โดย นพวรรณ สิริเวชกุล
ถึงม้วยดินสิ้นฟ้า มหาสมุทร
ไม่สิ้นสุดความรักสมัครสมาน
แม้เกิดในใต้หล้า สุธาธาร
ขอพบพานพิศวาส ไม่คลาดคลาฯ (จากเรื่องพระอภัยมณี)
คลิกที่ไอคอน Multimedia ด้านบน
เพื่อรับชมและฟังในแบบ Photo Slide Show
คงยังไม่สายเกินไปนะคะ ที่ดิฉันจะระลึกถึงสุนทรภู่กวีเอกของไทย ที่กลายเป็นกวีเอกของโลกไปแล้ว ด้วยการยกย่องให้เป็นบุคคลสำคัญของโลก ผู้มีผลงานดีเด่นทางด้านวัฒนธรรมโดยองค์การศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติหรือ ยูเนสโก ไปเมื่อปีพ.ศ.2529 ปีที่สุนทรภู่มีอายุครบ 200 ปีพอดีเลยค่ะ
บทกลอนที่ดิฉันยกขึ้นมาข้างต้น นั้นหลายคนคงจำกันได้ว่าอยู่ในเรื่องพระอภัยมณี บทเห่ที่โด่งดังฝีมือการประพันธ์ของสุนทรภู่ ท่านนี้นี่เองนะคะ
สุนทรภู่หรือพระสุนทรโวหาร บุตรของขุนศรีสังหารและแม่ช้อย เกิดในช่วงรัชสมัยของรัชกาลที่ 1 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ บิดาและมารดามีเหตุให้ต้องหย่าร้างกัน สุนทรภู่อยู่กับแม่ซึ่งเป็นนางนมในพระธิดาของกรมพระราชวังหลัง ซึ่งต่อมามารดาของสุนทรภู่ก็ได้แต่งงานและมีลูกกับสามีใหม่อีกสองคน
ตัวสุนทรภู่เองก็ถวายตัวเป็นข้าในกรมพระราชวังหลังมาตั้งแต่ยังเด็ก และด้วยความเป็นคนเจ้าบทเจ้ากลอนนี่เองที่ทำให้ มีความสันทัดทั้งสักวาและเพลงยาว ได้แต่งงานอยู่กินกับแม่จัน ภรรยาคนแรกได้ไม่นาน ก็ต้องร้างรากันไปด้วยนิสัยมากรักของสุนทรภู่นี่เองนะคะ
ถือได้ว่า สุนทรภู่ นั้นเป็นกวีคนแรกที่ตั้งแบบกลอนสุภาพขึ้น จนกระทั่งแพร่หลายอยุ่จนทุกวันนี้ ท่านเป็นผู้ริเริ่มเล่นสัมผัสใน ทำให้กลอนมีความไพเราะมากขึ้น และถือเป็นแบบอย่างต่อมาจนกระทั่งปัจจุบันค่ะ
กวีนิพนธ์ของสุนทรภู่นั้น นอกจากจะมีความไพเราะแล้ว ยังสะท้อนให้เห็นถึงวิถีชีวิต ขนบธรรมเนียม ประเพณีในสมัยก่อนได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะการสอดแทรกคำคม ข้อคิดและคติสอนใจ ที่ยังคงร่วมสมัยอยู่เสมอนะคะ
ดิฉันเองได้มีโอกาสสนทนากับคุณเนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์กวีเอกแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ศิลปินแห่งชาติ ด้วยข้อสงสัยของตัวเองที่ว่า ทุกวันนี้สุนทรภู่ในสายตาของใครหลายคน กลายเป็นกวีในแบบเรียนไปแล้ว คุณเนาวรัตน์ตอบกลับมาค่ะว่า....
