xs
xsm
sm
md
lg

ผู้ผลิตร้อง ผบ.ทบ. ผังช่อง 5 ส่อแววไม่โปร่งใส

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ปรับผังทีไรก็มีเรื่องให้ปวดหัวกันอยู่เรื่อย สำหรับสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก ช่อง 5 ล่าสุดปรับผังกันวันนี้ แม้ผลอย่างเป็นทางการจะยังไม่ออกแต่ก็มีข่าวลือหนาหูว่ามีบางบริษัทเอาเวลาไปขายเก้บค่าเช่าเวลาเรียบร้อยแล้ว ร้อนถึงผู้ผลิตบางเจ้าต้องเข้ายื่นหนังสือร้องเรียนต่อ ผอ.สถานีคนใหม่ที่เข้ารับตำแหน่งได้แค่ 1 วัน ในขณะที่ผู้บริหารสถานียันสัดส่วนรายการบันเทิงแค่ 30% และพร้อมที่จะแก้ไขแต่คงต้องใช้เวลา

เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ นาง “จำนรรค์ ศิริตัน” (ผู้บริหารเจ เอส แอล) นายกสมาพันธ์สมาคมวิชาชีพวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ในฐานะตัวแทนผู้บริหารจากบริษัทผู้ผลิตรายการโทรทัศน์และวิทยุที่เป็นสมาชิกสมาพันธ์ฯ อีกจำนวนมาก อาทิเวิร์คพ้อยท์ของ “เสี่ยตา”-ปัญญา นิรันดร์กุล, อาร์เอส โปรโมชั่น, ทีวีธันเดอร์,เอ็กแซ็กท์ รวมไปถึงเจ เอส แอล ได้เข้าพบ พล.ท.วุฒิชัย พรพิบูลย์ ผอ.สถานีโทรทัศน์กองทัพบก เพื่อร้องเรียนเพื่อให้มีการตรวจสอบความไม่ชอบมาพากลส่อเค้าในทางทุจริตในการจัดสรรเวลาในการออกอากาศที่มีบางบริษัทรับทราบข้อมูลล่วงหน้าและทำการขายเวลาให้กับบริษัทเอเจนซี่ทั้งที่ยังไม่ทราบผลการปรับผังอย่างเป้นทางการเสียด้วยซ้ำ

ด้านผ.อ.สถานีคนใหม่บอกรับทราบในปัญหา และยืนยันต้องใช้เวลาเพราะตนเพิ่งเข้ารับตำแหน่งได้แค่หนึ่งวัน ยันข่าวลือยัดใต้โต๊ะ ยังไม่เสียภาพลักษณ์สถานีเพราะยังไม่ทราบข้อเท็จจริงที่แน่นอน

“ผมในฐานะคนใหม่ที่เข้ามาอ่ะนะ ยังไงก็ต้องบอกว่าต้องขอเวลาสรุปนะ ผมยังไม่รู้ว่าจะเรียบร้อยวันไหน เพราะผมเพิ่งเข้ามาได้แค่ 24 ช.ม.เอง สำหรับผมยังคิดว่ายังไม่น่าจะมีปัญหาอะไรนะ ซึ่งปีหน้าผมก็จะทำอะไรให้มันชัดเจนมากขึ้น แต่เรื่องนี้มันต้องใช้เวลา”

“ส่วนนโยบายอะไรก็แล้วแต่ผมคงจะไม่ไปเปลี่ยนอะไร จะยึดตามนั้นเป๊ะ เค้าปฏิบัติตามกันมาอย่างไรผมจะทำอย่างนั้นเลย ก็ต้องดูว่าจะดำเนินการอย่างไรกันต่อไป มันต้องปรับปรุงกันไปเรื่อยๆ”

