โอละพ่อเวทีมิสไทยแลนด์เวิลด์ "แองจี้ อัจฉรา แมคคาย" แฉบริษัทบีอีซีฯ กองจัดการประกวดใช้ภาพที่ตนเคยถ่ายแบบบีบให้สละตำแหน่งทั้งที่เคยเห็นรูปดังกล่าวและยืนยันว่าไม่มีปัญหา ส่วนสาเหตุที่แท้จริงเจ้าตัวยอมรับเป็นเพราะตกลงเรื่องเงินในสัญญาใหม่ไม่ได้
ยังคงฉาวกันไม่เลิกกรณีการประกาศลาออกจากตำแหน่งมิสไทยแลนด์เวิลด์ของ "แองจี้ อัจฉรา แมคคาย" สาวลูกครึ่งไทย - ออสเตรเลียหลังครองมงกุฎดังกล่าวได้เพียง 10 กว่าวันโดยบริษัทบีอีซีเทโรฯ กองจัดการประกวดได้ให้เหตุผลว่าเป็นเพราะเจ้าตัวติดเรื่องเรียนบวกกับสัญญาการเป็นนางแบบให้กับบริษัทเอเจนซี่แห่งหนึ่งและเป็นทางแองจี้เองที่เดินมาบอกเรื่องดังกล่าวกับบริษัทบีอีซีฯ ท่ามกลางข่าวลือว่ามูลเหตุที่แท้จริงน่าจะเป็นเพราะเรื่องภาพที่เธอเคยถ่ายไว้รวมถึงเรื่องของสัญญาใหม่ที่สาวแองจี้เรียกร้องไม่ว่าจะเป็นเงินเดือน 150,000 บาทบวกกับคอนโดฯ หรูในกรุงเทพฯ ซะมากกว่า
ภายหลังการแถลงข่าวสละตำแหน่งเมื่อวันอังคารที่ 20 กันยายนที่ผ่านมา ในช่วงเย็นของวันนี้ (27 ก.ย.) "แองจี้" พร้อมด้วยบิดา "บ็อบ แมคคาย" ได้จัดการแถลงข่าวขึ้นอีกครั้งหนึ่งที่อาคารวรสิน ย่านวิภาวดีเพื่อชี้แจงถึงรายละเอียดต่างๆ โดยเฉพาะในส่วนของเหตุผลที่แท้จริงที่ทำให้เธอต้องสละตำแหน่งรวมถึงกรณีของภาพที่เผยแพร่ไปตามอินเตอร์เน็ตในตอนนี้
ทั้งนี้อดีตมิสไทยแลนด์เวิลด์ได้ให้รายละเอียดในเรื่องของภาพหวือว่า ทางกองประกวดนั้นเคยเห็นภาพดังกล่าวก่อนแล้วเนื่องจากตนเองเอาไปให้กับสปอนเซอร์กองประกวดดูก่อนที่จะมีการตัดสินกันเพื่อที่จะถามจะมีปัญหาอะไรหรือเปล่าซึ่งทางกองจัดการประกวดเองบอกว่าไม่มีปัญหาอะไร แต่ทำไปทำมากลับกลายเป็นเรื่องดังกล่าวที่กองประกวดยกเอามาอ้างเพื่อให้ตนเองสละตำแหน่ง
"ปัญหาที่แท้จริงทางผู้ใหญ่บอกแองจี้ว่าภาพที่ถ่ายไปมันไม่เหมาะสมทางผู้ใหญ่ให้มาลาออก แล้วแองจี้ก็เลยลาออกเพราะไม่รู้จะทำอย่างไร อีกอย่างแองจี้เองก็ไม่อยากให้คนไทยเสียความรู้สึกกับสิ่งที่แองจี้ทำ อยากให้ทุกคนเข้าใจไม่อยากให้เมืองไทยต้องเสียภาพพจน์"
