xs
xsm
sm
md
lg

ผ่าคนทำนาย "อ.ลักษณ์" หมอดูฟันธง(ดะ)ที่ดังได้เพราะ "ดวง"

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


"ดวง" เป็นศาสตร์หนึ่งที่ยังไม่มีใครสามารถพิสูจน์หรืออธิบายได้ว่าเกี่ยวเนื่องอย่างไรกับชีวิตมนุษย์ทั้งในอดีต-ปัจจุบันและอนาคต

ทำไม "ใครคนหนึ่ง" ถึงได้ล่วงรู้ความเป็นไปในกาลเวลาล่วงหน้าหรือมองเห็นความเป็นมาที่เกิดขึ้นในวันวานของอีกคนหนึ่งได้?

แม้จะเป็นเรื่องที่เหลือเชื่อและมีคนจำนวนไม่น้อยที่ไม่เชื่อเรื่องอันน่าพิศวงนี้ แต่ในขณะเดียวกันก็มีคนจำนวนมากที่ดั้นด้นจะไปให้ "ใครคนนั้น" เสาะหาเรื่องราวในอนาคตของตัวเอง จะเพื่อความสบายใจส่วนตัว? หรือเพื่อต้องการเตรียมการล่วงหน้าต่อเภทภัย(ที่ถูกทำนาย)? หรือเป็นเพราะงมงาย? ก็ตาม แต่อาชีพของ "ใครคนนั้น" ที่เราเรียกว่า "หมอดู" ณ เวลานี้ก็เข้ามามีบทบาทกับคนในปัจจุบันมากพอสมควร

สาเหตุที่บ้านเมืองเกิดอาเพศ เหล่านักการเมืองทำงานบกพร่องหรือแม้แต่สุนัขจะมีคู่อย่างไรถึงจะดี ก็มีหมอดูมานั่งทำนายกันเป็นเรื่องเป็นราว และวินาทีนี้ก็ไม่มีอะไรจะน่าสนใจมากเท่ากับ "ดวงของคนในวงการบันเทิง" ที่มี "อ.ลักษณ์ เรขานิเทศ" ฟันธงแต่เรื่องเด็ดๆ

วันนี้ "ผู้จัดการออนไลน์" ถือโอกาสหยิบเรื่องเล่าเรื่องราวมันส์ๆจากปากของหมอดูบันเทิงคนดังคนนี้มาให้ทุกคนได้รับรู้กัน

“ผมเกิดที่ จ.ปราจีนบุรี บ้านติดคลองเลยนะ เกิด 1 ก.ย. 2514 เรียนจบประถมที่ปราจีนบุรีและมาเรียนต่อที่กรุงเทพฯ” หมอฟันธงชื่อดังเริ่มเล่าประวัติของตัวเองเมื่อเราเอ่ยปากถาม

“มาต่อที่กรุงเทพฯ ก็สนใจวิชาโหราศาสตร์เพราะว่าตามเพื่อนไปจีบสาวๆ ที่หอสมุด เราก็นั่งอ่านตำราดูดวงบนโต๊ะ สาวๆ เห็นก็คิดว่าเราดูได้ก็มาให้เราดู เราก็เลยต้องไปเคี่ยวเข็ญเอากับวิชาพวกนี้จนกระทั่งชำนาญการ พอเข้ามหาวิทยาลัยที่หอการค้าฯ ก็ต้องดูให้พวกเพื่อนฝูง”

“พอเรียนถึงปี 2 เกิดวิกฤติของครอบครัวเราก็ต้องดูดวงส่งตัวเองเรียน ก็ดูมาเรื่อยๆ ตั้งแต่งานกาชาดหัวละ 70 - 100 บาท แล้วก็เป็นคอลัมนิสต์เขียนหนังสือเกี่ยวกับดวงตามหนังสือต่างๆ ชีวิตเนี่ยผ่านวนเวียนการเป็นหมอดูสมัครเล่น 5 ปี เป็นหมอดูมืออาชีพ 10 ปี ไม่ได้ไปทำอาชีพอื่น นี่คือประวัติพื้นฐานของผม”

