กำลังเป็นที่รู้จักมากขึ้นเรื่อยๆ สำหรับสาววัย 19 ที่ชื่อ "มาร์ดี้ พิชานุช อัสดรธีรยุทธ์" เจ้าของงานเพลงในอัลบั้ม "อิน มาย เบดรูม" (In My Bedroom) สังกัดจีราฟเรคคอร์ด โดยมีเพลงติดหูไปบ้างแล้วอย่าง "คิดถึง อยากเจอเธอ" "ขอ" "ลืมไปแล้ว" รวมทั้ง เพลงสนุกๆ อย่าง "โลกส่วนตัว"
ภายนอกเธออาจจะเหมือนกับนักร้องวัยรุ่นทั่วๆ ไป ทว่ากับการเข้าไปมีส่วนร่วมในงานเพลงทั้งการทำทำนอง การแต่งเพลง รวมทั้งเล่นกีต้าร์ด้วยตัวเองด้วยแล้ว ต้องถือว่าสาวคนนี้มีดีอยู่เหมือนกัน
"ตื่นเต้นไหม ตื่นเต้นค่ะแล้วก็ดีใจด้วยที่ทำความฝันสำเร็จแล้ว..." เจ้าตัวบอกเล่าถึงความรู้สึกกับการขึ้นไปยืนบนเวทีในสถานะของการเป้นนักร้อง
เห็นบอกว่าเล่นดนตรีมาตั้งแต่อายุ 7 ขวบ?
"ตอนนั้นคุณแม่พาไปดู แล้วก็ไปเห็นพี่คนหนึ่ง เล่นเปียโน ก็ชอบค่ะ ก็เลยบอกแม่ว่าอยากเล่นดูบ้าง คุณแม่อยากให้มาดี้ลองอะไรหลายๆ อย่างอยู่แล้วค่ะ ตั้งแต่เด็กๆ ส่งไปเรียนนู้นเรียนนี่ บางทีมาร์ดี้ก็ไม่ได้ชอบอย่างพวกเต้นบัลเลย์อย่างนี้ แต่ว่าพอมาเห็นเปียโนแล้วก็ชอบค่ะ เสียงมันเพราะดี แล้วก็เลยเรียนเปียโน แต่เรียนไป 4 ปี ก็เลิกค่ะ มันเหมือนว่ามันยากก็เบนความสนใจไปกีตาร์มากกว่า"
"แล้วก็ไปเห็นพี่อัยย์(พรรณี)เล่นกีต้าร์ เห็นเป็นผู้หญิงที่เท่ห์ เล่นกีต้าร์ เราก็เล่นบ้าง ตั้งแต่ตอนนั้นอายุ 15 ก็เล่นกีต้าร์จริงจัง เล่นมาถึงตอนนี้ แล้วกีต้าร์เป็นเครื่องดนตรีที่ชอบมากที่สุดตอนนี้ มันใช้ทั้งแต่งเพลงได้แล้วก็สะดวกค่ะ ไปไหนก็ได้"
ชุดนี้ได้ "นก ชีพชนก ศรียามาตย์" มาช่วย เราได้อะไรมาจากมือกีต้าร์ที่ได้ชื่อว่าเก่งในระดับต้นๆ ของบ้านเราคนนี้บ้าง
"พี่นกจะสอนเล่นกีต้าร์ให้ มีเทคนิคตีคอร์ตได้หลายแบบในการเกา พี่นกเขาจะเก่งมาก เขาเล่น กีต้าร์ได้เกือบทุกชนิดค่ะ ทั้งอคูสติก กีต้าร์ 12 สาย...เกร็งไหม ตอนแรกๆ ก็เกร็งค่ะ ถ้าเราทำได้ไม่ดีจะทำให้พี่เขาเสียเวลาหรือเปล่า แต่พอมาเจอตัวพี่นกจริงๆ พี่นกเป็นกันเองมากๆ ใจดีมากๆ ไม่เคยคิดเลยว่าจะใจดีขนาดนี้"
โดยรวมชุดนี้เป็นงานเพลงแบบไหน?
