xs
xsm
sm
md
lg

นิยามแห่งความ "น้ำเน่า" ของละครไทย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


คงจะคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีสำหรับคำว่า "ละครน้ำเน่า" โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแวดวงของละครไทย ซึ่งคนส่วนใหญ่มักจะมองว่าอยู่ในข่ายดังกล่าวแทบจะทั้งสิ้น

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเคยสงสัยกันบ้างหรือไม่ว่าละครแบบไหน หรือละครเนื้อหาชนิดใดกันแน่ถึงสมควรจะได้รับคำนิยามว่าเป็นละครน้ำเน่า? เพราะในขณะที่หลายคนกำลังรู้สึกถึงกลิ่นตุๆ ของชีวิตนางเอกที่ถูกพระเอกซึ่งเป็นคุณชายกลั่นแกล้งให้ไปตกระกรำลำบากตามคำยุแยงของนางอิจฉา โดยมีหม่อมแม่ของพระเอกคอยร่วมมือและมีคนรับใช้เป็นลูกคู่...

ในช่วงเวลาเดียวกัน เรื่องเดียวกัน ใครต่อใครอีกจำนวนไม่น้อยทีเดียว กำลังนั่งเศร้าโศกเสียใจไปกับโชคชะตาของนางเอกแสนดีผู้อาภัพคนเดียวกัน พร้อมกับแช่งชักหักกระดูกนางอิจฉาและหมั่นไส้พระเอกว่าทำไมถึงได้หูเบาเช่นนี้

"เค้าโครงเรื่องมันยังไม่เปลี่ยนนะ มันก็ยังมีปัญหาครอบครัว แม่ผัวลูกสะใภ้หรือว่าจะแย่งชายหนุ่มอยู่ ซึ่งถ้ามันไม่ใช่เรื่องพื้นฐานที่คนชอบแล้วมันคงจะอยู่ได้ไม่นาน..." "ชาลอต โทณวณิก" บอสใหญ่แห่ง "บริษัท บีบีทีวี โปรดัคชั่น จำกัด" จากช่อง 7 ที่ได้ชื่อว่าอุดมด้วยละครที่ออกสไตล์แม่ผัวลูกสะใภ้นี้แสดงความคิดเห็น

"แต่พี่ว่าสมัยนี้มันก็มีการพัฒนาในเรื่องของภาพ เรื่องของโปรดักชั่นต่างๆ เยอะแล้วนะ ส่วนเรื่องจะเน่าหรือไม่เน่ามันก็พูดลำบาก แล้วแต่คนจะมองว่าอย่างไร"

"สำหรับพี่ พี่ว่าละครดูแล้วมันบันเทิงอารมณ์ สำหรับคนทำงานดูแล้วมันไม่ต้องคิดอะไรมากก็พอ เพราะจากสภาวะสังคม เรื่องหนักๆ มันจะขายไม่ค่อยได้ แต่ก่อนนี้จะมีเรื่องหนักๆ คนก็ยังมีความอดทนดูกัน แต่เดี๋ยวนี้อยากจะดูอะไรที่มันเพลินๆ พี่คิดว่าละครที่นำเสนออยู่พล็อตเรื่องมันก็คงเป็นประมาณนี้แหละ แต่ว่ามันอาจจะเปลี่ยนไปในเรื่องของโปรดักชั่นแล้วก็นักแสดงที่เด็กขึ้น"

อะไรคือข้อดีของละครน้ำเน่า?
"คือมันเป็นเรื่องที่ไม่ต้องคิดมากไง คนดูเพื่อเอ็นเตอร์เทนฯ ดูแล้วไม่ต้องเอาไปคิดมาก สมัยก่อนพี่ก็ดู ไม่มีอะไรทำก็เปิดดูไป"

"ถ้าถามผม ผมว่ามันก็คงจะประมาณ นางเอกโดนนางร้ายกดขี่ข่มเหง แรกๆ นางเอกจน แล้วตอนหลังรวย เป็นลูกเมียหลวงหรือว่าลูกเมียน้อยอะไรประมาณนี้..." คราวนี้เป็นนักแสดงหนุ่ม "ซี ศิวัฒน์" ให้ความคิดเห็น