“หลักที่ผมใช้ดูคือผมดูได้เฉพาะดวงไทยคือโหราศาสตร์ไทย ดูลายมือ,ลายเซ็น ผมดูวันเดือนปี เวลาเกิด จังหวะเกิดคือเปิดคอมพิวเตอร์ ดูจากโปรแกรม ดูดาว และวิเคราะห์ตีความโดยใช้ทฤษฎีทางโหราศาสตร์”

มีเรื่องไหนบ้างที่อ.ลักษณ์จะไม่ดู ?
“ผมจะไม่ดูฟุตบอลเพราะผมเคยดูพลาด ไม่ดูว่าคู่ไหนจะชนะเพราะว่ามันเป็นการพนันด้วย เรื่องนางงามก็ที่ผ่านมาอาจจะเคยดูแต่ต่อไปนี้จะไม่ดูการแข่งขันกีฬาทั้งหมด ใครจะชนะไม่ชนะ แต่ถ้าเกิดจะดูการแข่งขันอย่างเช่น อะคาเดมี่ แฟนตาเซียเป็นสีสันเนี่ย เออ...ดู แต่จะออกตัวไว้ก่อนเลยว่าไม่รู้วันเดือนปีเกิด ดูไว้เป็นสีสันเข้าว่าคือเรื่องวงการบันเทิงเนี่ยที่ดูมากเพราะว่ามันเป็นมายา เป็นเรื่องเอ็นเตอร์เทนเมนท์ เป็นเรื่องสนุก”

“การเมืองหลังๆ ผมเพลาๆ ลง แต่ก่อนผมเขียนให้ไทยโพสต์ ฟันธงเรื่องการเมืองแรงๆ เลยว่ารัฐบาลนี้ไป รัฐบาลนี้อยู่ รัฐมนตรีคนไหนไป คนไหนอยู่ เมื่อหลายปีแล้ว 5 ปีได้ แต่เดี๋ยวนี้แทบจะหยุดแล้ว เหตุผลเพราะว่ามันเบื่อหน่ายน่ะ ทำอะไรนานๆ มันก็เบื่อ”

เคยฟันธงแรงๆ จนถูกอุ้มไปฆ่ามาแล้ว แต่อ.ลักษณ์ไม่เข็ด แถมทำนายหนักกว่าเดิม
“ผมเคยโดนขู่ฆ่ามั้ยเหรอ อ๋อ ผมถูกอุ้มไปฆ่าเลย อุ้มไปกระทืบเลย อุ้มไปทำร้ายร่างกายแต่ก็ไม่เป็นไรเพราะดวงผมเนี่ยจะตายต้องอายุ 48 โดยประมาณนะ จริงๆ ผมไม่อยากเล่าแล้ว มันเป็นการดูให้นายกรัฐมาตรีท่านหนึ่งนะ แล้วก็ลูกน้องท่านคงเข้าใจผิดอะไรบางอย่างก็เลยอุ้มผมไปเจรจาแล้วก็ตบตีด้วยด้ามปืน”

“ช่วงหลังๆ ผมทำนายหนักยิ่งกว่าเดิมเพราะผมไม่สนใจ ผมไม่กลัว ผมมีหน้าที่คือทายดวงชะตาแล้วก็ฟันธง ผมดูแล้วก็ต้องชัดเจน การที่จะมีอิทธิพลใดๆ มาทำให้ผมเปลี่ยนแปลงเป็นนุ่มนวลขึ้นไม่มีทาง ผมก็เป็นอย่างนี้ ร้อยปีร้อยชาติไม่เปลี่ยนแปลง แต่ในมุมอื่นๆ ทุกคนก็มีหน้าที่”

