สลดถังเบียร์ยักษ์คร่าชีวิต "ไผ่ ไวกูรส์" ด้าน อีเว้นท์โซลูชัน แจงเหตุถังเบียร์ตก ยันเครื่องเล่นทุกชิ้นมีระบบรักษาความปลอดภัยเยี่ยม โทษ เกิดเหตุสลดเพราะคนขับรถเครนประมาทแต่พร้อมรับผิดชอบทุกอย่าง "เจ๊ฉอด" เศร้า เผยเสียใจที่สุดในชีวิตการทำงาน
หลังจากเกิดอุบัติเหตุสลดอุปกรณ์จากเครื่องเล่นขนาด 10 ก.ก. ตกลงมาใส่นักร้องดังจากเวทีเฟิสต์สเตจโครงการสองจนอยู่ในภาวะสมองตายนั้น ล่าสุด "ไผ่ ไวกูรส์ บุญถนอม" ได้เสียชีวิตลงแล้วเมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. ด้วยตัวเองแล้วโดยไม่ได้มีการผ่าตัดหรือการหยุดยาทั้งสิ้น โดยขั้นตอนต่อจากนี้ไปทางรพ.จะส่งศพไผ่ไปยังสถาบันนิติเวช ร.พ.รามาธิบดีเพื่อผ่าพิสูจน์ถึงสาเหตุที่แท้จริงของการตายตามหลักกฎหมายที่มีผู้ประสบอุบัติถึงแก่ความตาย ซึ่งพรุ่งนี้เช้าคาดว่าเคสของไผ่จะได้ทำการตรวจเป็นคิวแรกๆ เมื่อตวรวจเสร็จแล้วทางร.พ.รามาฯจะส่งศพของไผ่กลับมาที่ ร.พ.กรุงเทพอีกครั้ง
ส่วนพิธีการทางศาสนานั้น ได้มีการเปลี่ยนแปลงเวลาและสถานที่โดยจะเปิดให้รดน้ำศพวันพรุ่งนี้ (14 พ.ย.) ตอนเวลา 16.00 น. ที่วัดพระศรีมหาธาตุบางเขน และจะประกอบพิธีทางศาสนาที่กรุงเทพฯ ส่วนรายละเอียดเกี่ยวกับงานศพของไผ่ ทางฝ่ายประชาสัมพันธ์ของบริษัทเอไทม์มีเดียจะแจ้งให้ทราบต่อไป
ทางด้าน "ฉอด สายทิพย์ มนตรีกุล ณ อยุธยา" โต้โผใหญ่จากบริษัทเอไทม์มีเดียที่จัดงานอีเอฟเอ็มฟันแฟร์ขึ้น ได้มาร่วมแถลงข่าวกับทางบริษัทอีเว้นท์โซลูชัน ผู้รับผิดชอบเรื่องเครื่องเล่นที่นำมาใช้จัดงาน พร้อมร่วมยืนยันว่าจัดมาทุกครั้งความปลอดภัยดีทุกอย่างแน่นอน
"อย่างที่เรียนให้ทราบกันแล้วว่า กิจกรรม 'อีเอฟเอ็มฟันแฟร์' เราก็แบ่งโซนออกเป็นหลายๆโซน มีทั้งดารามาออกร้าน มีโซนเครื่องเล่น เรามีกิจกรรม เราฟันแฟร์มา 5 ปีแล้ว แล้วเราก็เอาเครื่องเล่นมาเล่นตลอด"
"เครื่องเล่นที่ถูกคัดเลือกมาจะไม่เป็นอันตรายกับเด็ก ซึ่งตรงนี้ก็เหมือนกัน เป็นการเอาสลิงดึงขึ้นไป แล้วปล่อยลงมา มีการเซฟตี้ปลอดภัย และถ้าตกลงมาที่พื้นก็จะมีอะไรรองรับ ไม่มีอะไร เพราะฉะนั้นยืนยันว่าเครื่องเล่นนี้ไม่มีอะไรอันตรายน่ากลัว เครื่องเล่นอันอื่นมีน่ากลัวกว่านี้อีก ก่อนถึงวันงานเราก็มีการติดตั้งเครื่องครวจสอบแล้ว ส่วนเหตุการณ์เกิดมาได้ยังไง ต้องให้ทาง อีเว้นท์ โซลูชั่น เป็นผู้ตอบคำถาม"
"พวกเราเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นเหตุการณ์ที่เสียใจที่สุดในชีวิตทำงานมา 20 ปีไม่เคยมีเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน เพราะเราระวังตลอด ไม่ว่าจะเกิดเพราะอะไรเราจะรับผิดชอบ และดูแลทุกอย่างให้ดีที่สุด"
