ไหนๆก็รับปากสร้างหนัง แรมโบ้ ภาคสี่ ไปก่อนหน้านี้กันแล้ว นักแสดงรุ่นใหญ่พลังเยอะอย่าง "ซิลเวสเตอร์ สตอลโลน" ที่ช่วงนี้กําลังฟิตจัดจึงไม่ปล่อยโอกาสทองของชีวิต ตัดสินใจกลับมาขอวางมวยขึ้นสังเวียนในหนังนักมวยภาคใหม่ "ร็อกกี้ ภาคหก" กันต่อเลยดีกว่า
สํานักข่าว เอพี รายงายข่าวดีให้คนรักหนังหมัดมวยได้ตื่นเต้นกันอีกครั้ง โดยระบุว่าดาวบู๊ฮอลลีวูดวัย 58 เจ้าของรายการเรียลลิตี้โชว์ The Contender ได้ออกมาเผยโครงการแสดงเรื่องใหม่ของตัวเอง กับการกลับมารับบท "ร็อกกี้ บาลบัว" ในภาพยนตร์ภาคต่อ Rocky VI
"ตอนนี้ร่างกายผมกําลังฟิตและหุ่นก็กําลังเข้าที่ ผมกลับมาเข้ายิมออกกําลังกายสัปดาห์ละสามครั้ง...แต่ถ้าเป็นเมื่อก่อนเข้าหกวันเลยน่ะ ร็อกกี้ บาลบัว เป็นเหมือนตัวละครที่ทุกคนสามารถเข้าไปสัมผัสและร่วมรับรู้ทุกย่างก้าวของการท้าทายไปได้พร้อมๆกัน เป็นอะไรที่มากกว่าสิ่งที่ได้รับจากหนังทั่วไป และสอนให้รู้ว่า คุณคงไม่แก่เกินกว่าจะก้าวข้ามเขาได้ ถ้าคุณมีความมุ่งมั่นจริงๆ" สตอลโลนเผย
แต่สิ่งที่เป็นปัญหาของหนุ่มใหญ่นักแวดงวัย 58 คนนี้ก็คือ เขากังวลเรื่องอุบัติเหตุที่มีกเกิดขึ้นในการถ่ายทําบนสังเวียน เหมือนอย่างเช่นเมื่อคราวถ่ายภาคที่ห้าในปี 1990 ซึ่งสตอลลโลนแสดงความคิดเห็นไว้ว่า "ผมก็คิดเรื่องนี้อยู่บ่อยมากน่ะ เพราะอุบัติเหตุมันมักเกิดขึ้นเองเวลาคุณต้องขึ้นสังเวียนกับนักมวยที่มีน้ำหนักเยอะๆ พวกเขามักเผลอตัวเอาจริงเพราะเห็นว่าผมเป็นร็อกกี้ นั่นแหละที่เป็นสิ่งอันตรายสําหรับผมที่สุด"
เส้นทางการต่อสู้ของ ร็อคกี้ นักมวยโนเนมจากชนชั้นแรงงานในค่ายเล็กๆ แห่งหนึ่ง เริ่มต้นขึ้นในภาคแรกเมื่อปี 1976 เรื่องราวเริ่มเข้มข้นเมื่อโชคเข้าข้างให้เขาได้รับการเลือกจาก อพอลโล ครีด แชมป์โลกรุ่นเฮฟวี่เวท เพื่อเป็นคู่ชกในการป้องกันตำแหน่ง ตามมาด้วยภาคสองในปี 1979 ต่อมาอีกสามปีกับภาคที่สามและภาคที่สี่ในปี 1985 จนมาหยุดอยู่ในภคที่ห้าล่าสุด 1990 โดยหนังได้สร้างประโยคเด็ดสุดฮิตอย่าง Yo, Adrian!" คําติดปากของหนุ่มร็อกกี้ที่ร้องเนียกชื่อสาวในดวงใจ
ด้านผู้ร่วมทุ่นสร้างอย่าง รีโวลูชั่น สตูดิโอส์ ได้ออกมาช่วยยืนยันถึงงานสร้าง ร็อกกี้ ภาคหก ว่างานนี้ไม่มีเบี้ยวแน่นนอน พร้อมวางกําหนดถ่ายทําเอาไว้ราวเดือนธันวาคมนี้อีกด้วย สําหรับ ภาคหก ของหนังราชากําปั้น ร็อกกี้ บาลบัว ได้รับคํารับรองมาว่าจะเพิ่มความท้าทายมากยิ่งขึ้น โดยจะเป็นการมุ่งหน้าท้าชกกับนักมวยระดับแชมป์โลกอย่าง แมนสัน ดิกซอน หรือ ฉายา เดอะไลน์ นั่นเอง
งานนี้คงต้องกลับไปทบทวนทั้งห้าภาคกันหน่อยซะแล้ว