“คือเอาอย่างนี้มันมีเรื่องคาใจคือดาราเป็นคนสาธารณะพึงถูกวิจารณ์ได้ มีชื่อเสียงจากการเป็นดารา ผมก็มีชื่อเสียงจากการที่เป็นคนที่กล้าฟันธง เพราะฉะนั้นเนี่ยต่างคนต่างทำหน้าที่ แต่ดาราชอบอย่างนั้นอย่างนี้คือถ้าดาราไม่อยากให้ถูกฟันธงหรือไม่อยากให้ถูกวิจารณ์ผมว่าเข้าป่าไปเลย อย่ามาเป็นมาอยู่ คือการเป็นคนสาธารณะเนี่ยมันต้องยอมถูกวิพากษ์วิจารณ์ ผมก็ยอมถูกกล่าวถึงแต่เจตจำนงค์ของผมคือ1.ผมอยากจะทายให้เป็นสีสัน 2.ให้ข้อมูลเพื่อวางแผน”

หมอลักษณ์บอกดูดวงได้หมดทุกอย่าง ถ้าสิ่งนั้นมีเหตุแห่งการเกิด และวันเดือนปี เวลาเกิด แม้กระทั่งดวงปลา,นก,แมว ฯลฯ ซึ่งดวงสุนัขเขาก็ดูมาแล้ว
“คืออย่างนี้ถ้ามันมีเหตุแห่งการดู มีวันเดือนปีเกิดของสิ่งเหล่านั้น ทุกอย่างในโลกนี้มันดูได้หมดน่ะแหละก็คือหมายความว่ามันมีโจทย์มา แต่ถ้าเกิดอยู่ดีๆ ผมดูดวงปลา, นก, แมวแล้วอยากดัง อันนี้ผมบ้า แต่ผมจะบอกได้เลยว่าการที่ผมดูดวงหมาเพราะว่าหนังสือบางกอกทูเดย์เขาจัดงานไฮด็อกโซ แล้วเขาก็เชิญผมไปร่วมงาน แล้วก็เป็นสีสัน ทีนี้ไอ้คนที่ไม่รู้สมองมันแคบมันก็คิดว่าผมอยากดัง”

“ผมไม่ได้อยากดังด้วยการดูดวงหมา แต่ว่าเขาบอกว่าอาจารย์คะคนเขารักหมาเขามีวันเดือนปีเกิดเขามีสูติบัตรหมา อย่างนั้นคุณก็ไปด่าคนที่รักหมาสิว่าคนบ้าใช่มั้ย ไอ้คนที่คิดอย่างนั้นคือการก้าวล่วงความคิดของคนอื่นเขา คือไฮโซเขาก็รักหมาเขามีวันเดือนปีเกิดเขาเอามาให้ผมดู ก็เป็นเรื่องธรรมชาติของเขา”

แล้วเคยดูดวงตัวเองมั้ย ?
“โหย ! ถ้าผมไม่ดูดวงตัวเองผมก็คงดูดวงให้ชาวบ้านไม่ได้หรอก ต้องดูดวงตัวเองก่อนเลย ผมเป็นคนดูดวงตัวเองประจำ ถ้าดูดวงตัวเองไม่ดีเลย อันดับแรกต้องทำเป็นกลัวไว้ก่อน กลัวเสร็จแล้วตั้งสติเลยว่าจะต้องทำยังไง จะต้องแก้ยังไง ต้องแก้แบบมีเหตุมีผลไม่ผิดหลักศีลธรรมไม่ผิดข้อกฎหมาย ทำเลย”