ขณะเดียวกัน พัชรี ธนสุกานต์ กรรมการบริษัท อีเวนท์โซลูชั่น ได้แถลงชัดว่า ทุกอย่างเตรียมพร้อมมาดีโดยเฉพาะเรื่องความปลอดภัย แต่อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นน่าจะมาจากความประมาทของคนขับรถเครนมากกว่า ซึ่งทางบริษัทได้เตรียมดำเนินการตามกฎหมายแล้ว
"จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ข้อสรุปมาว่า เครื่องเล่นได้ถูกเล่นจนจบแล้ว ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ไผ่กำลังถอดสลิงออก กำลังจะให้สัมภาษณ์ ระบบการควบคุมเครื่องเล่นไม่มีข้อผิดพลาดในขั้นตอนนี้ แต่ในส่วนของรถเครนที่เราต่อมาอีกที ส่วนนี้สันนิษฐานว่า คนขับรถเครนประมาทเลินเล่อ สาเหตุมาจากรถเครน ซึ่งตอนนี้ คนขับหนีไปแล้ว ซึ่งทางบริษัทก็คือ บ.วีเคขนส่ง จำกัด กำลังดำเนินการตามกฎหมาย"
"เบื้องต้นรวบรวมมาได้เท่านี้ เราทำประกันไว้ ส่วนรับผิดชอบเท่าไหร่คงต้องดูอีกที ยังไงก็ขอแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วย ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น ไม่ว่าเหตุการณ์นี้จะเกิดเพราะเหตุผลใดก็ตาม ค่าใช้จ่ายต่างๆเราจะร่วมกันรับผิดชอบ"
"จากที่ทีมงานได้เล่ามา ทีมงานบอกว่าทุกอย่างจบหมดแล้ว กำลังปลดสลิง กำลังจะเอาตัวกระป๋องค่อยๆหย่อนลงมาแต่ไม่ทราบว่าทำไมหย่อนลงมาแรง มันเกิดมาจากการบังคับของรถเครน แต่คงไม่มีแอลกอฮอล์ไม่งั้นคนทำงานด้วยก็คงจะรู้แล้ว เครื่องเล่นจะหยุดไหม งานมันจบไปตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว ส่วนถ้ามีคนมาจ้างก็เอาไปเล่นได้มีคนมาจ้างเราก็คงให้บริการได้อีก"
.........
"ไผ่ ไวกูรส์ บุญถนอม" เจ้าของเพลงแนวป๊อปแดนซ์ที่ชื่อว่า “อยากจะขอเป็นแฟน” ในอัลบั้ม เฟิสต์ สเตจ โปรเจ็กต์ 2 เป็นหนุ่มเข้มจากใต้ ภูมิลำเนาเป็นคนจังหวัดนครศรีธรรมราช ปัจจุบัน "ไผ่" เรียนอยู่คณะนิติศาสตร์ ปี 2 มหาวิทยาลัยรามคำแหง และเป็นครูสอนร้องเพลง สอนเต้นด้วย
ก่อนที่หนุ่มไผ่จะมาประกวดเฟิสต์ สเตจฯ เดิมเจ้าตัวเรียนอยู่ที่สงขลา แต่เนื่องจากเจ้าตัวมีความใฝ่ฝันอยากจะเข้าวงการบันเทิงมาตั้งแต่เด็ก มีนิสัยเป็นคนชอบดูคอนเสิร์ต ฟังเพลง เล่นดนตรีได้ตั้งแต่ชั้นประถม พอขึ้น ม.1 ก็เล่นกับวงโยธวาทิต เล่นเครื่องดนตรีได้หลายชนิด แต่ที่ถนัดก็คือแซ็กโซโฟนและเป็นไลน์ประสาน
ไผ่เคยเข้าประกวดเฟิสต์ สเตจฯ รุ่น 1 ทว่าตกรอบไป แต่เพื่อความฝันของตนเองเจ้าตัวจึงตั้งหน้าตั้งตาฝึกฝนเสียใหม่ด้วยการเข้าคอร์สเรียนร้องเพลง และเข้าประกวดอีกครั้งจนได้เป็นแชมป์ประจำเดือนตุลาคม (2547) ก่อนจะได้เป็นศิลปินสมใจ
..........
แม่ทำใจลูก "ไผ่" ไปสบาย
เนื้อสมองตายหมด "ไผ่ ไวกูรส์" โอกาสรอดน้อย
