เพราะคิดมาก มูลเหตุ "จั๊กจั่น" รัก-เลิก "โบ"

หนีกันไม่พ้นจริงๆ สำหรับคู่ของ “จั๊กจั่น อคัมย์สิริ สุวรรณศุข” กับ “โบ โอโซน" (โบ - ธนากร ชินกูล) ที่รักๆ เลิกๆ กันอยู่บ่อยครั้ง เหมือนอย่างเช่นล่าสุดที่มีข่าวว่าเลิกกันไปแล้ว แต่ก็ยังมีคนเห็นทั้งคู่ยังควงกันอยู่

เอ่ยถามฝ่ายหญิง เจ้าตัวบอกว่าที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะความคิดมากของตนนั่นเอง

“ความรักก็โอเคค่ะ ก็โทรคุยกันทุกวันส่งเมจเสจหากัน แต่ไม่ใช่คนที่นั่งคุยโทรศัพท์เป็นชั่วโมงๆ นะ คุยแบบเดี๋ยวเดียว เธออยู่ไหนแล้ว เลิกงานรึยัง เธอขับรถไหวมั้ย จะหลับรึเปล่าอะไรแบบนี้นะค่ะ”

“คือเราคบกันมาตั้งแต่เรียนปี 1 แล้วเลิกกันมาก็หลายครั้ง มันอยู่ในฟีลที่แบบว่าเข้าใจกันแล้วน่ะ มันคงที่แล้ว เราจะเป็นเหมือนเพื่อนกันมากกว่า แต่เป็นเพื่อนใจนะ เราคุยกันก็เหมือนเพื่อน บางทีเราก็เรียกแกๆ ฉันๆ ด้วยความเป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกันมาด้วย จั่นก็จะเป็นตัวของตัวเองเขาก็เป็นตัวของตัวเอง เราเป็นยังไงก็เป็นยังงั้น”

“จริงๆ ที่เรากลับมาคบกันครั้งนี้ เราก็ไม่อยากจะเปิดตัวเท่าไหร่ เพราะเรากลัวเดี๋ยวมันไม่ใช่อีก ใช่มั้ย แต่ก็คุยกับแม่ว่าโอเคตอนนี้ถือว่าเรามั่นใจเขาในระดับหนึ่งแล้ว จั่นก็ไม่อยากจะปิดเพราะมันไม่ใช่เรื่องเสียหายเพราะเราไม่ได้ทำอะไรเสียหาย ดีกว่าเห็นไปเดินควงกันแล้วปากบอกว่าไม่ใช่น่ะค่ะ”

นักแสดงสาวบอกถึงเหตุผลที่กลับมาคบกับหนุ่มโบอีกครั้งว่าเป็นเพราะไม่มีใครเข้าใจเธอเท่าผู้ชายคนนี้อีกแล้ว แถมยังเป็นผู้ชายที่ทำให้ชีวิตเธอดีขึ้นอีกด้วย
“โอเคเราก็ไม่ได้ปิดตัวเองช่วงที่ห่างๆ กันๆ ไป ก็มีคนเข้ามาเราก็ลองไปลองคบลองดู แต่ว่ามันก็ไม่ใช่ บางทีเขาไม่เข้าใจงานเรา อย่างในฝันเฟื่องต้องมีฉากที่ต้องกอดกับพี่ริ(ภูริ) เขาก็บอกทำไมต้องกอดด้วยอ่ะ ไม่กอดไม่ได้เหรอ ซึ่งมันเป็นการแสดงไง แล้วบางทีจั่นบอกต้องไปงานนะ เขาก็จะบอกว่าเมื่อวานก็เพิ่งไป วันนี้ต้องไปอีกแล้วเหรอ ไม่เห็นจะต้องไปเลย จั่นก็ไม่ได้มีโลกส่วนตัวสูงนะแต่จั่นอยากให้เข้าใจในงานที่เราทำ”

