สถานเอกอัครราชทูตกัมพูชา ประจำประเทศไทยออกจดหมายขอโทษ “เสี่ยเจียง สมศักดิ์ เตชะรัตนประเสิรฐ” บิ๊ก “สหมงคลฯ” กรณีผู้ต้องหากัมพูชา “ด๊อส โซเพียะ” กับพวกแอบบันทึกภาพภาพยนตร์เรื่อง "ต้มยำกุ้ง" ด้านผู้กำกับคนดัง "ปรัชญา ปิ่นแก้ว" ออกโรงปฏิเสธกระแสข่าวหนังมี 2 เวอร์ชั่น ยืนยันที่ได้ดูสมบูรณ์แบบที่สุดแล้วพร้อมแย้มโปรเจ็กต์หนังเรื่องใหม่เกี่ยวกับดาบ พัก 1 เดือนแล้วลุยทันที
หลังจากแจ้งความดำเนินกับ ผู้ต้องหาไปเมื่อวันก่อน กรณีที่มีการลักลอบนำกล้องถ่ายภาพดิจิตอล เพื่อบันทึกภาพหนังฟอร์มยักษ์ “ต้มยำกุ้ง” เย็นวันนี้สถานทูตเอกอัครราชทูตกัมพูชา ประจำประเทศไทยก็ได้นำตัวผู้ต้องหากับพวกเข้าขอขมากับทางผู้บริหารของบริษัทสหมงคลฟิล์มเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ขณะที่ทางฟากของ “เสี่ยเจียง” นายสมศักดิ์ เตชะรัตนประเสริฐ ได้บอกว่ากับเรื่องที่เกิดขึ้นตนเองไม่ติดใจที่จะเอาความกับหนุ่มกัมพูชารายนี้แต่อย่างไร
โดยผู้ต้องชาวกัมพูชา “ด๊อส โซเพียะ” กล่าวถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นว่าเกิดจากความไม่ตั้งใจระหว่างรอขึ้นเครื่องเพื่อไปศึกษาต่อยังสหรัฐอเมริกกาเลยแวะดูหนังฆ่าเวลาพร้อมถ่ายรูปเป็นที่ระลึก ไม่มีเจตนากระการใดนอกเหนือจากนั้น
“รู้สึกเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น มันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นด้วยความไม่ตั้งใจ วันนั้นเป็นวันที่ต้องขึ้นเครื่องไปเรียนต่อที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ช่วงเวลาที่รอก็เลยแวะไปดูหนัง ดูเสร็จเห็นว่าหนังมันมีศิลปะการต่อสู้ของไทยที่สวยงามเลยอยากถ่ายรูปไว้เก็บเป็นเท่านั้นเอง”
“ไม่ได้มีเจตนาที่จะนำไปทำซีดีเถื่อนหรือจะก๊อปไปขายเลย เมื่อเกิดเหตุการณ์แบบนี้ก็รู้สึกเสียใจ และไม่รู้ว่ามีกฏข้อห้าม เลยอยากมาขอโทษแสดงเจตนาที่แท้จริงว่าไม่เคยคิดล่วงละเมิดสิทธิอะไรของใคร เป็นเรื่องที่ร้ายแรงมากรู้สึกเสียใจจริงๆ”
ทั้งนี้ “เสี่ยเจียง - สมศักดิ์ เตชะรัตนประเสิรฐ”บิ๊ก “สหมงคลฯ”หลังจากตรวจสอบหลักฐานจากทางเจ้าหน้าที่ก็ไม่ติดใจเอาความใดๆ
“จริงๆ แล้วตอนที่จับได้ ทางสถานทูตกัมพูชาเขาขอความอนุเคราะห์มา อยากขอโทษในการกระทำของเด็กหนุ่มกัมพูชากับพวก ผมเลยโทรไปตรวจสอบที่สถานีตำรวจ ปรากฏว่าได้รับการยืนยันจากทางตำรวจว่าเขาไม่ได้มีเจตนาที่จะทำอย่างนั้น ไม่ได้เอาไปเพื่อไปทำแผ่นต่อ แต่มาดูเพื่อรอเวลาขึ้นเครื่องแล้วเขามาขอโทษเลยไม่เอาผิดยกโทษให้กันไป”
ยืนยันหากมีเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีกก็ปล่อยให้อยู่ในดุลยพินิจของตำรวจที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงกันต่อไป
“จับได้ต่อไปเราก็คงต้องมอบให้ตำรวจเป็นคนจัดการ ทางเราจับได้ส่งให้ตำรวจตรวจสอบก่อนว่าประวัติเป็นมายังไง ถ้าไม่มีเจตนาที่จะทำความผิดก็ต้องปล่อยไป ไม่เอาเรื่องเพราะบางครั้งก็ต้องยอมรับว่ามันต้องมีพลาดเข้าไปบ้าง คนมันก็เยอะ”
“กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้โกรธอย่างนั้นแต่รู้สึกเสียใจที่ว่าเราตั้งใจทำหนังออกมามีคุณภาพเพื่อที่จะฉายให้คนไทยได้ดู มีโอกาสได้ไปฉายเมืองนอกเลยไม่อยากให้มีเรื่องพวกนี้ออกไปว่ามีหารก๊อปปี้ เราขายเขาไปแล้วแต่มีซีดีผีขายอยู่เกลื่อนภาพลักษณ์ของประเทศหรือบริษัทเองมันก็ไม่ดี ตรงนี้เลยค่อนข้างเข้มงวดไม่อยากให้ทำกัน”
“ตอนนี้เราขายได้เยอะ ที่เมืองไทยก็ได้รับการตอบรับที่ดี 4วันเรากวาดรายได้ไปถึง 100 ล้าน เพราะฉะนั้นคิดว่ามันคงจะสูงขึ้นกว่านี้อีกแน่นอน”
"ปรัชญา" ยัน "ต้มยำกุ้ง" เหมือนกันทั่วโลก
ทำเอาคอหนังเกิดส่วนหนึ่งเกิดความรู้สึกที่ไม่ดีพอสมควรทีเดียวสำหรับหนังไทยเรื่อง "ต้มยำกุ้ง" เมื่อมีข่าวออกมาในทำนองที่ว่า ฉบับที่กำลังเข้าฉายในบ้านเรารวมทั้งที่ประเทศฮ่องกงในช่วงนี้ยังไม่ถือว่าสมบูรณ์แบบที่สุด โดยฉบับเต็มทางสหมงคลฟิล์มฯ ในฐานะของผู้ผลิตจะทำออกมาในอีก 1 เดือนข้างหน้าและจะเป็นฉบับเดียวกับที่ทางบริษัทส่งจะนำไปฉายที่อเมริกาและประเทศอื่นๆ โดยจะมีความยาวและสมบูรณ์มากกว่านี้นั้น
สอบถามเรื่องดังกล่าวไปยังผู้กำกับ "ปรัชญา ปิ่นแก้ว" เจ้าตัวชี้แจงว่าผู้บริหารของทางสหมงคลฟิล์ม "เสี่ยเจียง สมศักดิ์ เตชะรัตนประเสริฐ" มีความคิดที่จะทำเช่นนั้นจริง ทว่าตนเองไม่เห็นด้วย พร้อมกับยืนยันว่า หนังเรื่อง "ต้มยำกุ้ง" ที่กำลังลงโรงในตอนนี้มีความสมบูรณ์แบบที่สุดและทั่วโลกก็จะได้ดูเหมือนๆ กันหมด
“อันนี้ขอชี้แจงด่วนเลย เพราะว่าข่าวเรื่องสร้างเวอร์ชั่น 2 ที่จะมีในเดือนหน้า ไม่เป็นความจริงแน่นอน มันเป็นแค่สิ่งที่ผมเอาไปคุยกับเสี่ยเจียง (สมศักดิ์ เตชะรัตนประเสริฐ) เท่านั้นว่าผมอยากใส่ฉากแอ็กชั่นที่ตัดออกเข้าไปในดีวีดี บังเอิญไปคุยกับเสี่ย เสี่ยเขาก็เลยบอกว่า เอาไปฉายในโรงเลย ลักษณะทำให้เหมือนสุริโยไท กับ เดอะ ลอร์ด ออฟ เดอะ ริงส์ แต่ผมไม่เห็นด้วย และขอยืนยันว่าเวอร์ชั่นที่ดูอยู่ในโรงบ้านเราตอนนี้ดีที่สุดแล้วเท่าที่ทำได้ และมีเวอร์ชั่นเดียว”
เหมือนเวอร์ชั่นที่ฉายเมืองนอกไหม?