อาจารย์เชื่อว่าเราสามารถแก้ไขดวงได้ทุกอย่าง ไม่ว่าดวงนั้นจะถูกใครลิขิตมาแล้วก็ตาม?
“บางเรื่องแก้ไขป้องกันได้ถ้าไม่เกี่ยวข้องกับดินน้ำลมไฟ เช่นถ้าจะเกิดอุบัติเหตุร้ายๆ กรรมเก่า เช่นไฟไหม้บ้าน เนี่ยผมดูมาแล้วผมแก้ไม่ได้ ตัวผมเองก็ไฟไหม้บ้าน ไปบวชแล้วอะไรก็แล้ว แต่เรื่องบางเรื่องเช่นดวงชะตาคุณจะถูกหลอกฟันในปีนี้ ก็ผู้ชายเข้ามาคุณก็อย่าคบสิ ในพ.ศ.นั้น ปีนี้การลงทุนแล้วตกต่ำเจ๊ง ก็อย่าลงทุนปีนั้น”

เวลาหมอลักษณ์ฟันธงเรื่องของคนในวงการบันเทิง ดูเขาจะรู้ลึกรู้จริงเกี่ยวกับคนนั้นๆ พอสมควร ทำให้หลายคนสงสัยว่าเขามีสายเป็นคนในนี้หรือเปล่า? อย่างรายล่าสุดเกี่ยวกับการตั้งท้องของนักแสดงสาว "แหม่ม คัทลียา" ที่บ้างก็ว่ากันว่าเขามีเพื่อนทำงานอยู่ที่โรงพยาบาลจึงทำให้รู้เรื่องดังกล่าว...

เกี่ยวกับเรื่องนี้หมอดูคนดังรีบปฏิเสธทันที


“ไม่มี๊ คือคนที่คิดว่าผมมีข้อมูลคือคนพวกนี้เป็นการคิดก้าวล่วงของคนอื่นหมายความว่าผมเนี่ยก็ต้องให้เกียรติตัวเอง ผมก็ต้องมีความศรัทธาในตัวผมก็คือต้องใช้ศาสตร์ในตัวผม ผมไม่เคยมีสาย”

“ถ้าถามว่าผมรู้จักคนในวงการบันเทิงอันหมายถึงตัวดาราน่ะกี่คน ผมรู้จักน้อยมากสำหรับดารารุ่นใหม่แต่ถ้าดารารุ่นเก่าเนี่ยระดับรุ่นพ่อของดารารุ่นใหม่เนี่ยรู้จักเพียบเลย ผมรู้จักสื่อมวลชนในสายบันเทิงเพียบเพราะรู้จักกันมานานนม ผูกมิตรกันมา ข่าวสาระบันเทิงเนี่ยเมื่อมีประเด็นเมื่อเจาะถามเขาดาราก็ปิดๆๆ ไม่อยากเปิด สิ่งที่จะเปิดได้ก็คือดวง นักข่าวก็เลยมาถามผม ผมก็เลยฟันธง พอฟันธงก็กลายเป็นทอล์คออฟเดอะทาวน์ เป็นกระแส มันก็เลยเป็นเรื่องของการวนไปวนมาอยู่อย่างนี้แหละ ไม่ใช่ผมไปแถลงข่าวดูดวงดาราหนิ”

“คนเบื้องหลังในวงการเช่นช่างแต่งหน้าก็รู้จักเยอะมากเลย ผมไปออกรายการทีวีในประเทศนี้แทบทุกรายการแล้ว ผมอยู่ในวงการนี้มาตั้ง 15 ปี ผมนั่งระเบียงโหรมา 2 โรงแรม ผมทำรายการทีวีมาตั้งแต่ไทยสกายทีวี คือเอาง่ายๆ ผมอยู่ทั้งเบื้องหน้าเบื้องหลัง วันนี้ถ้ารายการไหนให้ผมเป็นพิธีกรผมไม่ต้องมีสคริปต์น่ะ ผมคล่อง ไม่ใช่ผมมือใหม่ ผมนี่เก๋าพอสมควรในการที่จะนำเสนออะไรให้มันมัน แต่ผมนำเสนอความจริงนะ”