"เรียกรวมๆ ว่าอคูสติกป็อปค่ะ แต่ว่ามันจะมีทั้งป็อปร็อก ป็อปคันทรี มี อาร์แอนด์บี กับฟาราแจมแจม ที่มีอาร์แอนด์บีกับฟาราฯ เพราะว่าอยากจะลองๆ มีอะไรแปลกเข้ามาในอัมบั้มค่ะ แล้วก็มาร์ดี้ก็อยากจะศึกษาแนวเพลงไปเรื่อยๆ เพราะแนวเพลงมันมีเยอะ มันอาจจะมีแนวเพลงอื่นๆ ที่มาดี้สนใจมากกว่านี้"
มีส่วนร่วมอะไรกับอัมบั้มชุดนี้บ้าง?
"ก็เป็นเนื้อร้องแล้วก็ทำนอง
ได้ข่าวว่าเล่นดนตรีไทยเป็นด้วย?
"คือสมัยตอนอยู่สาธิตประทุมวันเขาจะมีให้เลือกเสรี ตอนแรกมาร์ดี้จะเรียนขับร้องไทยค่ะ แต่ว่าไม่เข้าใจว่าขับร้องไทยคืออะไร พอไปเรียนมันจะเหมือนอะไรที่แปลกๆ ต้องใช้เสียงเยอะมากๆ ได้ยินมาจากอาจารย์ที่สอนร้องเพลงสากล ถ้าเรียนร้องเพลงไทยจะทำให้เสียงเราค่อนข้างเสียนิดนึง..."
ทำไม?
"เพราะมันใช้แก้วเสียงเยอะค่ะ ก็เลยมาเรียนเครื่องดนตรีแทน มาเรียนระนาดค่ะ"
กว่าจะมาเป็นนักร้องยากมั้ย ต้องผ่านเวทีประกวดเยอะหรือเปล่า?
"เรื่องประสบการณ์ด้านดนตรี ประกวดใหญ่ๆ ยังไม่เคย เคยแต่ประกวดกิจกรรมตอน ป1 - 6 ก็มี ประกวดร้องเพลงวันแม่ ก็ขึ้นไปร้อง ค่าน้ำนม วันแม่ก็จองที่ 1 ทุกปี ก็ทำให้มั่นใจขึ้นค่ะเพราะว่าได้ที่ 1 แต่ว่าแต่ละปีก็มีคนประกวดน้อยไงคะ 5 คนเอง (หัวเราะ) พออายุ 17 ก็ส่งเดโมเข้ามา ไม่ได้คิดอะไรมาก ไม่ได้คาดหวังอะไรมาก คือถ้าได้ก็ดีค่ะ อยากเป็นนักร้อง"
"เดโมที่ส่งไปเป็นเพลงสากลค่ะ อัดเอง เล่นในห้องน้ำแล้วก็ส่งเป็นเทป รอประมาณ 4 เดือน พี่เขาก็เรียกมาเทสต์เสียง แต่ว่าตอนที่เข้ามาเทสต์เสียงเขาก็ไมได้ให้สัญญาว่าจะให้เป็น ก็ตื่นเต้นมากเลย วันนั้ก็ถือกีต้าร์เข้ามาด้วยเล่นหลายๆ แบบค่ะ ทั้งเพลงไทย เพลงสากล แล้วก็เพลงที่แต่งเองด้วย เหมือนแบบโชว์ความสามารถเต็มที่จะได้ให้พี่เขาเห็นว่าเราก็ทำได้ค่ะ"
มองว่าตัวเองแตกต่างจากศิลปินคนอื่นยังไงบ้าง?
"แตกต่างในเรื่องของการร้องค่ะ มาร์ดี้ร้องใช้เทคนิคของคนผิวดำ ชอบที่จะมีเอื้อนๆ เยอะๆ มีอิมโพรไวท์เยอะๆ แล้วก็ชุดนี้รับรองว่าเสียงกีต้าร์ที่พี่นกเล่นไม่เหมือนใครแน่นอน ฟังแล้วคลาสสิก"
แต่งเพลงทั้งหมดกี่เพลง?
"ทำเนื้อร้อง 7 ทำนอง 8 ไม่เครียดค่ะ แต่ว่ามันก็จะมีเพลงที่เราเสนอไปแล้วก็ไม่ได้บ้างค่ะ ใช้เวลากับชุดนี้ รวมปีนี้ก็ 3 ปีแล้ว ใช้เวลา 3 ปีที่จะได้ออกอัมบั้ม แต่ว่าใช้เวลา 1 ปีเต็มๆ ในการอัดเสียงค่ะ"
แบ่งเวลายังไงเพราะต้องเรียนด้วย(ม.มหิดล)?
