xs
xsm
sm
md
lg

Lan Yu ความทรงจำสีจางๆ/ธีปนันท์

เผยแพร่:   โดย: ธีปนันท์ เพ็ชร์ศรี


(Spoiler: บทความชิ้นนี้เปิดเผยรายละเอียดสำคัญของหนัง)

เหมาเจ๋อตุง เคยเขียนไว้ใน Little Red Book - หนังสือที่แจกจ่ายให้กับกลุ่มเรดการ์ด ช่วงปฏิวัติวัฒนธรรม ว่า "สภาวการณ์ต่างๆ มักเปลี่ยนแปลงได้เสมอ" แน่นอน คำพูดนั้นถูกใช้เพื่ออ้างถึงการพยายามเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตแบบเดิมของชาวจีน ในการนำประเทศสู่สากล

ประธานเหมายังบอกอีกว่า เราจำเป็นต้องเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ เพิ่มเติม และเรดการ์ดไม่ได้มุ่งหวังที่จะทำลายล้างระบอบเดิมๆ เท่านั้น หากแต่จุดมุ่งหมายที่สำคัญกว่า คือการรังสรรค์สิ่งใหม่ๆ ให้กับประชาชน

ไม่มีใครทราบว่าตอนนั้นเหมาเจ๋อตุงเคยนึกไว้หรือไม่ว่า สักวันความคิดของเขาก็ต้องกลายเป็นของเก่าไปอย่างช่วยไม่ได้ และวันหนึ่ง แนวความคิดใหม่ๆ ก็อาจจะเข้ามาแทนที่

เหตุนองเลือดที่จัตุรัสเทียนอันเหมินเกิดขึ้นหลังจากประธานเหมาเสียชีวิตไปแล้ว 13 ปี ไม่ว่ารัฐบาลจีนจะมองมันเป็นรอยด่างพร้อยของประวัติศาสตร์หรือไม่อย่างไร มันก็เป็นข้อสนับสนุนเรื่องของ "ความเปลี่ยนแปลง" ได้เป็นอย่างดี

สแตนลีย์ กวาน ใช้เหตุการณ์ครั้งนั้นเป็นฉากหลังสั้นๆ ของหนังเรื่อง Lan Yu - งานสุดอื้อฉาวของเขา โดยไม่จงใจให้มันมีความหมายอะไรชัดเจน แต่ถ้าหากนำไปจับรวมกับสถานการณ์บ้านเมืองของจีนตลอด 20 ปีที่ผ่านมา ซึ่งถูกใช้เป็นฉากหลังอย่างผ่านๆ เช่นเดียวกันอีกหลายหน - ก็อาจทำให้เราเห็นภาพของ “สิ่งอันไม่จีรังยั่งยืน” ได้ในระดับหนึ่ง

คนจีนคงเศร้ามากพอสมควร ที่ในที่สุดคอมมิวนิสต์ก็มีอายุไขของมัน กระทั่งคำว่า "สหาย (Comrade)" หรือ "ถงจื้อ" ซึ่งใช้เรียกกันภายในสมาชิกพรรคฯ ปัจจุบันก็กลายเป็นศัพท์สแลงอันหมายถึง "เกย์" หรือ "รักร่วมเพศ" ไปเสียแล้ว

กวานพัฒนาบทหนังเรื่อง Lan Yu มาจากนิยายที่ลงทางอินเตอร์เนตชื่อ Beijing Story เขียนโดยนักเขียนนิรนามที่ใช้นามแฝงว่า Beijing Comrade มันเล่าถึงความสัมพันธ์ต้องห้ามของนักธุรกิจหนุ่มใหญ่กับเด็กหนุ่มบ้านนอกคนหนึ่งในช่วงระยะเวลาอันกระเพื่อมไหวของแผ่นดินจีนราว 10 กว่าปี

ตามคำบอกเล่าของกวาน ต้นฉบับเดิมใช้ภาษาที่ค่อนข้างจะแจ้ง มันเกือบๆ จะเป็นนิยายลามกของเกย์เสียด้วยซ้ำ ถ้าบังเอิญผู้เขียนไม่ได้สอดแทรกความเป็นไปทางสังคมมาเป็นระยะ แต่สิ่งที่ติดใจเขาจริงๆ กลับไม่ใช่ตรงนั้น กวานค่อนข้างสะเทือนใจในความสัมพันธ์ของชายสองคนที่ไม่ว่าจะพยายามแค่ไหน ก็พ่ายแพ้ให้กับปัจจัยบางอย่างที่ควบคุมไม่ได้

