xs
xsm
sm
md
lg

‘หนุ่มบาว-สาวปาน’ ทางเบี่ยงที่ไม่ต้องเสี่ยงล้มเหลว (จบ) / พอล เฮง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


การดำรงอยู่ของสิ่งหนึ่ง ก็ต้องมีการอิงแอบกับการดำรงอยู่กับของอีกสิ่งหนึ่งด้วยเช่นกัน

ภาพลักษณ์ที่สถิตอยู่ วัยที่ตกตะกอน รวมถึงวิธีคิดในแบบ "คาราบาว" เมื่อมาผสานกับความเชี่ยวชาญของทีมแต่งเพลงในตลาดเพลงป็อป บวกความสดและความเบ่งบานในวัยสาวและเสียงร้องของ "ปาน-ธนพร แวกประยูร" ได้ทำให้เกิดการผนวกผสานรวมอย่างกลมกล่อมที่แสนกลมกลืนของบทเพลงไปโดยปริยาย

ยังอยู่ในประเด็นการเขียนเนื้อร้อง กลับมาดูการเขียนเพลง ในคราวก่อนที่พูดถึง "สุทธิพงษ์ สมบัติจินดา" ซึ่งยังไม่จบ เขาสามารถตีโจทย์บทเพลงในแบบหัวควายได้แตกหมดจด ไม่ว่าจะเป็น ‘หนุ่มบาว-สาวปาน’, ‘บัวผัน (ถึงควายทุยภาคพิเศษ)’ และ ‘รุ่นใหญ่’

นอกจากนี้เขายังแสดงความเข้มข้นในอีกโสต ด้วยการเขียนเพลงในแนวทางแบบเทียรี่ เมฆวัฒนา ในบทเพลง ‘เสียตัว...อย่าเสียใจ’ เป็นทางเพลงที่ทำให้เทียรี่ได้ร้องออกมา เพื่อขยับเข้าสู่ปัญหาของวัยรุ่นร่วมสมัยในเรื่องการเสียตัวให้กับความรักที่ลวงหลอก ซึ่งแน่นอนอยู่แล้วที่คนฟังนั้นรับรู้มาตลอดว่า บทเพลงแบบเทียรี่นั้น ยืนอยู่ข้างผู้หญิงที่เสียเปรียบและถูกตีตราบาป ซึ่งเป็นเสมือนโลโก้ของเทียรี่

มาถึงขาใหญ่อย่าง แอ๊ด คาราบาว กันบ้าง เขารับผิดชอบเขียนเพลงถึง 3 เพลงด้วยกันคือ ‘ดอกไผ่บาน’, ‘สุมไฟรัก’ และ ‘มนต์รักผีเสื้อ’ เขากลับมาใช้วิธีคิดในการเขียนเนื้อร้องและทำนอง เสมือนกับการทำอัลบั้มเดี่ยวของตัวเอง รวมถึงการหยิบเอามุมมองความรักที่แฝงเนื้อหาลุ่มลึกในเชิงปรัชญาอันคมเข้มมานำเสนอ เรียกว่า ฝีมือไม่ตก และสามารถรักษาความลึกซึ้งในการใช้ภาษาที่แยบคาย สะท้อนห้วงลึกภายในของชีวิตออกมาได้อย่างน่าฟัง ถือว่า ชั่วโมงบิน พรสวรรค์ในการเขียนเพลงของเขานั้น ฝังแน่นอยู่อย่างไม่ยอมจางหาย แม้หลายภาคส่วนของชีวิตจะสวิงไปกับกระแสธุรกิจและเรื่องราวในสังคมร่วมสมัยที่หลายคนไม่เห็นด้วยก็ตาม

อีก 3 เพลงที่เหลือ เทียรี่ ย้ำตัวตนของตัวเอง ยืนยันความถนัด ยังพูดถึงชีวิตหญิงสาวซึ่งขายบริการทางเพศ ซึ่งมาจากความจำยอมในเชิงเศรษฐกิจของสังคม ชั่วดีกับปากท้องที่ไม่สามารมาบรรสานกันได้ของหญิงสาวผู้นำตัวเข้าสู่เส้นทางสายมืดมนในบทเพลง ‘วิญญาณไม่ขาย’

