ในวันที่ 30 กันยายน ของทุกๆปี เป็นอีกหนึ่งวันที่แฟนหนังทั่วโลกพร้อมใจกันลุกขึ้นมารําลึกความหลังให้กับการลาจากโลกนี้ไปของ "เจมส์ ดีน" ดาราหนุ่มในดวงใจของคนรุ่นลายครามทั้งหลาย และในปีนี้ยิ่งถือว่าเป็นโอกาสอันยิ่งใหญ่ซึ่งเวียนมาถึงโอกาสครบรอบห้าสิบปีที่ดาราหนุ่มมาดจิ๊กโก๋คนนี้ได้กลับมาสร้างความประทับใจให้เราอีกครั้ง
เจมส์ ดีน ถือว่าเป็นนักแสดงหนุ่มผู้รุ่งเรืองในฐานะพ่อแบบของหนุ่มผู้นําแฟชั่นโก๋หลังวัง ที่ระบาดมายังประเทศไทยให้วัยรุ่นในสมัยนั้นได้อินกันกับผมทรงมันเยิ้ม เสื้อรัดติ้วพับแขนแบะอก และกางเกงขาเดฟกับมอส แต่น่าเสียดายที่ต้นแบบดาราในใจของแฟนหนังคนนี้ต้องมาจบชีวิตลงในรถพอร์ชเปิดประทุน สีเงินวาวคู่ใจ ที่เขาให้ชื่อว่า Little bastard 550 จากอุบัติเหตุประสานงาบนถนนในแคลิฟอร์เนีย เมื่อวันที่ 30 กันยายน ปี 1955
ดีนเริ่มหัดเรียนการแสดงจนได้ขึ้นเล่นละครบรอดเวย์หลายครั้งตั้งแต่ปี 1951 และหลังจากได้เล่นเรื่อง "The Immoralist" ในปี 1954 เขาก็ได้รับการคัดเลือกให้รับบทนำในภาพยนตร์เรื่องแรกในชีวิตนักแสดงฮอลลีวูด เรื่อง "East of Eden" ซึ่งหนังเรื่องนี้ถูกดัดแปลงมาจากหนังสือเรื่องเยี่ยมของนักประพันธ์ชื่อก้องโลกอย่าง จอห์น สไตน์เบ็ค และหลังจากหนังปิดกล้องออกฉาย ดีนกลับมารับเล่นละครทีวีอีกหลายเรื่อง จนได้รับบทนำในหนังสร้างชื่ออีกเรื่อง "Rebel Without A Cause"
แม้ เจมส์ ดีน จะสูญเสียชีวิตไปก่อนที่เพลงฮิตของราชา
ร็อกแอนด์โรว เอลวิส เพรสลีย์ จะดังกระหึ่มก้องทั่วโลก แต่เขาคนนี้ก็เป็นที่ยอมรับในนามของหนุ่มจิ๊กโก๋มาดร็อกแอนด์โรวไปเป็นที่เรียบร้อยก่อนแล้ว ซึ่งที่มาของภาพลักษณ์นักแสดงแนวแอนด์โรวของดีนได้รับอิทธิพลมาจากเสียงดนตรีสุดฮิตของ บ็อบ ดีแลน และ จอห์น เลนนอน โดยครั้งหนึ่งเลนนอนได้ให้สัมภาษณ์ไว้ว่า "ถ้าไม่มี เจมส์ ดีน ในวันนั้น ก็คงไม่มี เดอะบีทเทิ้ลในวันนี้แน่!"
ไม่เพียงความหล่อและมาดเท่ที่ถูกตาต้องใจแฟนหนังทั่วโลกกันแล้ว ฝีมือการแสดงของ เจมส์ ดีน ก็กลายเป็นที่ยอมรับในฐานะนักแสดงหน้าใหม่ที่ก้าวขึ้นประสบความสําเร็จได้อย่างรวดเร็ว เพราะเขาคนนี้ใช้เวลาเพียงไม่ถึงสองปีในการแสดงหนังสามเรื่อง โดยสองเรื่อง "East of Eden" และ "Giant" ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงออสการ์ ทำให้เขากลายเป็นหนุ่มสุดฮอตที่สุดของฮอลลีวูดในยุคนั้น
ที่สําคัญ เจมส์ ดีน ได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในสุดยอดยี่สิบห้านักแสดงชายในรอบ 100 ปี ของ American Film Institute (AFI) หรือ สถาบันภาพยนตร์อเมริกัน รวมทั้งยังมีการจัดตั้งพิพิธภัณฑ์ เจมส์ ดีน และมีการเปิดบ้านพักที่เคยอยู่อาศัยให้แฟนๆได้เข้าเยี่ยมชมอีกด้วย
ยังจําหนุ่มจิ๊กโก๋คนนี้กันได้มั้ย
