มีข่าวไม่กินเส้นกันออกมาตั้งแต่เริ่มทำรายการ ”ผู้หญิงถึงผู้หญิง” สำหรับคู่เกาเหลา ”กาละแมร์ พัชรศรี” กับ “ไก่ มีสุข” ถึงการแย่งกันพูดเพื่ออยากเด่น จนเมื่อทั้งคู่มีโอกาสเล่นหนังเรื่อง “มอ.๘” ด้วยกันก็มีกระแสว่าไก่และแมร์แย่งซีนกันสุดฤทธิ์อีก !?!
เหตุแย่งซีนนี้รุนแรงถึงขนาดทำให้ทั้งคู่เล่นสงครามประสาทกัน เวลาพักกองก็อยู่คนละมุมไม่ยุ่งเกี่ยวไม่สุงสิงกันเลย อย่างไรก็ตามเมื่อสอบถามไปยัง “มด นพพร วาทิน” ในฐานะผู้อำนวยการสร้างหนังเรื่องนี้ยืนยันว่าทั้งไก่และแมร์นั้นยังซี้และรักกันดี
“บทของแมร์กับไก่เยอะพอๆ กันเลยครับเพราะเล่นตั้งแต่สาวยันแก่อายุ 90 กว่าเลย ที่มีข่าวว่าบทจะไม่เท่ากันแล้วแย่งซีนกัน ไม่มีหรอก จริงๆ แล้วผมก็คิดอยู่นานพอสมควรเหมือนกันเกี่ยวกับเรื่องบทเนี่ย พยายามทำมาอยู่หลายรอบ บทมีอยู่สัก 11 - 12 ร่างได้กว่าจะลงตัว”
“ตัวไก่และแมร์ค่อนข้างจะมีอะไรเล่นเพราะว่าคาแร็กเตอร์มันค่อนข้างฉีกกันไปเลย ไก่ก็เรียบร้อย น่ารัก แต่แมร์นี่มุทะลุ ดุดัน แต่ในบททั้งคู่ก็จะต้องเดินไปด้วยกัน เข้าฉากพร้อมกันตลอดทุกฉากเลย เวลาเขาเข้าฉากก็ไม่มีปัญหาอะไรเลยนะและดีมาก”
“ข่าวที่ว่าทั้งคู่เกาเหลาเพราะเรื่องบทใครเด่นกว่ากันไม่ๆๆ นะ พวกเขาน่ารัก เขียนไปเลยว่าไม่เป็นจริง โห!รักกันจะตาย เขาซี้กัน มีการมาพูดว่าคนนี้มาสาย เอ๊ย! ชั้นมาก่อนนะ ชั้นไปหาพี่มดก่อนนะด้วย ในบรรดา 4 คนเนี่ยพี่ว่าไก่กับกาละแมร์เนี่ยค่อนข้างสนิทกันมาก มีอะไรก็มาคุยกัน เออวันนี้เธอเล่นแบบนี้นะ ชั้นเล่นแบบนี้นะ ปรึกษากันตลอด เขาก็คุยกันตลอดตั้งแต่เริ่มเล่นหนังจนถึงวันนี้เลย”
“และพี่ก็ไม่รู้สึกวิตกเลยที่ข่าวจะบอกว่าหนังพี่ทำให้เพื่อนซี้เขาทะเลาะกันเพราะพี่คิดว่าเราดูจากงานนะหรือสิ่งที่เราเห็นน่ะนะว่าเวลาเขามาเจอกันคือเขาจะเอื้อกันน่ะ”
ในเรื่องแมร์และไก่ต้องมีปะทะคารมกันตลอดด้วย
“ใช่ บางทีสิ่งต่างๆ ความคิดเห็นของเขาไม่เหมือนกันเลยก็คือในเรื่องความรัก ก็มีปะทะกันเยอะเหมือนกันนะ เพื่อนกับเพื่อนขาดกันเลยน่ะ แบบว่าแมร์ห้ามไม่ให้เด็กมีความรักแต่ไก่บอกว่าความรักเป็นสิ่งที่มีประโยชน์อะไรเป็นต้น สุดท้ายเขามีเรื่องกันแล้วหายไปเลย แล้วมาเจอกันอีกทีตอนอายุ 90 น่ะ”
ห่างหายจากการทำหนังหลายปี กลับมาเที่ยวนี้ ”มด วาทิน” รับหน้าที่เป็นโปรดิวเซอร์เอง โดยได้ร่วมหุ้นกับ “เสี่ยเจียง สมศักดิ์” แห่งสหมงคลฯ ทำบ.ฟิล์มเอเซียขึ้นเพื่อหวังทำหนังคุณภาพที่เปี่ยมไปด้วยสาระ
“มอ.๘ เป็นโปรเจ็กต์แรกของบริษัทเลยเพราะว่าพี่อยากทำอะไรที่มันง่ายๆ ก่อน ทำอะไรที่มันสบายๆ ก่อน แล้วอีกอย่างอยากให้หนังออกมาค่อนข้างมีสาระ จริงๆ พี่มีหนังอยู่อีก 2 เรื่อง (“คู่แรด” กับ “ยามาดะ”) พี่ไม่ได้หวังรายได้ พี่มดกะว่าเราน่าผลิตหนังให้ทุกคนได้ดูหนังของเราว่าเป็นหนังที่ค่อนข้างมีคุณภาพและสาระซึ่งบทต้องนำก่อนเลย”
“ก็ไม่ได้ตั้งเป้ารายได้นะจริงๆ สำหรับเรื่องมอ.๘ ถามว่าทำหนังอยากได้รายได้อะไรแต่ว่าคิดว่าเคยคุยกับเสี่ยว่าไม่เป็นไรเสี่ยแค่บอกว่าให้มันดีก่อน จริงๆ แล้วเราทำเป็นเรื่องแรก พี่กลัวคนดูหรือผู้สื่อข่าววิจารณ์ว่าหนังไม่ได้เรื่องเลย หนังไร้สาระ พี่ไม่อยากให้เป็นแบบนี้กับหนังเรื่องแรก”
“กลัวมั้ยเรื่องรายได้ก็กลัวน่ะนะแต่คิดว่าน่าจะเป็นอะไรที่ดี พี่อยากให้หนังเรื่องนี้ให้อะไรกับคนดูนะ คนดูได้อะไรกลับบ้าน ถามว่าอยากได้รางวัลมั้ยอยากได้นะ อยากให้แมร์ได้อยากให้ไก่ได้หรืออยากให้จือ-ยงยุทธ พินิจพงศ์(ผู้กำกับ)เขาได้รางวัลนะ”