...นี่เป็นความล้มเหลวของระบบการศึกษาไทยนะ ที่มอสโก พุชกิ้น กวีเอกของโลกที่ร่วมสมัยกับสุนทรภู่นี่ เชื่อไหมว่า ทุกวันนี้ก็ยังมีคนเอาดอกไม้ เอากุหลาบแดงไปวางบนฐานของพุชกิ้นกลางกรุงมอสโก ทุกวันเลย เพราะว่าเป็นกวีที่อยู่ในหัวใจของชาวรัสเซีย ไม่ใช่อยู่ในแบบเรียนแบบเรียนก็แน่นอน มีอยู่ส่วนหนึ่ง แต่ว่า บทกวีก็อยู่ในหัวใจเขา
แต่กระนั้นคุณเนาวรัตน์ ก็ไม่ได้สิ้นหวังว่า คนไทยรุ่นใหม่จะละเลยกวีเอกคนสำคัญของโลกคนนี้ไปเลยทีเดียวค่ะ ...
ผมว่า กวีของท่านสุนทรภู่ก็ยังอยู่ในหัวใจของคนไทยหลายคน เพียงแต่ว่า มันไม่แพร่หลายออกมาสู่คนในสังคมมาก เพราะระบบการศึกษาที่ไปปิดกั้น เพราะมันเป็นอย่างนั้นจริงๆ การศึกษาที่ทำให้คนคิดว่า ต้องตะเกียกตะกายเพื่อเอาใบรับรองความรู้ แต่ไม่ได้สนใจในความรู้ ถ้าคนอ่านของสุนทรภู่ อ่านของขุนช้างขุนแผน ก็จะอิ่มไปทั้งชีวิตเลย ไม่จำเป็นต้องได้ปริญญามาด้วยซ้ำไป
คุณเนาวรัตน์ ได้อ่านบทกวีที่เขียนรำลึกถึงสุนทรภู่ไว้ในรายการ ต่างสมัยรอยไทย ดิฉันเลยขอหยิบยกมาให้ได้ฟังกันตรงนี้ด้วยค่ะ
จึงสุนทร อ่อนหวาน ชาญฉลาด
เราเหมือนญาติกันดอกน้อง จะหมองศรี
เมื่อแรกเริ่ม เดิมได้ เป็นไมตรี เจ้ากับพี่เราก็รักกันหนักครัน
มาขัดข้องหมองหมางเพราะนางหนึ่ง
จึงโกรธขึ้ง รบสู้เป็นคู่ขวัญ
อันวิสัย ในภิภพ แม้รบกัน
ย่อมหมายมั่นจะให้ได้ชัยชนะ
ซึ่งครั้งนี้พี่พาเจ้ามาไว้
หวังจะได้สนทนาวิสาสะ
พอให้หายคลายเคืองเรื่องธุระ
แล้วก็จะรักกันจนวันตาย
คือวาทะการพูดขั้นสุดยอด
ทุก คำทอด ถอดใจไมตรีหมาย
บัวไม่ช้ำ น้ำไม่ขุ่นการุณย์ราย
ทั้งคมคายครบครัน สันติวิธี
ทั้งอ่อนหวาน ชาญฉลาด เด็ดขาดนัก
ให้ใจจริง แจ้งประจักษ์เป็นสักขี
หนึ่งน้ำเพชร ผ่องฉาย พรายขจี
เจียระไน มิ่งมณี กวีวัน
ยกกลอนครู บูชา มากราบครู
สุนทรภู่ ครูกลอน อักษรสวรรค์
ยิ่งโลกล้ม ขมขื่น ยิ่งยืนวัน
คำของครูยิ่งสำคัญแม้วันนี้
.........................................................................................................
พบกับรายการวิทยุ ต่างสมัย รอยไทย โดย นพวรรณ สิริเวชกุล
ได้ทุกวัน เสาร์ - อาทิตย์ เวลา 20.00 - 21.00 น.
ทางคลื่นสามัญประจำบ้าน FM 97.75 MHz
www.managerradio.com