ยังคงปฏิเสธกันต่อไป สำหรับเรื่องราวความสัมพันธ์ของ “โบว์ ปรารถนา องค์ชัยศักดิ์” กับพ่อม่ายลูกติด “บิลลี่ โอแกน” ถามกี่หนทั้งคู่ก็บอกว่าเป็นเพื่อน(ต่างวัย)กัน แถมยังให้เหตุผลเหมือนลอกกันมาว่าเพราะงานยุ่งเลยยังไม่พร้อมมีรัก(ครั้ง) ใหม่
แต่ถึงแม้ปากจะบอกว่าไม่มีเวลาว่างขนาดไหนก็ตาม แต่วันงานเปิดตัวพ็อกเกตบุ๊ก “อยากดัง มาฟังพี่” ของฝ่ายชาย ก็เห็นโบว์เจียดเวลาของตัวเองที่เธอบอกว่ามีอยู่น้อยนิดมาร่วมแสดงความยินดีอยู่ในงานอย่างออกหน้าออกตา งานนี้ก็เลยดึงตัวพ่อม่ายปากแข็งมาชี้แจงซะหน่อย แต่พ่อคุณก็ลื่นไหลได้อย่างสบาย โดยบอกว่า...
“ก็เชิญทุกคนเลยครับ เพื่อนๆ ทั้งในและนอกวงการใครสะดวกก็มา ใครไม่ว่างก็ไม่เป็นไรเพราะเป็นงานเปิดตัวหนังสือสนุกๆ”
“กับความรักตอนนี้ก็ไม่มีครับ กับโบว์ก็บอกไปแล้วหลายครั้งว่าไม่ได้เป็นแฟนกัน เป็นเพื่อนกัน ไว้เป็นแฟนกันแล้วจะบอกนะครับ ผมก็เป็นผู้ใหญ่แล้วนะครับ หมายถึงการพูดการอะไรก็หมายความตามนั้น จริงๆ หมายถึงว่าผมยังไม่มีความรักและยังไม่พร้อมมีครอบครัวใหม่ทั้งสิ้น ณ ตอนนี้นะครับ”
จะเรียกว่าอยู่ในช่วงกำลังศึกษากันอยู่ได้มั้ย ?
“มหา’ลัยไหนครับ (หัวเราะ) อย่าเรียกอย่างนั้นเลย การคบกันของคนเราก็คบกันไปเรื่อยๆ น่ะ ความสนิทสนมพิเศษผมยังไม่มีถึงขั้นนั้น ไม่ว่ากับใครก็ตาม เรื่องที่เขาจะมีมาปรึกษาอะไรผมมั้ยก็ไม่มีหรอกครับ เขาก็ทำงานของเขา ผมก็ทำงานของผม”
เหตุผลที่ยังไม่พร้อมมีแฟน ?
“ก็เพราะผมยังไม่มีน่ะสิครับ ถ้ามีเดี๋ยวมันก็คงมีเอง ถ้ามีผมจะพามาประกาศนะครับ เดี๋ยวจะบอก คืออนาคตก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ถ้าโชคดีก็อาจมีแฟนใหม่ แต่ช่วงนี้ผมสนุกกับงานและก็พยายามทำงานมากๆ หลายๆ อย่าง ซึ่งหลังจากนี้ก็จะมีทำเพลงของตัวเองสักอัลบั้มหนึ่ง แล้วเดี๋ยวมีเปิดร้านเสื้อที่ยูพลาซ่าอีก บอกแล้วว่าทำงานเยอะจริงๆ เพราะฉะนั้น วันหนึ่งผมทำงานเกือบ 20 ชม.ทุกวันนะครับ เรื่องแฟนยังไม่มีเวลาที่จะคิด”
“ถ้าถามว่าผมไม่เหงาเหรอ ก็เหงาสิ ดีครับจะได้เขียนเพลงออก เวลาไม่เหงามักจะเขียนเพลงไม่ออก มันไม่ใช่เวลาเหงา เวลาที่อยู่คนเดียวเนี่ยมันจะสมารถทำงานได้เยอะกว่า ไม่ว่าจะเป็นงานเขียนหนังสือก็ตาม งานดนตรีก็ตาม เวลาที่อยู่บ้านผมก็ทำงานตลอด คือผมเริ่มชินแล้วครับกับการอยู่คนเดียว”
ขอถามถึงลูกสาว “น้องนนนี่” บ้างว่าตอนนี้มีเวลาได้เจอกันมาก-น้อยแค่ไหน ?
“ก็เจอศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ ครับ เพราะวันธรรมดานนนี่เขาก็เรียนหนังสือ ตอนนี้ก็เริ่มคุยในเรื่องที่เขาโตขึ้นกว่าเดิม ความคิดเขาก็เป็นผู้ใหญ่ในเด็ก 9 ขวบน่ะนะครับ เขาก็ชอบเล่นคอมพิวเตอร์มาก หมายถึงใช้อุปกรณ์เหล่านี้ได้ดีมาก นั่นเป็นสิ่งที่ผมดีใจรู้ว่าลูกอยู่ในศตวรรษที่ 21 ได้อย่างแน่นอน”
“จริงๆ ก็อยากให้เจอกันเยอะกว่านี้น่ะครับ แต่ว่าวันธรรมดาเด็กก็ต้องไปเรียนหนังสือ เขามีเรื่องเรียนแล้วคุณแม่เขาก็ช่วยเรื่องการบ้าน ฉะนั้น เสาร์-อาทิตย์ เราก็มีเวลาได้เจอ บางอาทิตย์ก็ไม่ได้เจอเพราะนนนี่เขาอัดรายการทีวี เขาก็มีงานของเขา”
“ทำงานหนักๆ ทุกวันนี้เพราะน้องนนนี่ก็มีส่วนครับ เพราะตัวเราเองก็อยู่ตัวอยู่แล้วง่ายๆ ก็เก็บไว้ให้ลูกน่ะครับ”