หมอลักษณ์มีตาทิพย์ ไม่ใช่ตามนุษย์ธรรมดาจริงรึเปล่า ?
“โอ๊ย! เขาก็พูดกันไป ผมมีตานะ ตาโต (ที่อ.บอกว่ามีนิมิตเห็นอะไรต่างๆ นานาในอนาคต?) อ้าว! ทุกคนก็มีนิมิตได้เช่นถ้าเกิดใครเป็นช่างซ่อมรถมาสัก 15 ปี หรือ 20 ปี พอไปสตาร์ทรถปั๊บน้ำมันเนี่ยเสื่อมแล้ว นี่ก็น็อตมันหลวม ผมก็เป็นหมอดูมา 15 ปีเวลาใครเดินผ่าน โอ้โห! เซ็กส์จัด , งานกำลังรุ่งโรจน์ เออดวงตก มันรู้เลยไง ใครจะเรียกว่าเซ้นส์ก็เรียกไปผมเรียกประสบการณ์เชิงวิชาชีพ บางทีอาจพูดเป็นภาษาว่านิมิต”

อย่างนี้คิดว่าตัวเองเป็นคนที่พิเศษกว่าคนอื่นมั้ย?
“โน ผมเป็นคนธรรมดาคนหนึ่งไม่วิเศษน่ะ ไปไหนก็ต้องขึ้นรถไปเหาะไปไม่ได้ กินข้าวก็ต้องจ่ายสตังค์แม่ค้าไม่ให้กินฟรี เวลานักข่าวมาถามกวนประสาทก็หงุดหงิด”

หมอดูท่านอื่นอาจจะมีประสบการณ์มากกว่าแต่มองไม่เห็นเท่าอาจารย์?
“อ้าวไม่ใช่ เขาไม่มีดวงจะดังไง อาจจะมีหมอดูในประเทศนี้เก่งกว่าผมมากมาย ผมยอมรับเลยแต่เขาไม่มีดวงดัง แต่ดวงผมน่ะมีดวงดังผมจะบอกให้ ผมดูดวงแล้ว จากนี้ผมจะดังไปอีก 5 ปี แล้วอีก 10 ปีผมอาจจะตายก็ได้นะ ผมจะตายอายุ 42 - 45 แต่จากนี้อีก 5 ปียากที่ใครจะมาแย่งชิงบัลลังก์ฟันธงผมได้”

ดูขนาดว่าหมดอายุขัยตอนไหนได้ด้วย ?
“อาจจะ1.หมดอายุขัยตายโดยการหมดลมหายใจ 2.เปลี่ยนอาชีพไปเลย ตายจากโลกโหราศาสตร์ไปเลย 3.ถูกย้ายประเทศไปเลย เขาหมั่นไส้ต้องย้ายไปอยู่ประเทศลาว เวียดนาม เขมรไปฟันธงสาวเขมรต่อ ประเทศนี้ไม่เอาแล้วไล่มันไป คือกูไม่อยู่ก็ได้วะอะไรประมาณนี้”

แล้วเรื่องที่คนมองว่าอาจารย์มีของ ?
“โอ๊ย ! ผมมีของแน่ ของผมใหญ่กว่าพี่เบิร์ดอีกนะ ของของผมก็คือธงไง ใหญ่กว่าพี่เบิร์ดชัวร์ ผมมั่นใจมาก ของในแง่ไสยศาสตร์ต้องเณรแอแล้ว ผมไม่มีของหรอก”

เห็นอาจารย์ดูดวงเกี่ยวกับเรื่องเซ็กส์ให้ดาราอยู่บ่อยๆ เขาเลยว่ากันว่าอาจารย์แม่นเรื่องนี้?
“โห ! คุณรู้ได้ไงว่าผมแม่นเรื่องเซ็กส์ เมียผมก็ยังไม่มีนะแล้วไม่รู้เลยว่าผมจะทำเป็นมั้ย คุณมาบอกว่าผมแม่นเรื่องเซ็กส์ คุณมีประสบการณ์ส่วนตัวกับผมเหรอ ตามดวงผมนะคู่ผมนะต้องมีลักษณะตัวดำ ไม่มีใครเอา ขาเป๋ ตาเหร่ หูหนวก ชาวต่างชาติ คือเมียผมเนี่ยอัปปรีย์สุดๆ ผมเลยไม่เลือกที่จะมีเมียจำไว้นะตามดวงเนี่ย”