"ก็เวลาเข้าห้องอัดจะใช้เวลาเข้าห้องอัดตอนเย็นๆ จนถึงดึก แล้วก็วันเสาร์อาทิตย์ ก็จะเตรียมตัวให้พร้อมก่อน เพราะเวลาเข้าห้องอัดจะได้ทำได้เลย"
คาดหวังมากขนาดไหน?
"กลางๆ ค่ะ สบายๆ ถ้าประสบความสำเร็จก็ดี ถ้าไม่ประสบความสำเร็จก็ไม่เป็นไร ก่อนอื่นเลย ยังไงเราก็ดีใจแล้วที่เราทำความฝันของเราสำเร็จแล้ว"
เน้นขายที่กลุ่มวัยรุ่น?
"อันนี้ก็แล้วแต่ แล้วแต่คนจริงๆ มาร์ดี้คิดว่าถ้าคนที่ชอบดนตรีจริงๆ เขาฟังได้ทุกแนวอยู่แล้ว เพื่อนพ่อมาร์ดี้อายุ 60 แล้วยังชอบบิ๊กแอส ชอบซิลลี่ฟูลอยู่เลย ก็มันแล้วแต่คน ถ้าพูดถึงงานเพลงมาร์ดี้ก็ฟังได้ทุกวัยจริงๆ มาร์ดี้จะมีในหลายแง่มุม ในแง่มุมเพลงบางเพลงก็ให้ผู้ใหญ่ฟังได้ บางเพลงก็เด็กๆ เนื้อหาเพลงในอัมบั้มก็จะเกี่ยวกับประสบการณ์ชีวิต ก็จะมีเรื่องครอบครัว เรื่องราวความรักวัยรุ่น แต่ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องราวความรักค่ะ เพราะไม่ว่าเราเกิดมาอายุเท่าไหร่ ก็ตาม มันเข้าถึงตลอดเวลา อาจจะให้เข้าถึงกลุ่มคนที่แต่งงานมีลูกแล้ว ก็จะแต่งเพลงที่สื่อความหมายกับความอบอุ่น"
กังวลไหมกับการแข่งขัน เพราะค่ายจีราฟเป็นค่ายที่ดูเหมือนจะไม่ค่อยโปรโมตตัวศิลปินเท่าไหร่?
"ก็ไม่กังวลเท่าไหร่ คือว่ามันขายผลงานค่ะ เออถ้าคนฟังเขาชอบเพลงเราจริงๆ ถ้าเขาได้ฟังเพลงเราแล้วเขาชอบ เขาก็ฟังเพลงเรา ไม่จำเป็นต้องเห็นเราตามสื่อมากมาย แล้วก็ถ้ามีการแข่งขันกันสูงๆ ก็ดีค่ะ เพราะเหมือนว่าวงการเพลงมันจะได้พัฒนามากขึ้นแล้ว แล้วถ้ามีการแข่งขันสูงตัวเราก็จะได้มีความพยายามมากขึ้น"
ชอบศิลปินไทยคนไหน?
"เริ่มแรกเลยเป็นศิลปินที่ทำให้มาร์ดี้อยากร้องอยากออกเทปคือพี่ทาทาค่ะ ตามมาก็พี่โบว(สุนิตา) พี่นิโคล แล้วกล่าสุดพี่ปาล์มมี่ค่ะ"
ถ้ามีน้องๆ อยากจะเป็นนักร้องจะบอกเคล็ดเขาอย่างไร?
"ก่อนอื่นอยากจะให้เชื่อมั่นตัวเองก่อนค่ะว่าเราทำได้ มั่นใจในตัวเองว่าเราทำได้แล้วก็รักและทุ่มเทและก็หมั่นฝึกฝนพัฒนาฝีมือไปเรื่อยๆ ค่ะ หรือจะส่งเดโมมาอย่างมาร์ดี้ก็ได้ค่ะ รับรองว่าถ้ามีความสามารถจริงๆ สักวันหนึ่งความฝันเราสำเร็จ"