ส่วนเล็ก คาราบาว หรือปรีชา ชนะภัย ยังใช้อารมณ์ขันในการแต่งเพลงที่หนักในเชิงปรัชญาชีวิตอยู่เช่นเดิม พูดถึงชีวิตคู่ที่ไปผูกโยงกับกับความตายได้แยบยล

อีกเพลงคือ ‘เหงา...ไม่เข้าใจ’ ซึ่งใช้ทีมเขียนเพลงของอะบอริจิ้นส์ ก็ไม่ได้หลุดโทนออกจากอัลบั้ม เป็นเพลงรักของชายผู้ผ่านชีวิตที่เหงา โดดเดี่ยว อยากหาคนมาเคียงใจ นุ่มลึก และเข้าท่า

ซึ่งบทเพลงทั้ง 10 เพลงนั้น ในลักษณะของการเขียนเนื้อร้อง เนื้อหาที่สื่อสารออกมาสามารถเชื่อมเอาความเป็นคาราบาวให้มุ่งสู่ชีวิตร่วมสมัยในปัจจุบัน สามารถย้อนกลับสู่ยุครุ่งเรืองหรือคลาสสิก ไลน์-อัพ ของวิธีการเขียนเพลงแบบคาราบาวได้เป็นอย่างดี

มาถึงประเด็นที่ 2 ที่จะกล่าวถึง ก็คือ ทักษะการใช้เสียง เนื้อเสียง มวลรวมของเสียงร้อง และการประสานเสียง คงต้องข้ามในส่วนของสมาชิกวงคาราบาวที่มีแอ๊ด-เทียรี่-เล็ก คาราบาว เป็นแกนอยู่ สามารถรักษาตัวตนและมาตรฐานไว้ได้ครบครันและครบเครื่อง แต่กลับเพิ่มเสน่ห์ที่เสียงร้องของปาน-ธนพร ทำให้เกิดความสอดประสานได้เป็นอย่างดี

การเรียงเพลงในอัลบั้มมีความสำคัญ และสะท้อนถึงความเป็นมืออาชีพอย่างสูง ในการผ่อนหนักผ่อนเบาของการฟัง ทำให้เป็นเอกภาพไปทั้งอัลบั้ม รวมถึงช่วยผลักเสริมในเสียงร้องของปานให้โดดเด่นขึ้นมาได้อีกทอดหนึ่ง ต้องบอกว่า คุณภาพเสียงของปานที่มีทักษะการร้องเพลงที่ดี มีแก้วเสียง และเนื้อเสียงที่นุ่มหนา มีพลังขับในการร้องเพื่อสร้างอารมร์เพลงได้ดีอยู่แล้วในอัลบั้มของตัวเอง ในงานเพลงชุดนี้ ปานสามารถตีความตอบโจทย์ และสร้างอารมณ์ร่วมของการร้องเพลงได้อย่างหมดจด สามารถแสดงความรอบด้านของการเป็นนักร้องที่ดีออกมาได้

นับได้ว่า เธอสามารถข้ามขึ้นมาเป็นนักร้องระดับแถวหน้าที่มีวิธีการร้องเพลงในหลายรูปแบบ จังหวะการร้องของเธอนั้นสามารถคลี่คลายจากพื้นฐานเพลงป็อปไปสู่ลูกทุ่งสามช่า, บัลลาดเพลงเพื่อชีวิตที่เจืออารมณ์ของเพลงลูกกรุงได้อย่างหมดจด รวมถึงการประสานเสียง และร้องคู่ที่ ปาน เปล่งพลังในการร้องได้ทัดเทียม และไม่เสียหน้า เทียบชั้นรุ่นเก๋าของคาราบาวได้เยี่ยมยอด

ในที่นี้ คงไม่ต้องพูดถึงภาคดนตรีที่การเรียบเรียงดนตรี และเสียงประสานนั้น สามารถเดินตามรอยทางบทเพลงแบบคาราบาวได้อย่างเนียนนวล ไม่ติดขัด แม้ไม่มีอะไรใหม่ เดินตามรอยทางเก่าๆ แต่ก็เชื่อขนมกินได้ ในท่วงทำนองที่มักคุ้น และเคยชินกันอยู่แล้ว