“ผมไม่ถนัดดูเรื่องนี้หรอกแต่คืออย่างนี้โหราศาสตร์มันมีการดูได้ว่าคนเกิดราศีไหนมีพลังทางเพศดี มันดูว่าลีลาแบบไหนเร้าใจ คนที่เกิดราศีต่างๆ จะมีลีลาอย่างไร อย่างคนเกิดราศีตุลย์ พลเอกชาติชายท่านเป็นนักรัก อย่างผมก็นักรักลีลามันก็จะโรแมนติกลึกซึ้ง คนเกิดราศีเมษลีลาแบบตบจูบดึงเข้ามากระชากมาฟัดกอด”

“คือผมรู้แค่ดวงชะตากับลีลารัก ผมรู้แค่ว่าจุดอ่อนจุดสวาทในร่างกาย ถ้าจุดที่ซอกคอสำหรับคนที่เกิดราศีพฤษภเนี่ยจะแบบหวั่นไหว ถ้าเกิดราศีพิจิกชอบใช้ชุดชั้นในหลากสีหรือว่าหลากแบบ ถ้าเกิดชายใดซื้ออย่างนี้ไปให้ผู้หญิงก็มีเสน่ห์ เนี่ยคือผมรู้อย่างนี้ไง รู้จากดวง”

“ถามว่าดาราถ้าจะไม่ให้อื้อฉาวจะต้องมีฤกษ์ในการมีเพศสัมพันธ์กันจริงมั้ย ไม่มีๆๆ ฤกษ์ดาราที่จะมีเพศสัมพันธ์คือฤกษ์เดียวเลย ไม่มีฤกษ์อื้อฉาวดาราจะมีอะไรกันแล้วไม่กลัวหรอก มันมีฤกษ์เดียวคือเลิกผ้าเลย เลิกผ้าเลิกผ่อนเนี่ยคือฤกษ์ดีที่สุดเลย ฤกษ์ไม่อื้อฉาวเนี่ย ดูไม่ได้”

ฟันธงดาราดาวรุ่ง,ดาวร่วงและดาวอื้อฉาวที่สุดในปีหน้า
“ผมฟันอีกฟิล์ม รัฐภูมิโด่งดังเป็นซูเปอร์สตาร์แทนเบิร์ดไปอีกหลายปีนานนม โก อินเตอร์ ฟันธง ผู้หญิงอีกคนหนึ่งที่จะมาคือใครรู้มั้ย ขวัญ อุษามณี ซูเปอร์สตาร์ของเมืองไทยฟันธง เชื่อมั่นว่าดารา 2 คนนี้จะโด่งดังมากเลยเป็นซูเปอร์สตาร์โดดเด่นของเมืองไทย มั่นใจล้านเปอร์เซ็นต์”

“ดาวร่วงเขาอาจจะเปลี่ยนสภาพจะไม่เรียกว่าดาวร่วงเช่นหนูกบ อ๊บๆ กบ (สุวนันท์) ก็จะไปเป็นคุณนายกบในเร็ววัน จากเป็นดาวบนท้องฟ้าของประชาชนก็เป็นดาวประดับใจของพี่บรู๊ค อันนี้หนึ่งล่ะ 2. พี่เบิร์ดเนี่ยดาวร่วงล้านเปอร์เซ็นต์ ฟันธง อย่าไปเช็คจากคอนเสิร์ตให้ไปเช็คจากยอดเทป นักร้องมันต้องดูที่เพลงสิ คอนเสิร์ตตาโย่ง ตลกน่ะก็ทำได้ก็แข่งได้ ดาวตกเบิร์ดนี่ชัดมาก”