ต่อข้อซักถามของผู้สื่อข่าวที่ว่ากันว่าแล้วทำไมต้องให้เหตุผลว่าไปเรียนแองจี้บอกว่าเป็นเพราะทางผู้ใหญ่เป็นคนแนะนำให้พูดให้อย่างนั้น แต่ก็มีส่วนจริงเหมือนกันเพราะตนก็คิดที่จะไปเรียนต่อแล้วก็ไปเป็นนางแบบต่อ ส่วนเรื่องที่ว่ากันว่ามูลเหตุของการสละตำแหน่งนั้นมาจากการที่ทางกองประกวดไม่ค่อยจะพอใจในสิ่งที่แองจี้ได้ขอไปก็คือเงินเดือน 150,000 บาทรวมถึงคอนโดฯ (ต้องมีห้องฟิตเนส) เพื่ออยู่อาศัยในกรุงเทพเป็นเวลา 18 เดือน เรื่องนี้บิดาของแองจี้บอกว่าขอไปจริงๆ และนี่เองก็คือสาเหตุที่ทำให้ลูกสาวตนเองถูกยกเอาเรื่องรูปขึ้นมาอ้างให้ลาออก
บ็อบบอกว่าตนได้เขียนอีเมล์ไปบอกว่าต้องการอะไรบ้าง แล้วบีอีซีก็ตอบกลับมาว่าไม่สามารถเป็นไปได้ โดยที่ขอไปก็คือขอให้แองจี้มีเงินเดือน เพราะว่าในสัญญาเขียนไว้ว่าแองจี้จะไม่สามารถมีเอเจนซี่ได้นานถึงเวลา 18 เดือน ไม่สามารถรับงานนอกได้ ไม่สามารถมีคนดูแลได้นอกจากกองประกวด โดยบ็อบยืนยันว่าเงินเดือนที่ขอไปนั้นทางเพื่อเป็นการการันตีว่าถ้าไม่มีเงินเข้ามาลูกสาวจะสามารถอยู่ได้ซึ่งเพื่อนๆ ของแองจี้คนอื่นๆ ก็คิดอย่างนี้ด้วย
ในส่วนเรื่องที่พัก บิดาของแองจี้บอกว่าที่ขอไปเพราะทั้งตนเองและภรรยาไม่มีที่พักอยู่ในกรุงเทพฯ ก็เลยต้องขอ ส่วนเรื่องห้องฟิตเนสบ็อบให้เหตุผลว่าเป็นเพราะการทำงานตรงนี้อย่างที่รู้ๆ กันว่าเรื่องของการรักษาหุ่นเป็นสิ่งสำคัญ แต่ตนไม่ได้ระบุว่าต้องมีฟิตเนสอยู่ในห้องพัก อาจจะเป็นข้างๆ หรือไม่ก็สมัครสมาชิกให้กับลูกสาวของตนเองก็ได้
"ทุกอย่างนั้นพร้อมที่จะต่อรองได้ถ้ามานั่งคุยกัน แต่นี่คือตัวเลขที่ยื่นให้ไปเฉยๆ ซึ่งทางบีอีซีก็บอกว่าให้ไม่ได้ที่ขอไปทั้งหมด เพราะฉะนั้นแองจี้จึงไม่มีทางเลือกอย่างไงก็ต้องทำตามที่สัญญาที่ได้เสนอไว้ตั้งแต่แรก" บิดาของแองจี้กล่าว ในขณะที่สาวแองจี้เสริมว่าในส่วนของสัญญานั้นในเบื้องต้นได้มีเจ้าหน้าที่คนหนึ่งแปลให้ฟังแต่ตนเข้าใจไปอย่างหนึ่งซึ่งพอได้ตำแหน่งมาแล้วจึงให้ญาติของตนเองมานั่งดูรายละเอียดอีกครั้งก็พบว่าไม่ได้ตรงกับที่ตนเองเข้าใจและเป็นเหตุให้พ่อต้องยื่นเรื่องดังกล่าวไป
แองจี้ยังบอกต่อไปด้วยว่าที่ผ่านมาตนเองไม่เคยคิดที่จะไม่อยากทำตำแหน่งนี้เลยแต่เพราะทางบีอีซีฯ ไม่ยอมที่จะเจรจาด้วยแถมยังยกเอาเรื่องของภาพที่เธอถ่ายไว้ขึ้นมาเป็นข้ออ้างว่าเป็นภาพที่ไม่เหมาะสมโดยบอกว่าคนไทยรับไม่ได้แน่นอนกับเรื่องแบบนี้เพราะฉะนั้นก็ขอให้ตนลาออก