xs
xsm
sm
md
lg

หญิงงามผู้นี้...เพียบด้วยมารยา....

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


หญิงงามผู้นี้...เพียบด้วยมารยา....

โดย นพวรรณ สิริเวชกุล

คลิกที่ไอคอน Multimedia ด้านบนเพื่อรับชมและฟัง ในรูปแบบ Photo Slide Show


มักมีใครหลายคนกล่าวว่า หญิงงามมักจะเต็มไปด้วยจริตมารยา ที่ล่อลวงชายให้สยบยอมกับอำนาจของพวกเธอ... คุณว่าอย่างนั้นไหมคะ...

ผู้หญิงหลายคนที่รู้ตัวว่า จะใช้มารยาของตัวเองอย่างไร ถึงจะทำให้ใครต่อใครหลงเชื่อและทำตามความประสงค์ของตัว.... ก็เหมือนกับเทพีองค์นี้ล่ะค่ะ เทพีวีนัส ในเทพนิยายกรีก
ที่นางเคยใช้มารยาหญิงติดสินบนเจ้าชายปารีสแห่งเมืองทรอยว่า ให้เลือกนางเป็นสาวงามที่สุดในจักรวาลจากเทพีทั้งสามองค์ที่ต่างก็ส่งแอปเปิ้ลทองคำให้เจ้าชายปารีส....ด้วยมีข้อต่อรองที่ว่า นางจะช่วยให้เจ้าชายปารีสแห่งเมืองทรอยได้หญิงอื่นที่งามที่สุดในโลกไปครอง.....

ในทีสุดเจ้าชายปารีสก็หลงมารยาเทพีวีนัส...ให้นางได้กลายเป็นเจ้าแม่แห่งความรัก และมีความงามยอดเยี่ยมในสวรรค์....และนี่ก็ดูจะเป็นที่มาของสงครามแห่งเมืองทรอยนะคะ เพราะหญิงงามบนโลกมนุษย์ที่ว่านี้ก็คือ นางเฮเลนซึ่งเป็นชายาของกษัตริย์กรีกอยู่แล้ว แต่ถูกลักพาไปให้เจ้าชายแห่งเมืองทรอย...

ดังในตำนานเรื่อง อีเลียด ของ โฮเมอร์ นั่นเองค่ะที่กล่าวไว้ว่า เทพีวีนัส แม้จะมีความงามเป็นเลิศไม่มีใครเทียบ แต่จิตใจนั้นหวั่นไหว อิจฉาริษยา และเป็นต้นเหตุสงครามแห่งกรุงทรอย ที่ได้พล่าชีวิตผู้คนไปมากมาย

บางตำนานกล่าวหาเทพีวีนัสหรืออะโฟรไดท์ ซึ่งเป็นเทพีผู้ยิ่งใหญ่แห่งภูเขาโอลิมปัส ว่า นางได้ชื่อว่าเป็นผู้หลอกลวงทั้งเทวดาและมนุษย์ อีกทั้งมักจะเยาะหยันผู้ที่ลุ่มหลงในความรัก ด้วยนางคิดว่า ผู้ที่ตกอยู่ในห้วงแห่งความรักนั้น มักจะลุ่มหลงกับความรักจนโง่เขลาต่อสิ่งอื่น และจะปักใจแต่เรื่องของรักจนถูกล่อลวงได้ง่ายๆ ดังคำที่ว่า ความรักมักทำให้คนตาบอด ไงคะ...

จะว่าไปแล้ว อะโฟรไดท์หรือเทพีวีนัสนั้น เป็นผู้หญิงที่มีฤทธิ์มากคนหนึ่งทีเดียวค่ะ นางสามารถสาปและบันดาลอะไรก็ได้ทั้งสิ้น และยังมีกลอุบายชั้นเลิศ ชาวโรมันนับถือนางมาก ทำให้มีศาลรูปเคารพของนางอยู่ทั่วไปทุกหนทุกแห่งในอาณาจักรโรมัน...

ชาวกรีกโบราณเรียกนางว่า เทพีอะโฟรไดท์ ซึ่งมีความหมายถึง ผู้เกิดจากฟองคลื่น ด้วยว่า พระนางกำเนิดในเกาะซีธีรา แล้วล่องลอยมาสู่เกาะไซปรัส แต่ชาวโรมันเรียกพระนางว่า เทพีวีนัส ค่ะ
แต่ก็น่าแปลก หญิงงามขนาดวีนัส กลับต้องมาสมรสกับวัลคัน เทพเจ้าผู้ถลุงเหล็กผลิตอาวุธของเทวดา ผู้ซึ่งมีความน่ากลัว โหดร้าย ดูราวกับเป็นด้านตรงข้ามกับวีนัสอย่างสิ้นเชิง

กระนั้นวีนัสก็มีบุตรเป็นเจ้าชายตัวน้อยที่ซุกซนนามว่าคิวปิด เทวดาตัวน้อยที่คอยแผลงศรรักไปปักอกใครต่อใครให้ลุ่มหลงในรักต่อกัน เรื่องราวของวีนัสในเทพนิยายยังมีอีกยาว แต่ทางด้านงานศิลปะแล้วนั้น มีศิลปินหลายคนหลงใหลในความงามตามจินตนาการและรังสรรค์เทพีวีนัสออกมาหลากหลายมุมมองทีเดียว...