“ติ๊ก เจษฎาภรณ์, ป๋อ ณัฐวุฒิ , พอลล่า ดวงตกชัวร์ อั้ม(พัชราภา)มีข้อหนึ่งสร้างบ้านให้พ่อแม่ บุญนี่ช่วย เป็นดาราที่น่าสรรเสริญ อย่างพลอย เฌอมาลย์นี่ก็น่าสรรเสริญที่ผมดูเขาไว้ในมุมที่ว่า 12 มี.ค.เขามีเกณฑ์รักร้าวนี่บวกอีก 2 ปีหมายถึงอย่างนั้น พลอยก็เลี้ยงแม่บุญของเขาทำให้มีงานตลอดกาล”

“ดาราที่อื้อฉาวที่สุดเหรอ เอาเป็นว่าจับตาดูกันเดือนตุลาคมจะมีดาวอื้อฉาว ล้านเปอร์เซ็นต์ 16 ต.ค.-16 พ.ย. จะมีข่าวดาราอื้อฉาวสุดๆ ก้องแผ่นดิน ฟันธง ระบุชื่อไม่ได้บอกแล้วเสียเลย บอกเสร็จเดี๋ยวมันหลบหลีกล่ะ ไม่อยู่เมืองไทยอย่างนี้ ดาราท้องก่อนแต่งรึเปล่า ผมไม่บอกแต่เชื่อคุณคอยดูนะข่าวดังมากผมมั่นใจมาก ช็อกวงการอีกครั้ง โหย! ช็อกพอๆ กันเลยกับของแหม่ม คัทลียาน่ะ”

เมื่อถามว่าอะไรทำให้เขาดังขึ้นมาได้ หมอดูคนดังตอบทันควันว่าเพราะ “ดวง”
“คืองี้ผมตั้งแต่เด็กๆ นะมีหมอดูซึ่งเป็นนักการภารโรงของโรงเรียนบอกว่าหนูวันหนึ่งจะต้องโด่งดังก้องแผ่นดิน ต้องรักษาตัวให้ดี พอโตขึ้นเพื่อนชวนไปเที่ยวกะหรี่ก็ไม่ไป ชวนไปทำอะไรผมก็ไม่ทำ เดี๋ยวๆ กูดัง เขียนเฟรนด์ชิพก็เขียนแต่ดีๆ เออนายๆ เขียนให้เราดีๆ นะ เดี๋ยวเราดังเดี๋ยวจะเสียหายคือเป็นคนรู้เลย และระวังตัวเองมากตั้งแต่เด็กเลย ผมจะไม่มีประวัติเสียเลย มีแต่เป็นประธานนักเรียน เป็นหัวหน้าชั้น”

“มีแต่ประวัติเสียเล็กๆ น้อยๆ คือชอบกะเทย เห็นกะเทยสวยไม่ได้ชอบ แต่ไม่เคยมีเพศสัมพันธ์กับกะเทยเลย แล้วอีกอย่างคนชอบหาว่าผมเป็นเกย์ผมไม่เคยให้เสพสวนทวารทางก้น และไม่เคยไปเอากับใครทางก้น แล้วก็ไม่ใช่เป็นเกย์นะ”

“ไอ้ความดังผมคิดว่ามันเกิดจากเป็นบุคลิกส่วนตัวของผมอย่างนี้ ผมไปอยู่ที่ไหนคือผมเป็นเหมือนพี่เหลิม (เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์) เหมือน สมัคร สุนทรเวช ผมเป็นของผมอย่างนี้ เสียงดังแต่คือต้องประกอบด้วยศาสตร์ ศิลป์และเซ้นส์น่ะ"

"แต่ที่ผมเชื่อมั่นสุดสำคัญสุดถ้ามันมีดวงจะดังมันก็ต้องดัง”


กำลังโหลดความคิดเห็น