ส่วนตำแหน่งผู้อำนวยการสถานีคนใหม่ที่ได้รับ พล.ท.วุฒิชัยบอก ตัวเองเหมาะสมที่สุดแล้ว และยืนยันข่าวลือที่มีการยัดเงินใต้โต๊ะนั้นยังไม่ใช่เรื่องจริง เชื่อสถานียังไม่เสียภาพลักษณ์
“แน่นอนเลยผมเหมาะสมที่สุดแล้ว คือเรื่องรายการตอนนี้เนี่ยบอกเลยว่าตามสัดส่วนที่กำหนดไว้คือ 30:30:40 ซึ่ง 30 แรกก็เรื่องของข่าว 30 ต่อมาคือสัดส่วนของบันเทิง ส่วนอีก 40 เนี่ยเป็นส่วนของสังคม ซึ่งบันเทิงจะเป็นยังไง ผมต้องขอใช้เวลาดูอีกที อย่าเพิ่งไปเขียนว่ามันยังไง เพราะอะไรมันก็ยังไม่กระจ่าง”

“ผมว่ามันไม่ถึงกับเสียภาพลักษณ์หรอกนะ เพราะว่าอะไรๆ มันยังไม่ปรากฏออกมา อย่าเพิ่งอะไรกันไปเลย ถ้ายังไงผมจะดูแลต่อไปหลังจากนี้แต่ผมขอเวลา ส่วนผมคงต้องฝากตัวเองไว้ด้วย เพราะผมก็เพิ่งมา”

ด้านนางจำนรรค์ ศิริตัน ตัวแทนจากบริษัทผู้ผลิตที่ได้รับความเสียหายจากการปรับผังครั้งนี้ เปิดเผยว่าการจัดผังครั้งนี้ส่อแววไม่ชอบมาพากลตั้งแต่ต้น เพราะในขณะที่ผู้ผลิตรายเก่าไม่รู้ตัวมาก่อน แต่มีบางบริษัทออกขายเวลาสถานีกับทางเอเจนซี่ ถือว่าผิดกติกา
“ความจริงวันนี้ที่เข้ามาร้องเรียนกับทางท่านผอ.สถานี มีการส่งจดหมายร้องเรียนถึงท่านผบ.ทบ.(พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน) ผ่านท่านผอ. ซึ่งที่ผ่านมาก็เกิดข่าวลือมากมาย ว่ามีการวิ่งเต้น อย่างนั้นอย่างนี้และมีบางบริษัทที่แอบเอาเวลาไปขายกับทางบริษัทเอเจนซี่ ซึ่งมันผิดมารยาทของการปรับผังของทุกๆ ครั้ง ซึ่งจะมีการบอกกล่าวกับบริษัทผู้ผลิตก่อน จริงๆ พวกเราไม่รู้เลยนะว่ามันเป็นยังไง มองดูว่ามันเริ่มมีความไม่โปร่งใสเกิดขึ้น”

“เมื่อมีการเปลี่ยนผู้บริหารก็ต้องมีการบอกให้ท่านทราบ เรียกว่าบอกกล่าวก็น่าจะใช้ เพื่อให้ท่านได้ช่วยตรวจสอบ ถ้าทุกคนทำตามระบบที่ตั้งไว้ งานอย่างไรนำเสนออย่างนั้นมันก็จะไม่เกิดความวุ่นวาย ท่านผอ.ท่านเข้ามาพอดี ก็เลยมายื่นให้ท่านได้ทราบ ก็รายงานท่านไปตามนั้นแหละ บอกว่าผู้ผลิตเดิมยังไม่มีใครรู้ตัวเลย”

“ส่วนหลายๆ บริษัทเราก็ชวนมานะ แต่บางคนเค้าก็กลัวบ้าง อะไรบ้าง บางค่ายก็ไม่ได้มีภาระเกี่ยวข้องเค้าก็ไม่มาร่วมอย่างกันตนา แต่กับทางบริษัทที่เอาเวลาไปขายเราคงจะไม่มีการพูดกันแล้ว เพราะถือว่าว่าเค้าได้ทำไปแล้ว ถ้าสมมติว่ารายการไหนไม่ดี โดนปรับออกก็ถือเป็นสิ่งที่เราต้องแก้ไข ส่วนบางรายการที่ดีอยู่แล้วโดนปรับออกถ้าเป็นแบบนั้นก็ต้องรอดูกันต่อไป ใครทำอะไรไว้ย่อมรู้ดีนะ”

