xs
xsm
sm
md
lg

"นัดดา" โฮฟ้องหย่าสามี เรียกครึ่งพันล้าน+ลูกเลขาบอกสุดทนฝ่ายชายไล่พ่อแม่ออกจากงาน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


นัดดา อิงคะกุล (วิยกาญจน์) นักร้องชื่อดัง ขึ้นศาลคดีฟ้องหย่าสามี "อัศวิน อิงคะกุล" เจ้าของโรงแรมดังในคดีเรื่องหย่าแบ่งสินสมรสกว่าครึ่งพันล้านพร้อมขออำนาจปกครองบุตร ในขณะที่ฝ่ายสามีไม่ยอมหย่าโดยให้เหตุผลว่ายังรักอยู่ นักร้องชื่อดังปล่อยโฮกลางศาลจนต้องพักการเบิกความ ลั่นฟ้องสินสมรสเรื่องรองหวังแค่ให้ลูกได้สิ่งที่ดีที่สุดเท่านั้น

ยืดเยื้อกันมาตั้งแต่ปี 2546 เช้าวันนี้เวลาประมาณ 09.00 น. นัดดา อิงคะกุล (วิยกาญจน์) เจ้าของเพลงดัง "ฉันไม่แคร์" ได้เดินทางมายังศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง ที่ห้องพิจารณาคดี 2 ซึ่งเป็นการนัดสอบพยานโจทก์ปากสุดท้ายคดีฟ้องหย่าสามีคือนาย "อัศวิน อิงคะกุล" เจ้าของโรงแรมมิราเคิลแกรนด์ โดยอดีตนักร้องชื่อดังนั้นมีท่าทางอิดโรย สีหน้าเคร่งเครียดและปฏิเสธการให้สัมภาษณ์ในช่วงเช้าเพราะต้องการสมาธิในชั้นศาล

ระหว่างการเบิกความในห้องพิจารณาคดีมีรายงานว่าฝ่ายหญิงนั้นมีสีหน้ากังวลและร้องไห้ จนต้องหยุดพักการเบิกความ ศาลจึงสั่งให้ศาลพิพากษาสมทบเข้าคุยไกล่เกลี่ยกับนักร้องชื่อดังเป้นเวลานาน จากนั้นจึงได้มีการเบิกความต่อ โดยฝ่ายสามีเจ้าของโรงแรมดังก็ได้เดินทางมายังศาลแต่ไม่ได้มีพูดคุยกันแต่อย่างใด

ทางฝ่ายทนายความของโจทก์ที่ประกอบด้วยนายสุพจน์ แก้วมณี และนายอำนาจ คลังพหล เปิดเผยว่า คดีอาจจะสิ้นสุดลงในเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้าพร้อมยืนยันยังต้องสืบพยานฝ่ายจำเลยอีกกว่า 15 ปากเลยทีเดียว

“จริงๆ วันนี้ก็คือนัดสืบพยานโจทก์ปากสุดท้าย คือคุณนัดดาวิยกาญจน์ แต่ว่าตอนนี้คุณนัดดาค่อนข้างเครียดเบิกความไปแล้วก็ต้องเบรคเพราะว่าพอเล่าเรื่องเก่าๆ ก็ร้องไห้ ทางศาลก็เลยต้องให้ผู้พิพากษาสมทบซึ่งเป็นผู้หญิงด้วยกันมาคุยกันว่าต้องการอะไร คิดเห็นยังไง เพราะเป็นผู้หญิงเหมือนกัน”

“วันนี้ถือว่าการสืบพยานฝ่ายโจทก์ก็สมบูรณ์แล้ว คือคุณนัดดาเขาฟ้องหย่าสามี แต่ฝ่ายสามีเขาก็บอกว่าเขาไม่ได้มีคุณสมบัติอะไรที่ต้องมาฟ้องหย่า เรื่องก็เลยยังไม่ลงตัว เหลือสืบพยานจำเลยอีก 15 ปากก็น่าจะจบลงที่เดือนกุมภาพันธ์”

ส่วนเลขาส่วนตัวนักร้องชื่อดังเปิดเผยว่าทั้งนัดดาและฝ่ายสามีนั้นได้แยกกันอยู่นานแล้ว ส่วนหนึ่งที่ฝ่ายหญิงต้องออกมาฟ้องหย่าเพราะทนไม่ไหวที่ฝ่ายสามีขับไล่พ่อแม่ของนักร้องชื่อดังออกจากงานทั้งที่เป็นผู้ร่วมก่อตั้งธุรกิจมาด้วยกัน

