xs
xsm
sm
md
lg

สาวอิมพอร์ตกวาดเรียบ พิชิตมงกุฎมิสไทยแลนด์เวิลด์ 2005

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ในที่สุด ประเทศไทยก็มีสาวลูกครึ่งที่สวยที่สุดผุดขึ้นมาอีกราย เมื่อ น้อง "แองจี้ - อัจฉรา แมคคาย" สาวลูกครึ่งอิมพอร์ตจากออสเตรเลียคว้าตำแหน่งมิสไทยแลนด์เวิลด์ประจำปี 2005 ไปตามความคาดหมาย ในการประกาศผลการประกวดมิสไทยแลนด์เวิลด์ซึ่งจัดขึ้น ณ อาคารบีอีซีเทโรฮอลล์ สวนลุมไนท์บาร์ซา เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา (10 ก.ย.)

แม้ภายนอกจะมีฝนโปรยปรายเป็นระยะแต่ภายในบรรยากาศค่อนข้างคึกคัก โดยปีนี้มีสองหนุ่มหล่อ "ก้อง สหรัถ สังคปรีชา" และ "ปิ๊บ-รวิชญ์ เทิดวงศ์" รับหน้าที่เป็นพิธีกรหลักบนเวที

และผู้ที่มีความโดดเด่นเข้าตาตรงสโลแกน "งามอย่างมีคุณค่า" และตอบคำถามได้ตรงใจกรรมการมากที่สุดจนคว้าตำแหน่งไปครองเป็น "แองจี้-อัจฉรา แมคคาย" ผู้เข้าประกวดหมายเลข 13  ที่รับทั้งรางวัลนางงามมิตรภาพ รางวัลขวัญใจสื่อมวลชน และคว้าตำแหน่งมิสไทยแลนด์เวิดล์คนล่าสุดไปครอง พร้อมด้วยมงกุฎเพชรจาก Princess Diamond มูลค่ากว่าแปดแสนบาท เงินสดหนึ่งล้านบาท รวมทั้งเป็นตัวแทนสาวไทยเดินทางไปประกวดมิสเวิลด์ 2005 วันที่ 10 ธ.ค.ที่เมืองสั่นหยา เกาะไหหลำ ในทะเลจีนใต้ด้วย

สาวแองจี้จบการศึกษาเกรด 12 หรือชั้น ม.6 จากวิทยาลัยแมคกิลล็อป คาเธอลิค อายุ 21 ปี โดยในค่ำคืนนี้เธอได้รับคำถามจากวีเจนิกกี้ว่า หากคุณมีน้องชายเป็นพวกแก๊งสเตอร์ที่สร้างปัญหาให้ครอบครัวคุณจะทำอย่างไร ก่อนที่เธอจะตอบเป็นภาษาอังกฤษว่าคงจะให้เขาไปอยู่ที่อินเดีย ให้ไปทำงานที่นั่นไปเจอคนที่เป็นโรคร้ายเผื่อว่าจะได้ข้อคิดที่ดีกลับมา

ส่วนรางวัลรองชนะเลิศอันดับหนึ่งตกเป็นของ "ซินดี้ - สิรินยา เจนเซน" ผู้เข้าประกวดหมายเลข 6 รับมงกุฎเพชรมูลค่าหนึ่งแสนบาท และเงินรางวัลห้าแสนบาทไปครอง และรางวัลรองชนะเลิศอันดับสอง "กิฟท์ - กนกกาญจน์ อินทิม" ผู้เข้าประกวดหมายเลข 2 ที่รับมงกุฏเพชรมูลค่าแปดหมื่นบาท และเงินรางวัลสามแสนบาทไปครองด้วยเช่นกัน

หลังจากเสร็จสิ้นการประกวด “แองจี้ อัจฉรา” มิสไทยแลนด์ เวิลด์ คนล่าสุดได้ให้สัมภาษณ์เป็นภาษาอังกฤษว่า...