“จริงๆ เวลาปรับผังเราก็ไม่ได้มองว่ามันจะเกิดแง่ลบอะไร เราก็มองทุกอย่างในแง่ดีทั้งนั้นแหละ เพียงแต่ว่าเมื่อมีข่าวลือว่ามีการจ่ายใต้โต๊ะ มีบางบริษัทรู้ผลก่อนการปรับผังมันเกิดขึ้น เราก็คิดว่ามันไม่โปร่งใส จะบอกว่านักข่าวก็ต้องมองตามฐานนะ ฐานรายการไหนดีโดนปลดก็ดูกันเอา แล้วดูซิว่ารายการที่แทนมันดีกว่าไหม แล้วสัมปทานที่ได้เนี่ย ไม่ใช่คนในวงการโทรทัศน์อีกด้วย มันยิ่งทำให้รู้สึกว่ามันไม่ใช่แล้ว”

สำหรับบริษัทที่เข้าข่ายใช้เส้นใช้สาย ด้านผู้บริหารเจ เอส แอล ยังฝากให้สะกดคำว่า “พอ” ไม่มีมาตรการดูแลแต่เชื่อว่าทำอะไรย่อมได้อย่างนั้น
“จริงๆ เราคงไปควบคุมอะไรไม่ได้ แม้ว่าสาเหตุจะมาจากบริษัทก็ตาม แต่อยากจะบอกว่าให้นึกถึงคำว่าพอ ให้นึกถึงสิ่งที่ในหลวงทรงมีพระราชดำรัสว่าให้รู้จักคำว่าพอ คุณทำงานมาเพื่อหวังยัดใต้โต๊ะงั้นหรือ คุณทำไปเพื่ออะไร เราต้องทำงานอย่างมีศักดิ์ศรีและยอมรับในผลงานของตัวเองว่าแค่ไหน”

“ในส่วนของเจ เอส แอลก็คงไม่มีอะไรที่ต้องขยายต่อไป กับทางช่องอื่นเราก็ไม่เคยมีปัญหา จะมีก็แต่ช่องนี้ แต่ว่าเราก็ยังจะยึดมั่นทำงานคุณภาพเหมือนเดิม เราไม่เคยใช้เงินมาเส้นสายหรือทำอะไรเพื่อให้ได้ซึ่งงาน ยังยืนยันเจตนารมย์เดิม อันไหนดีเรายินดีจะทำให้ดียิ่งขึ้น ส่วนอันไหนไม่ดีช่องตัดของเราเราก็ต้องยอมรับ ซึ่งที่ผ่านมามีแค่รายการขยับปอดเท่านั้นที่เป็นรายการบันเทิงที่เหลือเราก็ป้อนรายการเพื่อสังคมตลอด”

“ยังไงก็คงจะรอดูต่อไปว่าผลจะออกมาอย่างไร สิ่งที่บอกกล่าวในวันนี้ก็คงจะได้รับการแก้ไข ท่านผอ.ท่านก็คงทำตามนโยบายต่อไป ซึ่งทางเราก็มีสทิธิ์ที่จะเรียนท่านให้ทราบไว้ว่ามันมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นเท่านั้นเอง”

ทั้งนี้สำหรับผังใหม่ที่ออกมานั้นส่วนใหญ่จะเป็นการสลับสับเปลี่ยนเวลากันซะมากกว่า โดยมีรายการบันเทิงชื่อดังอย่างรายการ "สายตรงบันเทิง" และ รายการ "เป็นข่าว 5" ถูกเด้งออกจากผัง


กำลังโหลดความคิดเห็น