ผลพวงจากที่บอสใหญ่ช่อง 3 “ประวิทย์ มาลีนนท์” สั่งรื้อผังรายการใหม่ทั้งหมดในเดือนตุลาคม ส่งผลกระเทือนผู้จัดฯ ถ้วนหน้า รวมถึง 2 รายการของผู้จัดฯ คนเก่ง “กวาง กมลชนก เขมะโยธิน” ก็พลอยเด้งไปด้วยทั้ง “น่ารักน่ารู้...สเปเชียล” และ “เรียงร้อยถ้อยไทย”
กับเรื่องนี้เจ้าตัวเปิดใจว่า...
“ตอนนี้ช่อง3 จัดผังใหม่หมด ที่ผ่านมาไม่เคยปรับใหญ่ขนาดนี้ ทุกรายการเดือนตุลาฯ หยุดหมดเลย และพิจารณารายการใหม่หมด เราก็เข้าใจในแง่ของธุรกิจ ก็โดนกันไปหมด แต่บางรายการอาจจะอยู่ เพียงแต่ว่าจะอยู่เวลาไหน"
"อันนี้เราก็ต้องมาพิจารณาว่าถ้าเปลี่ยน แล้วเป็นเวลาที่ขายยากเราจะยังทำต่อมั้ยหรือจะทำรายการใหม่ไปเลยดี ถึงวันนั้นค่อยคิดอีกที คือมันเป็นจังหวะที่จะคลอดพอดีด้วย แล้วถ้าจะเป็นอย่างนั้นก็เลยคิดจะหยุดเลยดีกว่า”
มีผลกระทบกับบริษัทยังไงบ้าง?
“ถ้าหมายถึงพนักงานไม่มีปัญหาเพราะบริษัทเราไม่ได้ทำรายการโทรทัศน์อย่างเดียว งานอีเว้นท์ งานโฆษณาเราก็ทำด้วย ทำอยู่เรื่อยๆ เป็นช่วงสถานการณ์ที่เราไม่เคยเจอเหมือนกัน แต่เราไปดูอีกหลายบริษัทเค้าก็เป็นเหมือนเราหมดเลย อย่างรายการเด็กๆ ของพี่จิ๋ม มยุรฉัตร ของกบ ปภัสราก็ด้วย หลายบริษัทน่ะ”
ความเป็นไปได้ที่จะกลับมาสานต่อรายการเด็ก?
“กำลังคิดอยู่หรือไม่อาจจะเปลี่ยน เพราะรายการเด็กทำยากขายโฆษณาก็ยาก ไม่มีกำไรทำด้วยใจรักจริงๆ ต่อไปเราอาจจะทำรายการที่ใจรักด้วยและทำรายการตามกระแสด้วย คือเราเปิดบริษัทเลือกที่จะมาทางนี้แล้วก็ต้องเดินหน้าต่อไป แต่มันก็ต้องดูสถานการณ์ต่างๆ ด้วยว่าเราเหมาะหรือพร้อมในตรงไหน”
“ยังไงก็ยังอยู่ช่อง 3 ก่อน เพราะเริ่มจากช่อง 3 เราต้องให้เกียรติช่องก่อน ยังไงต้องว่าอีกทีนึงถ้าเกิดไม่ได้รับพิจารณา ถึงจะคิดว่าสเต็ปต่อไปจะทำยังไง”
ย้อนกลับมาเรื่องลูก ....เห็นท้องแก่เต็มทีใกล้จะคลอดแล้วซิเนี่ย?
“อีก 2 อาทิตย์ก็ครบกำหนดคลอดที่รพ.พญาไท1 อยากให้คลอดเร็วๆ แบกเหนื่อย แล้วอยากเห็นหน้าลูก เป็นผู้หญิงค่ะ ชื่อเตรียมไว้เจ็ดวัน(หัวเราะ) เผื่อไว้เพราะไม่รู้ว่าจะคลอดวันไหนก็เลยยังไม่สรุป"
"คลอดคนนี้ก็หยุดเลย จะบอกว่ายิ่งใกล้วันคลอดรู้สึกตื่นเต้นมากกว่าเดิม มันเหมือนกับว่าเราได้มาคนนึงแล้ว หน้าตาแบบนี้เราอยากรู้ว่าอีกคนจะหน้าตาเหมือนกันมั้ย ผู้หญิงด้วยเลยตื่นเต้น ก็เห่อกับพี่น็อตสองคน ว่าจะไม่เห่อแล้วยังกลับมาเห่ออีก(หัวเราะ) มันเห่อคนละแบบ เหมือนกับว่าขณะที่เราท้องคนนี้เราต้องดูแลอีกคนด้วย มันเหนื่อยกว่าเยอะ ความรู้สึกมันแตกต่าง คนแรกน้องเน็ตเต็มๆ เลย คุณแม่มีเวลาฟังเพลงคลาสสิค แต่ครั้งนี้ต้องใช้เวลากับลูกคนโตด้วย การดูแลหลายๆ อย่างเลยเปลี่ยนไป”
อยากเพลางานเพื่อให้เวลากับลูกเต็มที่ แต่ถึงจะกลับมารับงานก็ขอเป็นงานที่เกี่ยวกับเบื้องหลังจะดีกว่า
“งานคงทำเหมือนเดิม แต่คุยกับพี่น็อตไว้ว่าช่วงแรกอยากให้หยุดงานมาดูแลลูกให้เต็มที่ พี่น็อตทำงานหนักมากขึ้น คงจะทุ่มเทกับลูก ให้นมลูกให้นานที่สุด ดูแลน้องเน็ตจนกว่าจะเข้าโรงเรียนก็ต้นปีหน้า คงจะทำงานเบื้องหลังมากกว่าเบื้องหน้า แต่ถ้าจัดละครยังไม่ได้อยู่ในความคิดเลยค่ะ เพราะว่ายังไม่ได้ชอบ”
“แต่ถ้าเป็นงานเบื้องหน้าที่ใช้เวลาไม่มากเช่นพิธีกร สามารถจัดสรรเวลาได้ก็อยากทำ ยังไงก็หนีวงการบันเทิงไม่พ้น เพราะพยามจะหนีหลายครั้งก็ไปไม่พ้น เดี๋ยวเค้าชวนก็ใจอ่อนทำอีก และเริ่มมีความรู้สึกว่าจริงๆแล้วเรารักงานด้านวงการฯ มาก แต่งานแสดงต้องคิดหนักนิดนึงว่าจะมีเวลาพอมั้ย เกรงใจผู้จัดด้วยถ้าเกิดไปมีข้อแม้กับเค้าเยอะ”
“กวางมองกว้างๆ ว่าอยู่วงการนี้มาสิบกว่าปี จริงๆ แล้วตัวเองก็รู้สึกอิ่มตัวกับการแสดง คือเล่นมาเกือบทุกบทแล้ว วันนึงเมื่อเรามีครอบครัวก็ควรจะต้องมีเวลาให้ลูก ชีวิตจะสมบูรณ์แบบเมื่องานกับครอบครัวก้าวไปพร้อมๆ กัน และประสบความสำเร็จทั้งสองอย่าง ก็เลยคิดว่าเราคงไม่ทุ่มเทกับงานจนเสียเรื่องครอบครัวค่ะ”