“เหมือนกันเลย ไม่ได้เพิ่มอะไร เพียงแต่แตกต่างนิดหน่อยตรงตอนท้าย เพราะที่เอาไปฉายต่างประเทศจะไม่มีเบื้องหลังให้ตอนท้ายเท่านั้นเอง เป็นเครดิตขึ้นให้แล้วก็จบเลย ซึ่งบอกเลยว่าผมตั้งใจเอาฉากบู๊ที่ตัดออกมาใส่ในแผ่นดีวีดี เท่านั้น รับรองว่าในโรงเหมือนกันทั่วโลก คงทำหลายเวอร์ชั่นไม่ได้ เพราะทำอย่างนั้นก็เท่ากับผมปล้นคนดู ”
รายได้สูงขึ้นเรื่อยๆ แต่ผู้กำกับมือทองยังถ่อมตัวไม่กล้าหวังมาก กลัวแผ่วตอนปลาย เชื่อรายได้พุ่งเพราะกระแสจาลงตัวทุกอย่าง คนเลยอยากดู
“จริงๆ รายได้ตอนนี้เท่าที่ผมเช็คเมื่อคืนวันอาทิตย์อยู่ที่ 90 กว่าล้านแล้ว ตัวเลขน่าตกใจพอสมควรสำหรับผม ถือว่าเปิดตัวได้สูงมาก แต่ถ้าถามตัวเลขที่หวัง ผมไม่กล้าคิดหรอก เพราะหวังทีไรก็ไม่ได้อย่างหวังซักที ก็หวังให้คนที่ไปดูพูดปากต่อปากไปด้วย แต่ตอนนี้ดี ไม่รู้จะแผ่วตอนปลายหรือเปล่า คนดูไม่แน่ไม่นอน คงต้องใช้ปากต่อปากบอกต่อด้วย”
“คนให้การตอบรับมากส่วนหนึ่งตามความรู้สึกผมนะ คือผมคิดว่าคนที่เป็นแฟนเก่าจามีเยอะจากองค์บาก เขาอยากมาดูว่าจาจะมีอะไรให้เขาดูอีก ส่วนกระแสข้างนอกไม่ว่าจะเป็นจาเป็นพรีเซ็นเตอร์ลำไยช่วยชาติหรือว่ารายการทีวี หรือว่าบางอย่างผมก็เดาไม่ออกนะว่าคนเขาทำไมถึงอยากดู คิดว่ากระแสทุกอย่างมันลงตัวด้วยมั้ง ”
ฉากแอ็กชั่นเป็นที่ติดอกติดใจคอหนังบู๊ แต่คอหนังหลายคนยังวิจารณ์ถึงเนื้อเรื่องที่ยังขาดๆ เกินๆ งานนี้ผู้กำกับน้อมรับคำวิจารณ์ พร้อมแจงบทตั๊กน้อยเพราะตั้งใจไว้แล้วตั้งแต่แรก
“จริงๆ แฟนหนังต้มยำกุ้งเนี่ยมี 2 กลุ่มนะคือพวกที่ชอบหมัดมวยแอ็กชั่น เขาก็จะบอกมัน ส่วนคนที่ไม่ชอบแอ็กชั่นก็จะบอกว่าหนังทำเนื้อเรื่องยังไม่ดี ผมก็รับฟังนะ ส่วนเรื่องตั๊กในเรื่องเนี่ยโดนกระแสว่ามาตั้งแต่แรกๆ แล้วว่าทำไมมีน้อยจัง จริงๆ กระแสเนี่ยมันมาตั้งแต่เอาตั๊กมาเล่นแล้ว เป็นกระแสของกลุ่มที่แอนตี้ตั๊กนั่นแหละ บางคนก็บอกเอาคนอื่นเล่นก็ได้ ก็ต่างความคิดกันไป อันนี้เป็นความตั้งใจของผมตั้งแต่ต้นว่าโครงเรื่องไม่อยากเน้นเรื่องชู้สาวมาก ก็เลยมีเท่าที่เห็น ผมไม่ได้เน้นตั้งแต่แรก ยอมรับครับว่าเนื้อเรื่องยังไม่ดีมาก”
พระเอกยอดนักบู๊อย่างจา-พนม กำลังไปโชว์ตัวอยู่ที่ไต้หวัน ส่วนโปรเจ็กต์หน้าเจ้าตัวบอกรอพักเดือนเดียวแล้วลุยทันที แย้มๆ เป็นเรื่องเกี่ยวกับดาบแต่ยังไม่ได้ตั้งชื่อเรื่องอะไรทั้งนั้น
“ตอนนี้จาไปโชว์ต่างประเทศ เพราะหนังที่ไต้หวันกำลังเข้าฉาย ผมก็โดดไม่ไปได้บ้าง แต่จาช่วงนี้เหนื่อยหน่อยโชว์ตัวตลอด ส่วนโปรเจ็กต์เรื่องหน้าก็คงเกี่ยวกับดาบ ยังไม่ได้ตั้งชื่อเรื่องเลย แต่คงต้องเป็นหลังจากที่ให้จาพักซักแป๊บนึงก่อน แล้วค่อยลุยเรื่องใหม่กันต่อ”
