นักร้องหนุ่มลูกครึ่งจากค่ายอาร์เอส "หลุยส์ สก็อต" ขำไม่ออกหลังเป็นข่าวข้อหาขับรถชนคน เจ้าตัวแจงไปแถวที่เกิดเหตุจริงแต่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ลั่นหากเจ้าทุกข์ยังยืนยันว่าเป็นตัวเองโดนฟ้องกลับแน่
เปิดแถลงข่าววันนี้(1ธ.ค.) ที่ตึกอาร์เอส ย่านลาดพร้าว เป็นการด่วน สำหรับหนุ่ม “หลุยส์ สก็อต” กรณีมีเจ้าทุกข์รายหนึ่งเข้าแจ้งความกับตำรวจ โดยมีแท็กซี่เป็นพยานอ้างว่าคนหน้าเหมือนหลุยส์เป็นผู้ขับชนฝ่ายโจท์ เจ้าตัวแจงไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ยอมรับไปแถวๆ ที่เกิดเหตุจริงแต่ไม่รู้เรื่องและก็ไม่ได้ขับรถเอง ยันหากเจ้าทุกข์ยืนยันว่าตนเป็นผู้กระทำผิดอาจฟ้องกลับเพราะทำให้เสียชื่อเสียง
"ผมไม่รู้เรื่องอะไรเลย เพิ่งรู้เมื่อ 8 โมงครึ่งเมื่อเช้านี้ คุณแม่มาตามผมที่ห้องแล้วถามว่าไปทำอะไรไว้ ซึ่งเมื่อคืนผมไปเที่ยวผับซานติก้า ไปดูคอนเสิร์ตโจอี้บอย แล้วเมื่อคืนผมไม่ได้ขับรถเองเพื่อนมารับแล้วก็มาส่ง เพื่อนมารับออกจากบ้านเมื่อประมาณ 4 ทุ่มครึ่ง พอเลิกแล้วก็กลับเลย”
“โทรไปที่สน.ตอน 9 โมงถามว่าใครเป็นคนบอกว่าเป็นผม สน.ก็บอกไม่มีพยานไม่มีอะไรเลย มีแท็กซี่บอกว่ามีคนขับรถชนหน้าคล้ายหลุยส์แต่ไม่ได้ระบุว่าเป็นหลุยส์จริงๆ แล้วหลุยส์ก็ยังไม่ได้เจอกับผู้หญิงที่ถูกรถชน มันเป็นปากต่อปากไปพูดกันว่าหน้าเหมือนหลุยส์มันก็เลยเป็นข่าวขึ้นมา โดยที่ผมก็ไม่รู้เรื่องอะไรเลย”
“รถที่เกิดเหตุเป็นรถนิสสันแต่รถของผมก็เป็นรถซีอาร์วี ตอนที่แม่มาปลุก หลุยส์ก็นอนอยู่ รถของผมเข้าอู่อยู่ เข้ามาได้ 2 อาทิตย์แล้ว ถ้าปกติผมทานเหล้า ผมจะไม่ขับรถเองจะนั่งแท็กซี่ แล้วก็เมื่อวานที่ไปซานติก้าจอห์นนี่ก็ไปด้วยแต่ว่าไม่ได้กลับพร้อมกัน สำหรับผมไม่ได้คิดว่ามันทำให้ผมเสียชื่อเสียง เพราะผมไม่ได้ทำอะไรเลย มันคือปากต่อปาก จริงๆ อยากเจอกับเค้าให้มาลองคุยกันว่าใช่หน้าอย่างนี้หรือเปล่า ใช่เราหรือเปล่า ขอความมั่นใจหน่อยว่าเป็นเรา”
นอกจากนี้ทางฝ่ายนักร้องดังยังย้ำด้วยว่าหากคู่กรณียืนยันว่าเป็นตนจะเอาเรื่องกลับ เผยเสียความรู้สึกแถมเสียชื่อเสียงทั้งที่ไม่ได้ทำผิดแต่อย่างใด
"ความรู้สึกตอนนี้ก็คือเสียชื่อเสียง และก็เสียความรู้สึกมากๆ ผมไม่รู้ว่าแม่ไปเอาข่าวมาจากไหนแต่มีคนมาบอกแม่ มีออกรายการอะไรซักอย่าง แต่ไม่รู้รายการอะไร”
“ยังไม่เอาเรื่องนะ แต่ถ้าไปคุยแล้วยังยืนยันว่าเป็นผมก็อาจจะเอาเรื่อง ตอนนี้คุณแม่ก็หายตกใจแล้ว เพราะว่าแม่เชื่อผม ที่บ้านผมมีรถ 2 คัน ก็คือ ซีอาร์วีสีดำแล้วก็โตโยต้าสีน้ำเงิน รถนิสสันไม่มี เพื่อนที่ไปด้วยก็ไม่ได้ขับรถนิสสัน ความจริงก็รู้สึกเสียใจ สน.ไม่ได้ให้ข้อมูลเลยคือเค้าพูดไม่ได้เต็มปากเต็มคำ บอกว่าหน้าตาเหมือนตอนที่ออกจากเอกมัยก็ออกไปทางเพชรบุรีไปทางศรีนครินท์ถึงบ้านประมาณตี 2 ไปคุยกับตำรวจแล้วแต่ว่าตำรวจไม่มีข้อมูลอะไรให้เลย ถ้าเกิดว่าเค้ามาพูดขอโทษก็ดี ไม่ขอโทษก็ไม่เป็นไร”
“เกิดเรื่องแบบนี้แม่เค้าก็ตกใจ แต่ปกติเค้าทำบุญอยู่แล้วนะ”


