกเค้าเข้าใจการทำงาน ส่วนทางเอไทม์ก็ไม่ฟ้อง เราค่อนข้างเป็นห่วงความรู้สึกโจ้มากกว่าที่ต้องมาเจอแบบนี้มันเกินไป แต่ถามว่าโกรธไหม มันเลยเรื่องโกรธไปแล้ว มันเป็นอีกสเต็ปหนึ่ง เราไม่ได้คิดจะทะเลาะกับใคร ประเด็นตอนนี้ชีวิตของคนสำคัญกว่า"

การเป็นปรปักษ์กับสื่อเป็นสิ่งที่ใครๆ ก็หลีกเลี่ยง หลายต่อหลายครั้งที่เรื่องราวมักจะจบลงด้วยการเจรจาปรับความเข้าใจกัน แต่สำหรับกรณีเอไทม์กับสื่อฉบับดังกล่าว เห็นจะไม่มีทาง.......

"ไม่มีการเจรจาแน่นอน มันเกินไปแล้วนะ เราเห็นเจตนาของเค้าแล้วที่ลงแบบนี้ ก็ไม่เป็นไรไม่ต้องเจรจา ถ้าเจตนาขนาดนี้"
กำลังโหลดความคิดเห็น