xs
xsm
sm
md
lg

ได้เวลา(หนัง)ผีครองโรง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


หลังความสำเร็จแบบถล่มทลายของ "ชัตเตอร์ กดติดวิญญาณ" ตั้งแต่เมื่อปลายปีที่ผ่านมารวมทั้ง "บุปผาราตรี 2" ในช่วงต้นปี ดูเหมือนว่ากระแสหนังผีไทยจะซบเซาลงไปพอสมควร ในขณะที่ที่มีออกมาอย่าง "คนเห็นผี (10)" และที่เพิ่งจะผ่านพ้นไปอย่าง "นาค วิญญาณ รักแท้ ความตาย" ต่างก็เป็นไปแบบเงียบๆ ทั้งที่มีดาราดังอย่าง "แตโม ภัทรธิดา" และ "ซี ศิวัฒน์" เป็นตัวชู

ล่าสุดกระแสหนังผีไทยของบ้านเราได้กลับมาคึกคักอีกแล้ว เพราะนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนนี้เป็นต้นไปมีหนังผีไทยหลายแบบหลายสไตล์ให้เข้าเลือกชมกันหลายต่อหลายเรื่องทีเดียว

เข้าก่อนใครเพื่อนเป็นของสหมงคลฟิล์มเรื่อง "รับน้อง สยองขวัญ" (10 พ.ย.2548) จากฝีมือการกำกับของ "ภาคภูมิ วงษ์จินดา" นำโดยหนุ่ม "ไม้ บรพจน์" และ "แพท ณปภา" ดูเนื้อเรื่อง ดูนักแสดง ประกอบกับด้วยบรรยากาศของช่วงนี้ที่ไม่มีกลิ่นกิจกรรมของการรับน้องเป็นตัวช่วยเลย คาดว่าเรื่องนี้คงจะต้องเข็นกันพอสมควรทีเดียว

ถัดมาเป็นหนังลึกลับเขย่าขวัญ "โลก/คน/ตาย" ฝีมือการกำกับของ "ธราเทพ ทิวสมบุญ" เรื่องนี้สหมงคลฟิล์มฯ ทำร่วมกับบริษัทซีแมนและ "มีโมชั่น" โดยได้นักแสดงหนุ่มที่มีความทุ่มเทดีมากๆ อย่าง "โอ อนุชิต" จับคู่กับสาว "รัน นพวรรณ" ที่ผ่านงานหนังผีอย่าง "ผีหัวขาด ภาค 1" มาก่อน เรื่องนี้มองกันตามฟอร์มแล้วต้องบอกว่าน่าสนใจไม่น้อย

"ควิซโชว์ เล่นเกมสยอง (The 13th Quiz Show)" ดัดแปลงมาจากเรื่องสั้นชื่อเดียวกันของ "เอกสิทธิ์ ไทยรัตน์" ในหนังสือการ์ตูน My Mania ที่เสียดสีสังคมบริโภคนิยม และรายการเกมโชว์เรียลิตี้ยอดฮิตในปัจจุบัน เรื่องนี้ได้ "น้อย กฤษดา สุโกศล แคลปป์" (หัวใจทรนง/ทวารยังหวานอยู่) เป็นตัวชูโรง ฝีมือการกำกับของ "มะเดี่ยว ชูเกียรติ ศักดิ์วิริกุล" ที่ค่อนข้างจะล้มเหลวทางด้านรายได้มาจาก "คน ผี ปีศาจ" ซึ่งกับเรื่องนี้โอกาสที่เจ้าตัวจะแก้มือได้นั้นต้องบอกว่ามีอยู่สูงทีเดียว

ห่างหายไปจากการกำกับหนังนานกว่า 10 ปี กับภาพยนตร์เรื่อง "ฉลุย" ล่าสุด "อังเคิล อดิเรก วัฏลีลา" ก็กลับมานั่งเก้าอี้ผู้กำกับอีกครั้งในหนังผีคอมเมดี้ เรื่อง "วาไรตี้ผีฉลุย" ในนามของ “ฟิล์มแมน” นำความฮาโดยตลกหน้าตาย "หม่ำ จ๊กมก" มาประกบกับตลกหน้าเป็น "ติ๊ก กลิ่นสี" ที่ห่างจากวงการหนังไปนานหลายปี เสริมด้วย "วัชระ ปานเอี่ยม" และสาว "เมย์ พิชญ์นาฎ" ทั้งเนื้อหา ทั้งตัวผู้เล่น เรื่องนี้ฟันธงได้เลยว่าได้เงินอย่างแน่นอน

ที่คาดว่าจะได้เงินค่อนข้างจะแน่นอนอีกเรื่องก็คืองานของ "ต้อม ยุทธเลิศ" ใน "กระสือวาเลนไทน์" (16 กุมภาพันธ์ 2549) สไตล์ของหนังไม่ได้ห่างไปจาก "บุปผาราตรี" ของเจ้าตัวมากนักนั่นก็คือน่ากลัวด้วย ตลกด้วยกับเรื่องของพยาบาล “สาว” แสนสวย บุคลิกดี ที่เพิ่งจะย้ายมาประจำการ ณ โรงพยาบาลเก่าแก่แห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ ซึ่งที่นั่นเองภารโรง “หนุ่ม” คนซื่อที่แอบหลงรักเธอได้มอบ "ดอกกุหลาบ" ให้ในวันวาเลนไทน์ และนับตั้งแต่นั้นมาทั้งคู่ก็ต้องเผชิญกับเหตุการณ์ประหลาดรวมถึงความผูกพันอย่างคาดไม่ถึง...นำโดย "พลอย จินดาโชติ" และ "เต้ ปิติศักดิ์ เยาวนานนท์"

