โดนจับตามองมากเป็นพิเศษสำหรับหนังเรื่อง “เพื่อนสนิท” ของ “เอส คมกฤษ ตรีวิมล” 1 ในผู้กำกับ "แฟนฉัน" คราวนี้คงโล่งอกโล่งใจเพราะคว้าไปแล้วกว่า 44 ล้าน เจ้าตัวบอกไม่คาดหวังสูงแค่ไม่ให้ขาดทุนก็พอ ยันไม่เกร็งถูกมองเป็นหนังแก้วิกฤติจีทีเอช ฝ่าย "โอปอล์" กับบทของ "พี่แตน" ตัวเด่นของเรื่อง ยันไม่ได้แย่งซีนพระ - นางแต่เล่นไปตามบท ฝ่ายนางเอกของเรื่อง "เอ๋ มณีรัตน์" ยอมรับคำวิจารณ์ เพราะไม่สวยจริง
แม้จะโดนมองว่าเป็นหนังที่จะมาดามใจให้กับค่ายจีทีเอช หลังจากที่อกหักจากหนังฟอร์มยักษ์อย่าง “มหา'ลัย เหมืองแร่” และ “วัยอลวน4” เอสก็ยอมรับว่ากดดันทุกเรื่องเวลาทำหนัง ไม่ใช่เรื่องรายได้ เผยเพื่อนสนิทแค่หนังธรรมดา จำเป็นต้องขายความเป็นผู้กำกับแฟนฉัน
"ตอนนี้ดีใจมากเลยนะดีใจที่มีคนดูหนังเรื่องนี้ จริงๆ เรื่องตัวเลขเนี่ยผมไม่ค่อยสันทัดเรื่องพวกนี้มาก ถ้าถามผมตัวเลขในใจน่ะไม่มีหรอก แค่ทำหนังแล้วคนชอบก็โอเค ให้มันคุ้มทุนที่เค้าให้ กำไรนิดหน่อยก็พอ ซึ่งทุนเรื่องนี้ 20ล้านครับ"
"ผมดีใจนะที่มีคนโทรมาบอกว่าชอบหนังผม ดีใจที่มีคนนั่งโต้เถียงกันถึงเรื่องราวในหนัง ผมชอบ เพราะนั่นหมายถึงผมประสบความสำเร็จแล้ว เสน่ห์ของเพื่อนสนิทมันคงอยู่ที่ความใกล้ตัว ใครๆ ก็คงเคยมีประสบการณ์รักที่เคยแอบรักเพื่อนสนิทมาบ้าง อารมณ์ตรงนี้มันคงสื่อถึงคนดูได้ไม่ยาก คิดว่าคนคงชอบตรงนี้มากกว่าคล้ายๆ กับแฟนฉัน"
"ถามว่ากดดันไหม ผมทำหนังผมกดดันทุกเรื่องแหละ ไม่ได้กดดันเรื่องรายได้นะ แต่กดดันว่าทำออกมาแล้วคนจะสนุกไหม จะชอบไหมเท่านั้นเอง เรื่องรายได้ผมไม่ค่อยมองตรงนั้นเท่าไหร่"
"ถ้าสมมติว่าหนังมันโดนใจแล้วมันได้เงินด้วย ผมก็ดีใจนะ เพราะจริงๆ แล้วบริษัทให้ผมทำก็ดีแล้ว เพราะหนังเรื่องนี้มันไม่มีอะไรจะขายเลย มันถึงต้องใช้คำว่าผู้กำกับแฟนฉันไง เพราะเรื่องนี้มันเหมือนหนังธรรมดา ดาราก็ไม่มีตัวขาย ถ้าผลมันจะออกมาดีผมก็ดีใจกับบริษัทด้วย"
"ผมว่าแฟนเก่าหนังแฟนฉันเยอะนะ เครดิตแฟนฉันมันเป้นเครดิตที่ดี จริงๆ ใครจะเรียกว่าขายแฟนฉันก็ได้ จะเรียกผมว่าอะไรก็ได้ แต่มันเป็นผลงานของผม ชื่อไหนที่จำผมได้ผมเอาทั้งนั้น เอส นิเทศ เอสแฟนฉัน หรือจะเป็นเอส เพื่อนหนิด ผมก็โอเค อะไรก็ได้ ผมว่าแฟนฉันมันเป็นสิ่งที่ขายหนังเรื่องนี้ได้ชัดเจนนะ เพราะอย่างดารา หรืออะไรในเรื่องมันขายได้เลยไง แง่การตลาดมันใช่เลยแหละ"
เรื่องเพลงประกอบหนัง เจ้าตัวบอกว่าได้มาเพราะความบังเอิญจริงๆ แต่ก็เป็นความบังเอิญที่ลงตัวมากๆ ส่วนหนังเรื่องใหม่ "หนูหิ่นฯ" ตอนนี้ถ่ายทำไปแล้วกว่า 20 %
