xs
xsm
sm
md
lg

"อีโบล่า : ENLIGHTEN" ฮาร์ดคอร์สามัญ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


นับจากการเกิดขึ้นของดนตรีในแนวที่เรียกกันว่าอัลเทเนทีฟ ดูเหมือนว่าตังแต่วันนั้นเป็นต้นมาดนตรีในรูปแบบของ "เมทัล" จะเจอะเจออุปสรรคของการดำรงอยู่พอสมควร

ถึงแม้ในความเป็นจริงดนตรีชนิดนี้จะอยู่ได้ ไม่มีวันตาย แต่จะหาวงที่เป็นสายเลือดใหม่ที่ทำกันอย่างเอาจริงเอาจังพอจะฝากผีฝากไข้นั้นได้ยากเต็มทน

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมทัลสายพันธุ์ฮาร์ดคอร์

ด้วยรูปแบบของดนตรีที่หนักหน่วงและเสียงร้องที่ตะโกนกันซะจนแหบพร่าไม่เป็นมนุษย์ เหล่านี้คือกำแพงที่ทำให้แนวดนตรีแบบฮาร์ดคอร์ได้รับความนิยมค่อนข้างจะจำกัดในกลุ่มนักฟังเพลงวงแคบซึ่งบางครั้งก็ให้น่าเสียดายฝีมือทางด้านดนตรีรวมถึงเนื้อหาสาระที่พวกเขาคิดและสื่อออกมาซึ่งน่าจะเกิดประโยชน์มากกว่าถ้ามีคนฟังเป็นวงกว้างมากขึ้น

น้อยเหลือเกินกับวงดนตรีในรูปแบบนี้ที่จะทำงานออกมาแล้วสามารถ "สื่อสาร" ในสิ่งที่คิดให้คนทั่วไปได้รับรู้และเข้าใจได้ ซึ่งในบรรดาวงอย่าง บิกินี, พล่าน, โคลน, Mad pack it เหล่านี้ ดูเหมือนว่าวงดนตรีที่ชื่อว่า "อีโบล่า" จะเป็นหนึ่งในตัวอย่างของการทำงานที่ดูเข้าที่เข้าทางมากที่สุด ราวกับเป็นไกด์ที่ชี้ให้เห็นถึงความสวยงามและความสนุกของดนตรีที่คนส่วนใหญ่มองว่าป่าเถื่อน ไร้ซึ่งรสนิยม และขาดซึ่งความมีศิลปะ โดยที่ไม่ได้ไม่สูญเสียความเป็นตัวตนของตัวเองไปสักเท่าไหร่

ชื่อของ "อีโบล่า" อาจจะเพิ่งคุ้นหูคนส่วนใหญ่เมื่อประมาณปีหรือสองปีที่ผ่านมาช่วงที่เขาย้ายสังกัดจาก "จัสติค มิวสิก" มาอยู่กับค่ายใหญ่อย่าง "วอร์เนอร์ มิวสิก ประเทศไทย" แต่ถ้าถามคนที่ฟังเพลงในแวดวงใต้ดินที่เป็นแฟนพันธุ์แท้ เชื่อว่าหลายคนคงคุ้นหูวงดนตรีวงนี้รวมทั้งรู้จักงานของพวกเขาอย่าง E.P.97 (เดโม), IN MY HATE (1999), SATISFY (2001), EBOLA LIFE (2002) เป็นอย่างดี

"ENLIGHTEN" คืองานชุดใหม่ ชุดที่สองต่อจาก "POLE" (2004) ในสังกัดวอร์เนอร์ฯ สมาชิกยังคงเดิม ประกอบไปด้วย เอ๋ กิตติศักดิ์ บัวพันธ์ (ร้องนำ), กอล์ฟ วรรณิต ปุณฑริกาภา (กีต้าร์), โอ๋ สุรพงษ์ บัวพันธ์ (กีต้าร์), เอ เชาวลิต ประสงค์สันติ (เบส) และ พัน พงพันธ์ โพธินิมิต (กลอง)