“เรื่องนี้มันไม่จบง่ายๆ หรอก ต้องสืบพยานกันอีกหลายปาก เรื่องราวต่างๆ มันซับซ้อนซึ่งเขาทั้งคู่ก็แยกกันอยู่นานแล้ว แต่ทางสามีไม่ยอมหย่าแต่ก็ไม่ได้อยู่ด้วยกันนะ ก็งงว่าจะรั้งทำไม”

“ข้างในเขาจะรู้กันดีว่าเขามีปัญหากันมานานแล้ว สุดท้ายทางสามีคุณนัดดาก็ขับไล่พ่อแม่คุณนัดดาออกจากงานที่ทำอยู่ที่มิราเคิลแกรนด์ ซึ่งมีตำแหน่งเป็นฝ่ายจัดซื้อของโรงแรมมิราเคิลแกรนด์ เขาบอกว่าพ่อคุณนัดดาไม่มีตำแหน่งใดๆ แต่แท้ที่จริงแล้วพ่อคุณนัดดาก็มีหลักฐานแต่งตั้งมาให้ดูซึ่งในชั้นศาลหลักฐานเท่านั้นที่ตัดสินและเขาก็ร่วมก็ตั้งกันมาตั้งแต่วางเสาเข็ม”

สำหรับนายอัศวิน อิงคะกุล เจ้าของโรงแรมดังนั้นมีบุตรสาวหนึ่งคนกับนัดดา คือน้อง "แมจิก กรนันท์ อิงคะกุล" โดยนักร้องชื่อดังขอเป็นผู้ปกครองบุตรและฟ้องหย่าเป็นจำนวนเงิน 450 ล้าน ซึ่งหากประเมินจากทรัพย์สินสมรสของทั้งคู่ที่มีพันล้านก็ถือว่าแบ่งกันคนละครึ่ง โดยนายอัศวินและนักร้องดังได้สร้างโรงแรมร่วมกันมา 3 โรงแรมได้แก่ โรงแรมมิราเคิลแกรนด์, หลุยส์ แทเวิร์น และ หลุยส์ แทเวิร์น เดย์รูม แอร์พอร์ต ที่อยู่ในสนามบินดอนเมือง รวมมูลค่าทรัพย์สินร่วมพันล้านบาท

หลังจากเบิกความเสร็จเวลา 14.00 น. นางนัดดาเดินออกจากห้องพิจารณาคดีด้วยสีหน้าที่คลายความวิตกลงบ้างและยืนยันว่าสิ่งที่ทำไปทั้งหมดเพื่อลูกเท่านั้น เรื่องสินสมรสเป็นเรื่องรอง ส่วนเรื่องที่เรียกร้องค่าเสียหาย 450 ล้านนั้นยังไม่ขอตอบเพราะอยู่ในช่วงพิจารณาคดี

"วันนี้เป็นเหมือนกับวันที่ต้องคุยกันวันสุดท้าย เพราะฝ่ายโจทก์เรียบร้อยแล้ว ที่ทำอยู่ตอนนี้ไม่มีอะไรมาก แค่อยากให้ลูกได้ในสิ่งที่ดีที่สุดเท่านั้น อยากให้ลูกได้เรียน ได้อะไรที่ดีที่สุด”

“จะมาไต่สวนเจอกันอีกทีวันที่ 1 ธันวานี้ ตอนนี้มันเหมือนอยู่ในช่วงระหว่างการตกลง ตกลงว่าจะเอายังไง แต่ไม่มีทางกลับไปดีแน่นอน เลิกกันเด็ดขาดแล้ว ซึ่งวันนี้เขาก็มา แต่ไม่ได้คุยกันนะ ผู้พิพากษาเค้าก็ให้คุยกันคนละครั้ง ไม่ได้คุยกันเลย”

“เรื่องฟ้องขอยังไม่ตอบนะเพราะว่าอยู่ในช่วงพิจารณาคดี แต่ที่สุดแล้วพี่ไม่ได้ต้องการอะไร อยากให้น้องแมจิกซึ่งเป็นลูกสาวคนเดียวของพี่ได้ในสิ่งที่ดีที่สุด เรื่องสินสมรสอันนั้นมันเป็นเรื่องรองค่ะ กลับไปจะไปบอกน้องแมจิกว่าเขาต้องได้สิ่งที่ดีที่สุดค่ะ”

หลังให้สัมภาษณ์นักร้องดังได้ขอตัวกลับ โดยก่อนที่จะไปนั้นเจ้าตัวได้เชิญชวนนักข่าวไปงานคอนเสิร์ตครั้งใหญ่ของตนในวันที่ 13 พ.ย.ที่จะถึงนี้โดยกล่าวด้วยสีหน้ายิ้มแย้มว่าอาจจะได้ฉลองพิเศษบางอย่างในวันนั้นก่อนขึ้นรถกลับไป



กำลังโหลดความคิดเห็น