ปากเป็นพิษเข้าให้แล้วสำหรับ “ตุ๊กตา อุบลวรรณ” ที่ออกตัวว่าเป็นคนปากจัดอย่างแรงถึงขนาดไม่มีใครกล้าจีบ งานนี้ไม่ได้เสียแค่เรื่องผู้ชายอย่างเดียวแต่ระบาดถึงงานดีเจด้วย เหตุเจ้าตัวเมาท์ข่าวเพื่อนนักแสดงด้วยกันออกทางวิทยุจนโดนขู่ฟ้อง แต่สาวเจ้าไม่หวั่นลั่นไม่กลัวเพราะตัวเองไม่ได้พูดพล่อยๆ
"หนูปากหมาก็มีขอบเขตนะจะหมาเฉพาะคนที่แบบหมาจริงๆ อ๋อไม่ใช่ (หัวเราะ) คนที่เขาทำอย่างนั้นจริงๆ ทุกวันนี้ก็จะแก้ตัวให้กับดาราเยอะว่าบางทีมันก็เรื่องของเขา บางทีพี่นักข่าวก็แหม! เขาจะไอ้นี่ก็ไปถ่ายเขามา ถามว่าตุ๊กตาไปกัดนักข่าวจะดีเหรอ คือก็กัดแบบน่ารักน่ะ จะมีตบท้ายว่า โธ่! เดี๋ยวพี่เขาก็โดนเจ้านายว่าถ้าเขาไม่ได้ข่าว แบ่งๆ กันไปทำมาหากิน ก็จะบอกว่าดาราก็ต้องเข้าใจนักข่าวนะคะ นักข่าวก็ต้องเข้าใจดารา"
ปากดีจนโดนขู่ฟ้องทางหน้าหนังสือพิมพ์
"ก็ไม่เคยปากหมาขนาดรับไม่ได้น่ะ จะกัดน้อยมาก กัดเฉพาะเรื่องที่เรากัดได้ แต่ก็มีประเภทที่ว่าเราเมาท์เรื่องคนอื่นแต่ดาราอีกคนหาว่าเราไปว่าเขา แล้วก็ไปลงข่าวตามหน้าหนังสือพิมพ์ว่าจะฟ้องตุ๊กตาเพื่อให้ตัวเองดังขึ้นมารึไงไม่ทราบน่ะค่ะ"
"คือตอนต้นเรื่องของข่าวที่เราพูดถึงน่ะเราจะเอ่ยชื่อจริง นามสกุลของดาราคนนั้นแล้วแต่พอเล่ามาเรื่อยๆ แล้วเราเรียกแค่ชื่อเขาไงคะ แล้วชื่อดารามันก็ซ้ำกันหลายคนเผอิญว่าชื่อนั้นไปเหมือนทั้งดารา-นางแบบและนางงาม"
"แต่คนที่จะฟ้องตุ๊กตาน่ะเขานึกว่าเป็นตัวเขา ก็ไม่รู้ว่าเขาไปเป็นมือที่สามจริงรึเปล่าทำไมถึงร้อนตัว เนื้อข่าวที่เราเมาท์ไปก็ประมาณว่านางแบบคนนี้ตัวดำและผอมมากก็เลยมีข่าวว่าเขาติดยาและมีข่าวว่าเป็นมือที่สามด้วย แต่ตุ๊กตาก็แก้ตัวไปว่าเขาอาจจะไปอาบแดดมาก็ได้"
"เขาเพิ่งเล่นวีซีดีแค่เรื่องเดียวและเป็นหนังโป๊ด้วยซึ่งชื่อไปเหมือนนางแบบคนนั้นเขาบอกว่าจะฟ้องเรา ลงตามหน้าหนังสือพิมพ์เลยนะ เราก็ฟ้องก็ฟ้องดิเพราะว่าทุกครั้งที่เราทำรายการจะอัดเทปไว้ทุกครั้ง ถ้าฟ้องจริงก็เอาไปเปิดฟังได้ว่าตุ๊กตาไม่ได้เอ่ยถึงเขาเลย ตุ๊กตาพูดถึงอีกคนต่างหากแถมคนที่จะฟ้อง ตุ๊กตาก็ไม่รู้ด้วยซ้ำไปว่าเขาเป็นดาราด้วยเหรอ"