“มีความสุขมากๆที่ได้รางวัล ตอนที่พิธีกรประกาศว่าใครได้ ฉันรู้ได้จากที่เขาบอกว่าเป็นเบอร์เราน่ะค่ะ ซึ่งการที่ฉันได้ 3 รางวัลเลยตรงนี้ก็รู้สึกเซอร์ไพรส์ ถือว่าเป็นรางวัลที่ยิ่งใหญ่ที่สุด เพราะจริงๆแล้วฉันไม่ได้ตั้งใจมาประกวด แต่ที่ฉันได้รางวัลเยอะขนาดนี้คงเป็นเพราะฉันเคยเป็นนางแบบมาก่อนซึ่งการประกวดกับการเป็นนางแบบมันก็มีส่วนคล้ายกันน่ะค่ะ ก็เลยช่วยได้เยอะ”

ก่อนไปประกวด Miss World แองจี้อยากจะแก้ไขปรับปรุงตัวเองในเรื่องอะไรบ้าง

“สิ่งแรกต้องเรียนพูดภาษาไทยให้คล่องๆ เรียนรู้วัฒนธรรมของคนไทย เรียนรู้เกี่ยวกับเหตุการณ์บ้านเมืองจะได้หาทางแก้ไขปัญหาเหล่านั้นได้ ซึ่งสำหรับการไปประกวด Miss World ฉันก็จะพยายามเตรียมตัวให้ดีที่สุดค่ะ”

ทั้งนี้นักข่าวได้ถามถึงแฟนหนุ่มของเธอที่ชื่อ “จ๊อก” ซึ่งอยู่ที่เมืองนอกว่าก่อนขึ้นเวทีประกวดทั้งคู่ได้มีโอกาสคุยโทรศัพท์กันบ้างรึเปล่า แองจี้ตอบด้วยท่าทีเขินๆว่า...

“ยังไม่ได้คุยกันเพราะเขาอยู่ไกลมาก และค่าโทรศัพท์ก็แพงมาก อีกอย่างฉันไม่มีเวลาเลยเพราะต้องทำกิจกรรมเยอะ แต่วันนี้ฉันจะโทรไปหาเขาค่ะ จริงๆเขาก็บอกฉันว่าจะมาเยี่ยมฉันที่นี่ด้วยนะ”

“ฉันชอบเมืองไทยนะ ชอบคนชอบอากาศ อยากอยู่ที่นี่ และก็อยากรู้ว่าจะมีโอกาสอะไรเข้ามาให้ฉันบ้าง” แองจี้ พูดปิดท้าย

ส่วนทางด้านคุณแม่ รัชนา และคุณพ่อ โรเบิร์ต ของเธอก็ตื่นเต้นดีใจไม่แพ้ลูกสาวเช่นเดียวกัน โดยคุณแม่ได้บอกเล่าถึงตัวแองจี้ให้ฟังว่า...

“จริงๆแล้วเขาอยากเรียนต่อปีหน้านะ แต่เสร็จแล้วพอดีเขาได้มาทำงานที่นี่ แม่ก็บอกว่าแองจี้ทำไมเธอไม่ลองประกวดมิสไทยแลนด์ เวิลด์ดูล่ะ เขาก็ตามใจพ่อแม่ก็เลยประกวด แต่เขาก็บอกว่าฉันคงไม่ได้หรอก ฉันไม่สวยพอหรอกอย่างนี้นะ แม่ก็บอกว่าถ้าไม่ได้ก็ไม่เป็นไรจะได้รู้จักคนเยอะๆ”

“เขาชอบท่องเที่ยวเปิดหูเปิดตาน่ะ อยากเรียนรู้หลายๆอย่าง เขาเก่งเขาออกจากบ้านตั้งแต่อายุ 16 ปี คือเขาชอบเป็นนางแบบเลยออกไปทำงานตามเอเจนซี่ต่างๆ ก็ไปทั่วน่ะนะ ทั้งนิวยอร์ค, อิตาลี,ฝรั่งเศส, ปีแรกๆเขามาทำงานสิงคโปร์ก่อน เสร็จแล้วก็มาทำงานที่เมืองไทยเขาได้ถ่ายโฆษณาหลายตัว ทั้งยาสระผมและหมากฝรั่งด้วย แล้วก็ถ่ายแบบเยอะๆเลย”

“ตอนนี้เขาก็กำลังเก็บเงินเรียนหนังสือต่อเพราะว่าเขาอยากเป็น Art Directorน่ะค่ะ”

***

สวยรวยสีสัน เวทีมิสไทยแลนด์เวิลด์ 2005

ช่อง 3 ทำเรียลิตี้นางงามหวังดึงเรตติ้ง "มิสไทยแลนด์ เวิลด์"


กำลังโหลดความคิดเห็น