"มันเป็นความบังเอิญมากสำหรับเรื่องเพลง จริงๆ น่ะคิดกันมาตั้งแต่ทำโปรดักชั่นแล้วว่าจะเอาเพลงอะไร แต่สุดท้ายก็ไม่จบครับ จนมาวันหนึ่งผมขับรถไปก็ได้ยินเสียงเพลงเพลงหนึ่งก็เป็นเพลงนี้แหละ ช่างไม่รู้เลย ซึ่งยิ่งฟังมันยิ่งใช่กับเพลงนี้มากๆ ก็เลยตัดสินใจใช้เพลงนี้เพลงเดียวเลย ก็คิดว่าน่าจะติดหูกันแล้ว พอเอามาตัดลงกับภาพในหนังมันลงตัวกันดีครับ"
"ส่วนหนูหิ่นตอนนี้มาดูโลเคชั่นครับ ถ่ายไปได้ซัก 20% แล้ว ถามว่ารู้สึกว่ากลัวไหมที่คนจะคาดหวัง ไม่นะ แต่เกร็งแหละ เกร็งทุกเรื่องอย่างที่บอก เพราะกลัวว่าคนจะสนุกไปกับเราไหม อะไรที่ยังไม่รู้บ้างเราก็ต้องใส่ให้เค้าไป ส่วนเค้าจะคิดเหมือนเราไหม ผมไม่รู้อันนี้แหละคือสิ่งที่เกร็งอยู่”
หลายคนที่ไปดู "เพื่อนสนิท" ก็คงจะต้องจำได้กับบทของ "พี่แตน" ซึ่งหลายคนยกให้เธอเป็นจอมขโมยซีนฝ่ายหญิงไปเรียบร้อยแล้ว อย่างไรก็ตามสำหรับผู้ที่รับบทดังกล่าวอย่าง "โอปอล์ ปาณิสรา พิมพ์ปรุ" แล้ว เจ้าตัวบอกว่าก็แค่เล่นไปตามบทเท่านั้น พร้อมกล่าวว่ารู้สึกดีใจที่คนจำได้งานติดต่อเพียบแต่ตนคงจะรับเล่นเฉพาะที่ชอบจริงๆ
"ตอนนี้ดีใจนะที่หลายคนดูหนังแล้วบอกว่าชอบ เรื่องบทบาทในเรื่องความจริงไม่อยากให้มองว่ามันเป็นการแย่งซีนใคร เพราะจริงๆ โอปอล์ก็เล่นไปตามบท พี่เอสเค้าให้บทมาเราก็มีหน้าที่สานต่อ คิดต่อว่าต้องทำอย่างไรต่อ เล่นธรรมชาติมากๆ ซึ่งตอนนี้มีคนรู้จักมากขึ้นก็โอเคค่ะ”
“ในเรื่องก็เล่นไปตามบทนะ อย่างหนึ่งต้องขอขอบคุณพี่เอสเพราะว่าเค้าให้โอกาสเราได้แสดงเต็มที่ ตอนที่เล่นแจ๋วน่ะ เป็นร้ายนิดๆ มาเรื่องนี้เป็นคนดี ติดตลก ซึ่งโอปอล์ผ่านงานละครเวทีมาเยอะ ตัวจริงก็ใกล้เคียงกับพี่แตนในเรื่องด้วยก็เลยดูพริ้ว แต่ก็แอบกังวลนิดๆ เรื่องภาษาใต้เพราะรู้สึกว่าพูดไม่ค่อยเหมือนเท่าไหร่”
"ตอนนี้งานติดต่อเข้ามาเยอะค่ะ แต่ก็ใช่ว่าจะรับเล่นไปเสียทุกอย่าง ขอเลือกที่ชอบจริงๆ ก่อนดีกว่า คงไม่ถือคติน้ำขึ้นรีบตัก แต่ไม่ได้เลือกมากนะคะ บทคนใช้บทอะไรก็เล่นได้แต่อยากเล่นที่ชอบด้วย"
ฝ่ายนางเอกอีกคนที่เล่นเป็น "นุ้ย" หรือ "เอ๋ มณีรัตน์ คำอ้วน" กล่าวว่าหนังเรื่องเพื่อนสนิทมีความสนุกสนานที่บทพี่แตนเยอะ และยอมรับคนติไม่สวยก็ไม่ซีเรียสเพราะไม่สวยจริงๆ
"ส่วนมากจะเจอเพื่อนว่ามากกว่า แม่ก็จะว่าเป็นได้ไงน่ะ แต่ตัวเองก็ไม่ได้อะไรเพราะก็เป็นเด็กธรรมดาทั่วไป ส่วนคนที่บอกว่าไม่สวยเอ๋ไม่ว่าไรหรอก ก็ไม่สวยจริงๆ จะไปเคืองอะไรเขาล่ะ ก็ยอมรับความจริงน่ะ ก็รู้ตัวว่าตัวเองไม่สวย ถ้าผู้ใหญ่ให้โอกาสเอ๋ก็อยากทำอะไรอีกหลายอย่างนะ"
“อย่างหนังเรื่องนี้ต้องยอมรับว่าตัวพี่แตนเค้าสร้างเสียงฮือฮาได้เยอะ เหมือนพี่หม่ำนั่นแหละ ออกมาฉากไหนก็ฮาฉากนั้นซึ่งเอ๋ว่าตัวพี่เค้าเด่นมากนะ เป็นตัวทำให้หนังสนุกด้วย"