"แต่ไม่ว่าจะอย่างไร ผมว่าการดูละครไม่ว่าจะเป็นละครดราม่า ละครผี ทุกอย่างล้วนแล้วแต่มีสาระนะ มันขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของคนดูว่าสามารถดึงสิ่งเหล่านี้ออกมาได้มากน้อยแค่ไหน แต่ว่าบางคนที่ดูแล้วไม่คิดอะไร เขาก็จะได้แค่ความบันเทิงอย่างเดียว แต่ถ้าเขาดูแล้ว แม้ว่าจะเป็นการกดขี่ข่มเหง ดูแล้วรู้สึกว่า เฮ้ยทำอย่างนั้นมันไม่ถูก นั่นคือสาระแล้ว ถ้าเขารู้สึกอย่างนั้นแสดงว่าเขามีความคิดแล้วว่าการที่ไปกดขี่ข่มเหงคนอื่นมันเป็นสิ่งที่ไม่ดี"

ถ้ารู้ว่าเป็นละครน้ำเน่าแล้วจะดูไหม?
"ดู ดูเพื่อความบันเทิง ถ้าเกิดคิดว่าดูทำไมละครน้ำเน่าก็อย่าดูซิ ง่ายมาก เป็นการตัดสินใจที่ง่ายมาก ถ้าเราคิดว่าดูทำไมละครน้ำเน่า ก็ไม่ต้องดู ถ้าเราจะดูเพื่อความบันเทิงก็นั่งดู แล้วแต่ความคิดของคนดู" นักแสดงหนุ่มทิ้งท้ายอย่างน่าคิด ในขณะที่นักแสดงสาว อย่าง "โอ๋ เพชรลดา" บอกว่าถ้าเป็นเรื่องที่ออกมาประมาณว่านางเอกยอมทุกอย่าง เชื่อฟังทุกอย่าง รู้ไม่ทัน ไม่สู้คน โดนแกล้ง นั่นแหละเน่าเลยสำหรับเธอ

"แต่อย่างหนึ่งที่ดีก็คือ ละครประเภทนี้ส่วนมากมันจะเป็นเรื่องของการเอาความดีชนะความเลวนะ สุดท้ายจะเห็นว่าคนทำดีก็ได้ดี แล้วคนที่ทำไม่ดี ซึ่งเป็นนางอิจฉาส่วนมากถ้าไม่บ้า ก็ต้องตายหรือว่าติดคุก ซึ่งมันก็เป็นเรื่องที่ดี เพราะมันสอนเราได้"

"ถ้าไม่น้ำเน่าบางครั้งคนก็ไม่ดูเลยนะ แล้วละครส่วนมากเขาก็ทำมาจากเรื่องจริงๆ นั่นแหละ เพียงแต่มันอาจจะดูเว่อร์ แต่เราก็อาจจะไม่รู้ว่าชีวิตจริงๆ มันอาจจะมีก็ได้ บางครั้งถ้าเราไม่ได้เจอกับตัวเราก็ไม่รู้หรอก"

ถามสาวโอ๋ว่าจะดูมั้ยถ้ารู้ว่าเรื่องนี้เป็นละครน้ำเน่าแน่นอน นักแสดงสาวบอกว่าถ้าดูแล้วสนุกก็จะดู
"บางคนที่โอ๋เห็นนะ ชอบบอกว่าทำไมนางเอกมันถึงได้เป็นอย่างนั้น เป็นอย่างนี้นะ แต่โอ๋ก็ยังเห็นเขาดูกันอยู่ ดูกันจนจบนั่นแหละ"

อีกหนึ่งคนในแวดวงบันเทิงที่แสดงทัศนะเกี่ยวกับเรื่องนี้ก็คือ "ปิ่น ณัฐนันท์ ฉวีวงษ์" ซึ่งในฐานะของอาชีพในการเป็นผู้จัดละครจากค่ายทีวีซีนแล้ว คำบอกเล่าจากเธอน่าจะมีแง่มุมที่น่าสนใจไม่น้อยทีเดียว
"จริงๆ แล้วละครทุกเรื่องมันก็น้ำเน่าน่ะนะในความคิดของพี่ แต่ส่วนใหญ่แล้วคนจะคิดว่าละครน้ำเน่าเนี่ยจะต้องมีการอิจฉาริษยาออกมาชัดเจน นางเอกก็จะต้องน่าสงสารคือนางเอกถูกกระทำพระเอกก็อาจจะรวย หรือในทางกลับกันพระเอกน่าสงสาร นางเอกรวย แล้วก็มีนางอิจฉา แล้วก็จะมีอะไรที่มันเกินความเป็นจริงมากๆ เศร้าก็เศร้ามาก"