"ถ้าถามว่าครั้งต่อไปเรากลัวที่จะพูดเมาท์ถึงคนอื่นอีกมั้ยก็ไม่กลัวค่ะ ในการจัดรายการวิทยุทางช่อง 9 ส่วนมากแล้วจะเสนอข่าวที่มีความรู้ มีสาระเสียส่วนใหญ่น่ะค่ะ ไม่ค่อยมีเรื่องอะไรแบบนี้มากนัก แต่ดาราคนนั้นก็ไม่เห็นฟ้องตุ๊กตาสักทีหนิคะ"
เผยรักและให้ความสำคัญกับงานดีเจมากแม้ว่ารายได้จะน้อยกว่าอาชีพนักแสดง
"ตุ๊กตาจะให้ความสำคัญกับงานประจำ ไม่อยากหยุดงานน่ะค่ะบางทีก็เคยนั่งมอเตอร์ไซค์จากสนามหลวงไปอสมท.น่ะ ก็เสี่ยงค่ะแต่ถ้าใครได้มาทำตรงนี้จะรักน่ะเพราะคนฟังเขารอเราอยู่น่ะ เวลาเราขาดเขาจะถามว่าเราไม่สบายรึเปล่าคนที่ฟังเพลงจะปลื้มเรามาก รู้สึกว่าเขาน่ารักมากเราก็ไม่อยากหายไป"
"รายได้อาจจะน้อยกว่าแต่ว่ามันแน่นอน แต่ก็ไม่น้อยกว่ามากนะหลายคนชอบมองว่ามาทำดีเจจะได้น้อยกว่ามากเลยแต่ถ้าคนได้ยินเงินเดือนแล้วจะตกใจมันไม่ได้น้อยอย่างที่ทุกคนคิด พอเขาให้ค่าตอบแทนหนูตรงนี้ก็รู้สึกโอเคน่ะดีจังเลยน่ะ รู้สึกว่าต้องตอบแทนเขาให้ดีที่สุดไม่อยากให้เขาเสียใจ"
ถามถึงความรัก ตุ๊กตาบอกเรียนจบค่อยมีแฟน
"ความรักมีหมอลักษณ์ฟันธงออกทีวีว่าปีหน้าตุ๊กตาจะแต่ง ก็มานั่งคิดจะแต่งกับใคร เราไม่แอบนะถ้ามีก็จะบอกเลยเพราะว่าตอนนี้ก็ 26 แล้วน่ะแก่จะตายอยู่แล้ว มานั่งบอกเพื่อนสนิทไม่ทำน่ะจริงๆ ถ้ามีจะรีบบอกเลยว่าได้แล้วมีแล้วแต่ด้วยความที่เป็นผู้หญิงปากจัดน่ะและจัดรายการวิทยุปากหมาด้วยนะก็ไม่ใครกล้าเข้ามา"
"บางทีหมอลักษณ์ฟันธงอาจจะไม่แม่น ตุ๊กตาก็เลยจะรอดูว่าภายในปีหน้าจะแต่งรึเปล่าแต่หมอเขาพูดว่าตุ๊กตาเป็นดวงผู้หญิงเหมือนพี่น้อย โพธิ์งาม ไม่มีสามีอาภัพเรื่องคู่ มีแต่คนที่มีตำหนิมาแล้ว ดวงไม่มีคู่แต่บอกหนูจะแต่งปีหน้าก็งงน่ะ ก็ไม่เครียดอาจจะได้แต่งกับหมอลักษณ์มั้งคะ"
"ส่วนแม่ก็ไม่เร่งค่ะแม่บอกว่าถ้าเรียนจบแล้วจะเอาก็เอานะลูกนะ ภาษาชาวบ้านไงคะหมายความว่าจะมีแฟนก็มีนะ แหม! พี่ก็คิดทะลึ่งเหมือนหนูไปได้ ก็คอยลุ้นกันเรื่องแฟนตอนเรียนจบดีกว่าเพราะตอนนั้นก็จะเอาก็เอาแล้วแหละ(หัวเราะ)"