“ซึ่งตรงนี้โบเขาเข้าใจ เขาอยู่ในวงการนี้ด้วยก็เลยรู้ว่ามันคืออะไร อย่างมีข่าวว่าจั่นจะถ่ายชุดว่ายน้ำใช่มั้ย จั่นก็ถามว่าถ้าถ่ายจริงๆ เขาจะว่ามั้ย เขาก็บอกว่าไม่ว่า ถ้าจั่นตัดสินใจแล้วก็ทำไปเลยก็ได้ แต่คือจั่นเป็นคนคิดมาก เขาก็จะเตือน โบบอกไว้อย่างหนึ่งว่าถ้าตัดสินใจไปแล้วเนี่ยต้องรับฟีดแบ็กที่จะตามมาให้ได้ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเสียงวิจารณ์ในแง่ลบหรือแง่บวก ซึ่งแง่ลบต้องมากกว่าอยู่แล้วถ้ายูเลือกที่จะทำแล้วต้องทำใจให้ได้”

“เราก็รู้สึกว่าเขาอายุเท่าเราแต่มุมมองความเป็นผู้ใหญ่มีมากกว่าเรามากน่ะ จริงๆเขาไม่ค่อยหวานมาก ไม่โรแมนติค ไม่จี๋จ๋าอะไรมากแต่ว่าเขาโตกว่าเราน่ะ มีอะไรก็พูดเตือนเราตลอด บางทีเราคิดมากเรื่องที่ไม่น่าคิดเราก็เอามาคิด เขาก็จะบอกว่าเอามาคิดทำไม คือเขาทำให้ชีวิตเราโอเคมากขึ้นน่ะค่ะ”

ก็เพราะความ(ไม่)เข้าใจอีกนั่นแหละที่เป็นต้นเหตุให้เธอและเขาเคยต้องเลิกรากันไป
“ที่เราเคยเลิกกันไปเพราะไม่เข้าใจกันค่ะ เวลาไม่ตรงกัน เขาแคมปัสทัวร์ทุกวันเราก็เรียน พอเขาหยุดแคมปัสทัวร์รู้สึกว่าว่าง วันนี้มาหาหน่อยได้มั้ย แต่เขากลับมาไม่ได้ เราก็ทำไมถึงมาหาไม่ได้ก็โกรธ ไม่เข้าใจ พอมาลองทำงานตรงนี้เราก็เข้าใจว่า เออ มันเหนื่อยนะ วันเดียวก็อยากหยุดนอนพักเพื่อจะทำงาน 6 วันต่อไป”

“แต่จริงๆ มันก็มาจากหลายๆ เรื่องด้วย ความที่เรายังเด็กอยู่ด้วย เขาถามว่าโกรธอะไรรึเปล่าเราก็เปล่าไม่ได้เป็นอะไรคือเหมือนนิสัยผู้หญิงน่ะ จะเงียบ แล้วพอเขาไม่ไหวจริงๆ พอวันหนึ่งมันระเบิดออกมา คือตั้งแต่นั้นก็ตกลงกันว่าถ้ามีอะไรก็ต้องคุยกันนะ”

“ถามว่ากลัวปัญหาเดิมๆ มาทำให้เราเลิกกันอีกมั้ย ก็แอบกลัวเหมือนกันนะเพราะว่าเรายังเป็นคนเดิมอยู่ เป็นคนที่คิดมากอยู่ แต่ก็พยายามไม่คิดมาก ก็เนี่ยค่ะคบไปเรื่อยๆ”

ตอนนี้มองโบแค่คนเดียวแล้วรึยัง?
“จริงๆ จั่นก็ไม่ได้ปิดตัวเองนะ แต่โบรู้อยู่แล้วว่าไอ้ความที่ไม่ปิดตัวเองเนี่ยแต่จั่นก็ไม่เคยมีใครเลย เขาคงรู้แหละว่าจั่นไม่เคยมีใครอยู่แล้ว เราคงมีเขาคนเดียวนั่นแหละเพราะว่าตั้งแต่ปี 1 จบมาปีหนึ่งแล้ว นี่ย่างเข้า 6 ปีแล้วนะ ถ้ามีก็คงมีใหม่ไปแล้ว”