อย่างเช่นการค้นพบรูปแกะสลักด้วยหินขนาดเล็กสมัยก่อนประวัติศาสตร์ที่ชื่อว่า
วีนัสวิลเลนดอร์ฟ ( The Venus of willendorf) หรือบางคนก็กล่าวว่า ต้นกำเนิดของวีนัส น่าจะอยู่ราวหกร้อยปีก่อนคริสตกาล จากหลักฐานการขุดพบ ประตูของเทพีอีซตาร์ (The Istar Gate) ในสมัยบาบิโลเนีย ประตูนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อถวายเทพีอีซตาร์ หรือดาวศุกร์ เทพีแห่งความรักของชนเผ่าซิมิติคในเมโสโปเตเมีย

วีนัสที่รู้จักกันแพร่หลายที่สุด เห็นจะเป็น อะโฟรไดท์แห่งเมลอส ( Aphrodite of Melos) ที่สร้างขึ้นราว 150 – 100 ปี ก่อนคริสตกาล แกะด้วยหินอ่อนสูงประมาณ 6 ฟุตกว่าๆ ไม่ปรากฏนามของผู้สร้างสรรค์ รู้เพียงแค่ว่า สร้างในสมัยเฮเลนนิสติก มีเรื่องเล่าต่อกันมาว่า เกิดการแย่งชิงรูปปั้นนี้ จนทำให้แขนหลุดอย่างน่าเสียดาย

ประติมากรรมอีกชิ้นหนึ่งที่เป็นที่กล่าวขานกันมากคือ อะโฟรไดท์แห่งไซรีน ( Aphrodite of Cyrene) ถูกสร้างขึ้นราว 100 ปีก่อนคริสตกาล คราวนี้ไม่มีแขนทั้งสองข้างและไม่มีศีรษะด้วยค่ะ

ทางด้านงานจิตรกรรม ภาพของเทพีวีนัสที่มีคนกล่าวขานกันมากที่สุดแห่งจะเป็นภาพ การกำเนิดวีนัส (The birth of Venus) ที่รังสรรค์ขึ้นในช่วงปี ค.ศ. 1478 โดยจิตรกรชาวฟลอเรนส์ ที่ชื่อว่า บอตติเชลลี (SandroBotticelli) ผู้ซึ่งเป็นลูกชายคนสุดท้องของช่างฟอกหนังชาวฟลอเรนส์ เขาเกิดเมื่อปี ค.ศ.1444 เริ่มฝึกงานช่างทองแล้วเปลี่ยนใจหันมาเป็นจิตรกรจนกระทั่งมีชื้อเสียงโด่งดัง ด้วยว่า เขาก็มีความคิดเช่นเดียวกับศิลปินคนอื่นๆ ที่พยายามแสวงหาแนวทางและรูปแบบของตัวเอง ดังนั้นในช่วงทศวรรษ 1480 เขาจึงเริ่มเขียนภาพที่มีพื้นหลังโล่งเป็นทิวทัศน์

The Birth of Venus ถุกเขียนขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1485 บอตติเซลลี ได้รับแรงบันดาลใจในการเขียนภาพนี้มาจากบทประพันธ์ของจินตกวีสองคน คื อโพลิซิอาโน และอะพูลิอุส และตำนานในศาสนากรีก ที่กล่าวถึงกำเนิดของเทพีแห่งความงามและความรัก วีนัส ผู้กำเนิดจากฟองคลื่นของมหาสมุทร

เขาจึงสร้างภาพของหญิงสาวผู้มีเรือนร่างงดงามเปลือยเปล่าปราศจากเครื่องนุ่งห่ม ยืนอยู่บนเปลือกหอย ถือเป็นความงดงามที่นุ่มนวลเอามากๆ ทีเดียวนะคะ ผลงานชิ้นนี้ปัจจุบันอยู่ที่
พิพิธภัณท์อุฟฟีซี เมืองฟลอเรนส์ อิตาลี ค่ะ

อีกภาพหนึ่งที่มีศิลปินนามว่า จอร์โจเน่ (Giorgione) เขียนภาพวีนัสในยุคเรเนสซอง คือ ภาพ Sleeping Venus ค่ะ ภาพนี้เขียนด้วยสีน้ำมัน เป็นภาพวีนัสนอนเปลือยที่คล้ายๆ จะเป็นต้นแบบของการวางท่าผู้หญิงในจิตรกรรมอีกหลายๆ ชิ้นตามมานะคะ
อีกภาพหนึ่งเป็นจิตรกรรมในสมัยรอคโคโค ของฝรั่งเศส ภาพ The Toilet of Venus โดยศิลปินชื่อ บูแชร์ (Boucher) เขียนด้วยสีน้ำมันในประมาณช่วงปี ค.ศ.1751 ค่ะ

ไม่ว่าจะยุคสมัยใด ความงามของผู้หญิงและมารยาก็ยังถือเป็นเรื่องสำคัญอยู่นะคะ ขึ้นอยู่กับว่า ผู้หญิงจะใช้มารยากับเรื่องอะไร และจะทำให้เหตุการณ์นั้นๆ มันรุนแรงแค่ไหน จะยิ่งใหญ่เหมือนอย่างเทพีวีนัส ที่ทำให้เกิดสงครามได้เลยหรือเปล่า...อันนี้ มันก็ขึ้นอยู่กับความสามารถเฉพาะบุคคลแล้วล่ะค่ะ !!

พบกับรายการ ต่างสมัย รอยไทย โดย นพวรรณ สิริเวชกุล
ได้ทุกวัน เสาร์ - อาทิตย์ เวลา 20.00 - 21.00 น.
ทางคลื่นสามัญประจำบ้าน
www.managerradio.com  

กำลังโหลดความคิดเห็น