ส่วนภาพที่ออกมาในตอนหลังนั้นแองจี้ยอมรับว่าเป็นภาพที่ตนนำไปเผยแพร่เองเพื่อที่อยากจะให้คนไทยได้ตัดสินว่าภาพดังกล่าวไม่เหมาะสมจริงอย่างที่เป็นข่าวหรือเปล่า เนื่องจากเป็นการถ่ายแบบถ่ายโฆษณาธรรมดาๆ ทั้งในส่วนของ W แมกกาซีน ของอเมริกา, แมกซิมของฮ่องกง และสตาร์ของสิงคโปร์ ส่วนภาพที่เห็นหน้าอกชัดเจนนั้นไม่ใช่ตัวเอง หากแต่เป็นภาพของมิสทิฟฟานีซึ่งมีหน้าละม้ายกับตน
อดีตมิสไทยแลนด์เวิลด์บอกในตอนท้ายด้วยว่าสาเหตุที่ตนเองต้องออกมาชี้แจงครั้งนี้ก็เพื่ออยากให้ทุกคนได้เข้าใจเรื่องราวที่แท้จริง รวมทั้งไม่กลัวและไม่ได้รู้สึกไม่พอใจต่อบริษัทบีอีซีโทรแต่อย่างไร พร้อมยังฝากกำลังให้กับ "ซินดี้ สิรินยา เจนเซน" ที่จะมาทำหน้าที่แทนตนเองด้วยว่าขอให้โชคดีในการทำหน้าที่ดังกล่าวนี้
"อยากขอบคุณกรรมการ ขอบคุณเพื่อนๆ ที่ประกวดแล้วก็ขอโทษทุกคนที่ทำให้เกิดเรื่องแบบนี้ค่ะ..."
และในวันเดียวกันนี้ ทางด้าน "ซินดี้ สิรินดา เจนเซ่น" ก็ได้เปิดใจให้สัมภาษณ์เป็นครั้งแรกพร้อมกับ “กิ๊ฟท์ กนกกาญจน์ อินทิม" รองชนะเลิศอันดับ 2 ที่สถาบัน MTI ถึงเหตุการณ์ดังกล่าวว่า...
"หลังจากที่แถลงข่าววันนั้นซินดี้ก็มีโอกาสได้คุยกับแองจี้บ่อยๆ แต่ไม่ได้คุยเรื่องาน วันนั้นที่ร้องไห้เพราะรู้สึกตกใจ ซินดี้คิดว่าจะได้อยู่กับแองจี้ 1 ปี เราสนิทกันมากก็เลยเสียใจ สำหรับภาพแองจี้ไปถ่ายนั้นซินดี้เห็นแล้ว ซินดี้ไม่ขอพูดถึงไม่รู้จะพูดยังไง ซินดี้มองว่าเป็นเรื่องของแองจี้มากกว่า คงต้องแล้วแต่ทางบีอีซี"
"เท่าที่กิ๊ฟท์เห็นแองจี้เค้าเป็นคนที่ง่ายๆ เป็นเด็กที่นิสัยดีที่สุด กิ๊ฟท์เห็นภาพถ่ายเค้าแล้ว กิ๊ฟว่ามันเป็นงานศิลปะ ตัวเค้าเองก็ไม่เคยปิดบังว่าเป็นนางแบบมาก่อน ไม่ว่าใครจะมองว่าเค้าเซ็กซี่ แต่ในสายตาของพวกเรา แองจี้ยังเป็นเด็กมากๆ"
ส่วนเรื่องที่ทางคณะกรรมการให้รักษาการแทนโดยไม่เลื่อนตำแหน่งให้นั้น บางคนอาจจะมองว่าเป็นการเอาเปรียบแต่สำหรับซินดี้เธอบอกว่า "ไม่เป็นไร"
"ไม่เป็นไร...ตรงนี้ซินดี้ไม่ได้คิดอะไร ก็ต้องขอบคุณทุกคนด้วยที่ช่วยซัพพอร์ทและช่วยเชียร์ซินดี้มาตลอด แต่ตอนนี้ซินดี้ยังพูดอะไรมากไม่ค่อยได้ ทุกอย่างต้องรอทางบีอีซี"
..........
ภาพโป๊ “มิสไทยแลนด์เวิลด์” กระฉ่อนเน็ต!!เจ้าตัวชิงสละตำแหน่ง
สาวอิมพอร์ตกวาดเรียบ พิชิตมงกุฎมิสไทยแลนด์เวิลด์ 20053
                    