เห็นได้ชัดที่สุดสำหรับงานในอัลบั้มนี้ก็คือการต่อยอดมาจากความสำเร็จของเพลงอย่าง "ความเป็นไป" รวมทั้ง "ในความเป็นคน" จากอัลบั้มที่แล้วซึ่งพลิกเนื้อหามาว่ากันในเรื่องของตัวตน การมองชีวิต และการจุดไฟให้กำลังใจกับคนที่ท้อแท้ แทนที่จะเป็นการแหกปากตะโกนด่า ประชดสังคมด้วยคำหยาบๆ เหมือนหลายต่อหลายวงที่มีแนวทางของดนตรีรูปแบบเดียวกันนี้

...ไล่ไปตั้งแต่ "แสงสว่าง" ที่ว่ากันด้วยเรื่องของการใช้ชีวิตซึ่งมันย่อมมีอุปสรรคให้ฟันฝ่าโดยมีแสงสว่างรออยู่, "ยกโทษให้ตัวเอง" สอนว่าไม่ควรยึดติดกับความผิดพลาดที่ผ่านมาแล้ว, "ติดปีก" กับ "เชื่อมั่น" มีเนื้อหาคล้ายๆ กันคือถ้าคนเรามีความกล้าก็เหมือนกับมีปีก จะบินไปไหนก็ได้ เช่นเดียวกับ "ฝันใหม่" และ "กลับสู่จุดเริ่มต้น" ซึ่งพยายามจะบอกว่าหากมีความผิดพลาดในเรื่องใดๆ แล้วก็ให้มองย้อนไปถึงจุดเริ่มต้นแล้วเริ่มลงมือทำมันใหม่ ในขณะที่ "เส้นทแยงมุม" นั้นสื่อว่าในความดีย่อมมีความเลวและในความเลวก็ย่อมมีความดี เพราะฉะนั้นอย่าได้ตัดสินใจด้วยการมองดูเพียงแค่ภายนอก

ในส่วนของดนตรี ชุดนี้ดูจะสละสลวยสวยงามมากขึ้นกว่าอัลบั้มที่แล้วแต่ก็ยังคงไว้ซึ่งความหนักแน่น แถมชุดนี้ยังได้มือกีต้าร์ระดับแถวหน้าของบ้านเรา "โอ้ โอฬาร พรหมใจ" มาช่วยถ่ายทอดความไพเราะพลิ้วไหวในช่วงโซโล่ของเพลง "สิ่งที่ฉันเป็น" แทร็กสุดท้ายของอัลบั้ม

อย่างหนึ่งที่ดูเหมือนว่า "ENLIGHTEN" จะขาดไปก็คือความหลากหลายทางด้านของอารมณ์และจินตนาการของความเป็นอัลบั้ม เนื่องจากเกือบทุกเพลงของงานชุดนี้ล้วนเป็นไปในในทิศทางเดียวกัน โดยเฉพาะเนื้อหาที่คนฟังโดนติดไฟให้ลุกขึ้นมาสู้แล้วลุกขึ้นมาสู้อีกเพื่อทำตามความฝันซะจนหมดแรง

อีกมุมหนึ่งที่ "ENLIGHTEN" ขาดหายไปก็คือ มุมของความโรแมนติก น่าจะเติมเพลงรักแบบเท่ห์ๆ สักเพลงสองเพลง ซึ่งตรงนี้อาจจะมีหรือไม่มีก็ได้ แต่ถ้ามีแล้ว "ENLIGHTEN" ก็น่าจะมีความกลมกล่อมแบบครบทุกรสมากยิ่งขึ้น

ที่สำคัญรับรองได้ว่าสาวกรี๊ดอย่างแน่นอน

อย่างไรก็ตาม นี่คืออัลบั้มอีกอัลบั้มหนึ่งที่แฟนเก่าของอีโบล่าสมควรจะมีไว้บนชั้นวางซีดี ส่วนใครที่อยากจะเป็นแฟนใหม่ของพวกเขาต้องบอกก่อนว่านี่คืองานที่อาจจะทำให้คุณต้องเสียเงินเพิ่มขึ้น...

ด้วยสาเหตุที่ฟังแล้วต้องไปตามเก็บงานในอัลบั้มเก่าๆ ของพวกเขานั่นเอง
..........

กำลังโหลดความคิดเห็น