หลังฝากฝีมือการแสดงหนังใหญ่ครั้งแรก ใน "โอเคเบตง" ไปเมื่อประมาณ 2 ปีที่แล้ว คราวนี้ "ยุ้ย จีรนันท์" กลับมาอีกครั้งในหนังผีเรื่อง "ผวา" (19 ม.ค.2549) ของค่าย "ซีเอ็ม ฟิล์ม" เรื่องนี้กระแสค่อนข้างจะเงียบพอสมควรและด้วยภาพของการเป็นบริษัททำหนังฟอร์มที่หลายคนไม่อยากจะเสี่ยงเสียเงิน เพราะฉะนั้นเรื่องนี้ผู้สร้างมีโอกาสที่จะเกิดอาการผวาตามชื่อหนังในเรื่องรายได้อยู่สูงพอสมควร

"โกสต์เกม" ของบริษัท "ที่ฟ้า" (23 มีนาคม 2549) เรื่องนี้ถูกวิพากษ์วิจารณ์ตั้งแต่ยังไม่เริ่มเปิดกล้องว่าเนื้อหาโดยรวมมีส่วนคล้ายคลึงกับ “วาไรตี้ผีฉลุย” รวมไปถึง "เล่นเกมสยอง" (The 13th Quiz Show) ร้อนถึงผู้กำกับ “ปุ๊ก พันธุ์ธัมม์ ทองสังข์” ต้องออกมาแก้ข่าวว่าไม่เคยเลียนแบบใคร ซึ่งถ้าหากพิจารณาจากไอเดียและสาระของหนัง "ไอ้ฟัก" ที่เจ้าตัวเคยทำมา "โกสต์เกม" ก็น่าจะมีอะไรให้พูดถึงอยู่บ้างอย่างแน่นอน เพียงแต่กว่าจะได้ดูกันก็ไม่รู้ว่าหลายคนจะอิ่มหนังในแนวนี้ก่อนหรือเปล่า?

อาจจะมีเหตุผลหลายอย่างในแต่ละความคิดของแต่ละคนถึงสาเหตุที่ทำให้หนังผีกลับมาได้รับความนิยม ในขณะที่ผู้ที่คลีกคลีอยู่กับเรื่องนี้อย่าง "ป๋อง กพล ทองพลับ" ได้แสดงทัศนะว่า...

"สำหรับหนังผีไทยในตอนนี้ คิดว่ามีขึ้นเยอะแต่ไม่ถึงกับเยอะที่สุดนะ เพราะหนังแนวอื่นก็มีขึ้นมาเหมือนกัน"

"จากสถานการณ์แล้วคิดว่าหนังแนวสยองขวัญจะได้รับความนิยมมากกว่าหนังแนวโรแมนติก ดราม่า แอ็กชั่น เป็นต้น เหตุผล ที่หนังผีมีเยอะขึ้นในช่วงนี้อาจจะทำขึ้นมาเพื่อต้อนรับวันฮาโลวีนก็ได้ เพราะทุกปีที่ผ่านมาก่อนหรือหลังวันฮาโลวีนจะต้องมีหนังผีเข้ามาฉายในโรงภาพยนตร์อย่างแน่นอน"

"และอีกอย่างหนังผีไทยนี้สามารถทำให้คนไทยคลายเครียดได้เนื่องจากหนังผีไทยจะทำออกมาแนวคอมเมดี้ และแทรกมุกตลกเข้าไปด้วย สร้างความสนุกสนานและแอบแฝงความน่ากลัวรวมอยู่ด้วย”

“ตอนนี้หนังผีไทยมีสิทธิ์โกอินเตอร์มากขึ้น เพราะคนทำหนังเริ่มมีความพิถีพิถัน มีการพัฒนาฝีมือกันไปในทางที่ดีเยอะ สามารถทำให้หนังแต่ละเรื่องมีคุณภาพมากพอที่จะสามารถ โกอินเตอร์ๆ ได้”

“แต่การที่หนังผีไทยจะโกอินเตอร์ได้นั้นก็ไม่ใช่เรื่องที่ง่าย เพราะถ้าจะทำหนังออกมาสู่สายตาประชาชนคนทั่วโลกให้ได้นั้น เราต้องทำเรื่องที่ทุกๆ คนรู้จัก สามารถรับรู้และเข้าใจเป็นความหมายเดียวกัน เช่น ภาพยนตร์เรื่อง ชัตเตอร์ฯ ที่เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับรูปภาพ ซึ่งรูปภาพนั้นเป็นสิ่งที่ทุกคนมองเห็นสามารถรับรู้ได้ว่ามีอะไรแปลกปลอมหรือมีวิญญาณอยู่ในรูปด้วย ถ้าคนไทยสามารถผลิตหนังออกมาได้ดีอย่างหนังเรื่องนี้อนาคตของภาพยนตร์ไทยรุ่งเรื่องแน่นอน”

“สิ่งที่อยากจะฝากไว้สำหรับคนทำหนังทุกคน คือ อยากจะให้ทำหนังให้ออกมามีคุณภาพที่ดีที่สุด ช่วยกันคิดเยอะๆก่อนที่จะทำหนังออกมา อย่าสักแต่ว่าทำให้เสร็จๆ ให้มันจบเรื่องแล้วก็ฉายได้เลยถ้าอย่างนั้นใครก็ทำได้"

กำลังโหลดความคิดเห็น