มีหลายเสียงบ่งชี้ว่า คาราบาว มีวันเวลาแค่การเก็บเกี่ยวไหลไปตามชื่อเสียงที่เคยสร้างทำมาในอดีต และรอจนกว่าจะหมดมุกในการสร้างสรรค์ที่กำลังงวดลงไปไปเรื่อยๆ ขอแต่ประคองตัวรักษาฐานแฟนเพลงของตนเอาไว้ให้ได้ ก็ถือว่าหรูแล้ว

สำหรับปานแล้วนั้น แม้จะสร้างแบบแผนเพลงป็อปของตัวเองขึ้นมาได้ในระดับหนึ่ง แต่ก็ยังไม่สามารถครอบครองใจคนฟังได้ในตลาดวงกว้างได้ถึงขั้นเป็น ซูเปอร์สตาร์ แม้จะมีการจัดวางให้เป็นผู้หญิงเข้มแข็งผ่านบทเพลง สร้างตัวตนพิเศษขึ้นมาก็ตาม

เพราะฉะนั้น อัลบั้ม ‘หนุ่มบาว-สาวปาน’ จึงเป็นการสมประโยชน์ของทั้ง 2 ฝ่ายที่ลงตัวที่สุด และสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มจากแนวทางเดิมๆ ในทางเพลงของตัวเองได้ในทิศทางที่น่าพอใจ แม้จะไม่มีความน่าประหลาดใจถึงขั้นสร้างงานที่เป็นรูปแบบใหม่ๆ แต่ก็ได้แสดงให้เห็นถึงงานเพลงที่เคยอยู่ในวิถีทางของคนเพลงป็อปร็อกเพื่อชีวิตในยุคก่อน ที่คาราบาวเคยสร้างทำ และแผ้วทางมาถึงทุกวันนี้

ต้องยอมรับว่า ทุกเพลงในอัลบั้มนี้ยิ่งฟังยิ่งเข้าหู ยิ่งฟังก็ยิ่งมีอะไรให้จับมาชั่งคิด มาทบทวนภายใต้ความเพลิดเพลิน ซึ่งจริตแบบนี้หาไม่ได้แล้วในอัลบั้มเพลงของนักร้องนักดนตรีในยุคปัจจุบัน ทั้ง 10 บทเพลงสามารถตรึงให้คนฟังเพลินหู และซึมซาบผ่านองค์ประกอบที่ลงตัวในบทเพลงได้

น่าดีใจแทนผับเพื่อชีวิตหรือโรงเบียร์ต่างๆ ที่จะมีบทเพลงมาป้อนให้วงดนตรีที่เล่นในร้านได้มีวัตถุดิบของเพลงมารับใช้คนฟังได้อย่างไม่เคอะเขิน และทุกเพลงในอัลบั้มสามารถนำมาใช้ได้หมด เพราะสามารถเข้าไปสู่ไลฟ์สไตล์หรือวิถีชีวิตของคนฟังเพลงที่มีรสนิยมชมชอบในทางเพลงของคาราบาวที่มีมาแต่ดั้งเดิม

อัลบั้ม ‘หนุ่มบาว-สาวปาน’ ถือว่าเป็นงานทีดี แต่ไม่ถึงขั้นดีเลิศหรือยอดเยี่ยม มีคุณลักษณ์ของอัลบั้มเพลงป็อปร็อกเพื่อชีวิตที่สื่อสารทะลวงเข้าไปเจาะแก่นของยุคสมัย ภายใต้ร่มเงาของคาราบาวได้อย่างเต็มที่

ท้ายสุด ถ้ามองในมุมขำๆ อัลบั้มชุดนี้ไม่น่าตั้งชื่อว่า ‘หนุ่มบาว-สาวปาน’ เพราะขัดแย้งกับความเป็นจริงของวันวัยที่ผ่านมาสำหรับสมาชิกวงคาราบาว กับปาน-ธนพร แต่สมควรตั้งชื่อว่า ‘วัยทองบาว-สาวปาน’ หรือ ‘โก๋แก่บาว-สาวปาน’ น่าจะเหมาะสมที่สุด
.........................
paulheng_2000@yahoo.com
กำลังโหลดความคิดเห็น