ตัวละครเอกของเรื่องเป็นนักธุรกิจใหญ่ชื่อ ฮั่นตง (หูจง) หนังไม่ได้ปูพื้นอะไรเกี่ยวกับตัวเขามากมายนัก นอกจากว่าเขาคงได้รับสัมปทานลับๆ สักอย่างจากรัฐบาล ที่ทำให้การค้าของเขาเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว ฮั่นตงจึงเป็นเศรษฐีรสนิยมดี ใช้เงินไปกับความสุขอย่างไม่นึกเสียดายอะไร ฉากแรกที่คนดูได้เจอเขา เป็นตอนที่ฮั่นตงกำลังเล่นพูลกับเพื่อนๆ ที่บาร์แห่งหนึ่ง และเขาก็กำลังบ่นกับพนักงานเสิร์ฟว่าเหล้านอกยี่ห้อดังรสชาติไม่เอาไหนเลยจริงๆ พลางสั่งให้เอาเหล้าแก่ดีกรีกว่ามาเสิร์ฟใหม่

การสังสรรค์ในคืนนั้นจบลงด้วยการที่เขาออฟเด็กหนุ่มคนหนึ่งมานอนด้วย หลั่นอวี้ (หลิวเยว่) เป็นเด็กบ้านนอกที่เข้ามาเรียนต่อในปักกิ่งเพราะฝันถึงอนาคตที่ดีกว่า ที่บอกอย่างนั้นเนื่องจากหนังจงใจให้เขานั่งดูรายการโทรทัศน์เกี่ยวกับการแนะนำเมืองลอสแองเจลิสอย่างใคร่รู้ มากกว่าที่สนใจลูกค้าของตนเอง

ในฉากต่อมาคนดูก็ได้รู้จักกับหลั่นอวี้มากขึ้น เวลาผ่านไปจากฉากแรกนานพอสมควร ฮั่นตงกำลังเดินไปไหนสักแห่ง และบังเอิญเจอะกับหลั่นอวี้พอดี เขาทักทายเด็กหนุ่มว่าไม่ได้เจอตั้งนาน อีกฝ่ายตอบกลับมาว่า "4 เดือนครับ เมื่อวานนี้ก็ครบ 4 เดือนพอดี"

หลั่นอวี้เป็นเด็กซื่อๆ คนหนึ่งที่บริสุทธิ์เกินกว่าจะมีอะไรซับซ้อน ทันทีที่ฮั่นตงได้ยินอย่างนั้น เขาก็รู้ได้เลยว่าอีกฝ่ายคงไม่มีเล่ห์เหลี่ยมอะไร เขาเปรยๆ ขึ้นอย่างขันๆ ว่า นึกว่าเด็กหนุ่มจะเลิกเรียนและเตลิดไปไหนต่อไหนแล้ว แต่หลั่นอวี้ก็บอกอีกว่า เขาไม่ใช่คนที่จะล้มเลิกอะไรง่ายๆ อย่างนั้น

นั่นเป็นเหตุให้ฮั่นตงตัดสินใจติดต่อกับเด็กหนุ่มอีกครั้งหนึ่ง แต่มันก็ต่างกับคราวแรกซึ่งระหว่างกันอยู่ในฐานะผู้ซื้อ-ผู้ขาย หนนี้มันคงเป็นไปด้วยภาวะที่ลึกซึ้งกว่านั้น

ชีวิตคู่ของฮั่นตงและหลั่นอวี้เป็นไปอย่างลุ่มๆ ดอนๆ พวกเขาผิดใจกันหนแรก เพราะความไม่เอาไหนของฮั่นตงเอง ที่ยังคงทำตัวเพลย์บอยหาเด็กๆ มาปรนเปรอตัวเอง ลืมที่จะคิดถึงจิตใจของอีกฝ่าย แต่กวานก็บอกให้คนดูทราบว่า ฮั่นตงก็ไม่ใช่คนที่ไร้หัวจิตหัวใจอะไร หลังจากไม่ได้ติดต่อกับหลั่นอวี้ชั่วเวลาหนึ่ง และได้ข่าวเรื่องรัฐบาลจะกวาดล้างกลุ่มนักศึกษาที่ไปประท้วงที่จัตุรัส เขาก็บ้าบิ่นขับรถคันโก้ออกไปดูด้วยความเป็นห่วง

ฉากการจลาจลในจัตุรัสเทียนอันเหมินถูกนำเสนอด้วยภาพล้อจักรยานนับสิบๆ หมุนไปในความมืด ไม่มีภาพความรุนแรงให้เห็นจะตา อันที่จริงฉากที่ว่านี้จบลงด้วยความซาบซึ้ง เมื่อฮั่นตงได้พบกับหลั่นอวี้อีกครั้งหนึ่ง กวานไม่ได้ให้ทั้งสองพูดจาอะไรกัน นอกจากสวมกอดกันด้วยความโล่งอกและห่วงหา

ความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นอีกครั้ง และมีสาเหตุมาจากฮั่นตงอีกเช่นเคย เขาตัดสินใจแต่งงานกับเพื่อนร่วมงานหญิงที่คุยกันอย่างถูกคอ และแน่นอน ระหว่างเขากับหลั่นอวี้ก็ถึงคราวยุติ หนังข้ามกระโดดไปอีกครั้งเพื่อเล่าถึงเหตุการณ์หลายปีผ่านไป ฮั่นตงหย่าขาดกับภรรยา เขากลายเป็นผู้ชายเจเนอเรชั่นใหม่อย่างสมบูรณ์ คือ ล้มเหลวในการใช้ชีวิตคู่ และเปลี่ยวเหงาลำพังกับงานที่ตนเองภาคภูมิใจเป็นนักหนา

ฮั่นตงเริ่มตระหนักได้ทีละน้อยกว่า การกระเสือกกระสนดิ้นรนทางธุรกิจ และหลงลืมเอาใจใส่คนรอบข้าง กลับกลายเป็นเหตุให้ชีวิตยิ่งว่างเปล่า โลกหมุนไวไปหน่อย และฮั่นตงก็หมุนตามมันเสียจนเกินไป

วิลเลียม ชาง มือตัดต่อที่ทำงานร่วมกับสแตนลีย์ กวานมานยาวนาน (ชางควบตำแหน่งออกแบบงานสร้างและเครื่องแต่งกายด้วย) ลำดับเรื่องราวอย่างรวดเร็ว ด้วยการเล่าเรื่องแบบกระโดดข้ามช่วงเวลา ไม่มีการบอกคนดูอย่างชัดเจน ส่วนที่ดูฟุ่มเฟือยหรือรกรุงรังถูกละไปจนหมด กระทั่งฉากที่ค่อนข้างตึงเครียดและสะเทือนใจ ก็ออกมากระชับ แต่ในขณะเดียวกัน อารมณ์ก็ไม่ได้ตกหล่นหรือถูกทำให้รู้สึกว่าขาดหาย

หลั่นอวี้และฮั่นตงได้มาเจอกันอีกครั้งช่วงที่ฝ่ายหลังประสบปัญหาทางการเงิน ทุกอย่างเปลี่ยนไปมาก หลั่นอวี้ที่ครั้งหนึ่งฮั่นตงเคยมองว่าเป็นเด็กไม่ประสาโลก กลับมีการงานที่มั่นคงและยืนได้ด้วยลำแข้งของตนเอง เด็กหนุ่มได้งานดีที่บริษัทก่อสร้างแห่งหนึ่ง จีนเพิ่งเปิดประเทศ ตึกรามบ้านช่องเลยผุดขึ้นมาเป็นดอกเห็ด

ทั้งคู่กลับมาอยู่ด้วยกันอีกหนหนึ่ง ต่างฝ่ายต่างเติบโต และดูเหมือนอะไรๆ จะเป็นไปด้วยดี ถึงอย่างนั้นสแตนลีย์ กวานก็ย้ำกับคนดูเป็นคำรบสุดท้ายว่า ไม่มีสิ่งใดจีรังแม้แต่ความสัมพันธ์ที่เพิ่งผ่านพ้นมรสุม หลั่นอวี้จากไปในเช้าวันหนึ่ง และเด็กหนุ่มก็ไม่กลับมาอีก อุบัติเหตุในไซต์งานก่อสร้างคร่าชีวิตเขาไปแล้วตลอดกาล

หนังจบลงด้วยบรรยากาศเศร้าๆ ฮั่นตงพูดขึ้นมาลอยๆ เหมือนเมื่อตอนต้นเรื่อง และคนดูยังไม่ทราบความหมายที่แน่ชัด จนกระทั่งตอนจบนี่เองว่า...ตั้งแต่เธอจากไปวันนั้น ฉันยังคิดถึงเธอตลอดเวลา

กวานและวิลเลียม ชางปล่อยให้ชอตสุดท้ายเป็นภาพเสาเข็มของเขตก่อสร้างบดบังแสงพระอาทิตย์จนดูมืดไปหมด - มันไม่ใช่ภาพสวยๆ ของเมืองปักกิ่งในคราวที่หลั่นอวี้ยังอยู่กับฮั่นตงอีกแล้ว

ไม่ต้องอธิบายมากก็รู้ว่า ความเปลี่ยนแปลงยังคงทำหน้าที่ของมันได้อย่างปกติสุข




กำลังโหลดความคิดเห็น