"ถามว่าทำไมคนถึงดูถึงรู้ว่ามันเน่า คือคนดูที่มีการศึกษาที่ดูคือเขาดูแบบเพลินๆ นะ ตลกดีนี่ เออก็เมาท์ไปบ่นไปด่าไป แต่ก็ดู ก็คือเป็นแบบเป็นบันเทิงชนิดหนึ่ง แต่ส่วนกลุ่มของคนดูที่มีการศึกษาล่างลงไปหน่อยหรือน้อยลงไปหน่อย เขาจะดูแล้วเขาก็จะมีคิดว่าเขาเป็นตัวละครตัวนั้น เป็นนางเอกหรือพระเอกอะไรก็ตาม ซึ่งในที่สุดมันจะจบแบบแฮปปี้เอ็นดิ้งซะส่วนใหญ่"

"คือมันเป็นความฝันของคนไง คนดูแล้วเขาจะคิดว่าเออตัวเขาเองเป็นอย่างนี้ เขาก็จะมีความสุขจากการดู พี่คิดว่าอย่างนั้นนะ ส่วนใหญ่คนดูละครเนี่ยเอาว่า 70% เลยจะคิดว่าตัวเองเป็นนางเอกหรือพระเอกในเรื่องนั้น ก็จะอินตามไป ฝันไปเพ้อไป เหมือนอย่างสมัยที่พี่ทำสะใภ้ไร้ศักดินาที่ประสบความสำเร็จมากเพราะว่านางเอกเขาเป็นชาวบ้าน เป็นแบบหาบของขาย ขายข้าวแกง เป็นเด็กบ้านนอก แล้วก็มีความใฝ่ฝันแล้วก็มุ่งมั่น สักวันหนึ่งเขาก็เป็นนักร้องดัง นั่นก็คือความใฝ่ฝันของเด็กสาวๆ วัยรุ่นอีกเยอะในสมัยนี้"

ผู้จัดชื่อดังยังบอกต่อไปด้วยว่า จริงๆ แล้วในความเน่านั้นผู้จัดละครเองก็สามารถจะใส่ความมีสาระลงไปได้ เพียงแต่จะทำกันหรือไม่เท่านั้นเอง?

"ทำไมพระเอกถึงรักนางเอกถึงแม้ว่าจะเป็นคนจนมากๆ เพราะอะไร ก็เพราะนางเอกเป็นคนดีใช่หรือไม่ ตรงนี้ก็มีสาระแล้วนะ ซึ่งสามารถจะเป็นจริงได้ ไม่ใช่ไร้สาระ พี่ถึงได้บอกไงละครทุกเรื่องเนี่ยมันสามารถจะใส่อะไรลงไปในนั้นได้ สำคัญที่ว่าพวกเราจะใส่อะไรลงไปมั้ย น้ำเน่าหรือไม่น้ำเน่ามันมีประโยชน์ทั้งนั้นน่ะ"

"แล้วความเป็นน้ำเน่าเนี่ยจริงๆ มันดีมากเลยนะ คืออย่างน้อยๆ มันให้ความบันเทิง แต่ในเมื่อมันได้ให้ความบันเทิงคนดูมากที่สุดอยู่แล้ว เราก็น่าจะใส่อะไรที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมก็จะดีกว่า ดีกว่าที่จะให้เขาดูอะไรไป เออไร้สาระ มันก็อยู่ที่จิตสำนึกของผู้สร้างด้วยนั่นแหละ"

สรุปได้ว่า(ผู้สร้าง)ถามใจตัวเองก็แล้วกันว่า จะขายอะไร?


กำลังโหลดความคิดเห็น