xs
xsm
sm
md
lg

เฉิ่ม…เมื่อหม่ำรักนุ่น จนคุณน้ำตาซึม

เผยแพร่:   โดย: ธีปนันท์ เพ็ชร์ศรี


เฉิ่ม… ฉายรอบพิเศษไปเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา หลังจากที่ได้ข่าวว่าหนังถ่ายทำและตัดต่อเสร็จไประยะหนึ่งแล้ว และก็เคยเปิดรอบทดลองฉายไปแล้วด้วย โดยตัวหนังมีโปรแกรมฉายจริงในวันที่ 12 พฤษภาคมนี้

เข้าใจว่าค่ายหนังเองก็คงคร่ำเคร่งกับการหาจุดขายให้กับหนังเรื่องนี้อยู่นาน กล่าวคือ ไม่แน่ใจว่าควรจะบอกคนดูว่ามันเป็นหนังตลกหรือหนังดราม่าดี เพราะหนังมีสัดส่วนอารมณ์ขันในตัวเองน้อย ความจริงแล้ว เฉิ่ม…เป็นหนังดราม่าแท้ๆ ซึ่งก็อย่างที่รู้ๆ กัน คนดูบ้านเรามักไม่ถูกโรคกับหนังทำนองนี้สักเท่าไหร่

แต่ส่วนที่ดึงดูดใจอยู่แล้วในตัวมันเอง ทั้งๆ ที่ยังไม่โปรโมต - เป็นตัวดารานำ ทั้ง หม่ำ จ๊กมก และ นุ่น วรนุช วงษ์สวรรค์ ต่างก็มีแฟนๆ ของตัวเองเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ยิ่งน่าสนใจขึ้นไปอีกเมื่อรู้ว่าหม่ำจะมาเล่นบทที่ไม่ต้องทำหน้าทะเล้นเรียกเสียงหัวเราะ - คู่กับนุ่น ซึ่งถือได้ว่าเป็นนางเอกอันดับต้นๆ ของช่อง 7

ผู้กำกับ คงเดช จาตุรันต์รัศมี เคยเป็นหนึ่งในผู้กำกับของหนังเรื่อง สยิว และเป็นผู้เขียนบทหนังเรียกน้ำตาเรื่อง The Letter จดหมายรัก ผมดูเฉิ่ม…แล้วก็พบว่า ตัวหนังมีอะไรบางอย่างคล้ายๆ กับ 2 เรื่องก่อนหน้าที่คงเดชเคยผ่านมือมา คือโดยรวมแล้วมันเป็นงานที่น่าพอใจ ในขณะเดียวกันก็น่าสนับสนุน คนดูเองก็น่าจะชื่นชอบได้ไม่ยาก แต่ก็นั่นแหละ ปัญหาก็คือ จะมีคนรู้สึกอยากไปดูกันสักแค่ไหน

เฉิ่ม… เป็นเรื่องราวของแท็กซี่กะดึกคนหนึ่ง ที่ค่อนข้างแปลกแยกจากสังคมรอบข้างอยู่สักหน่อย หนังอธิบายในจุดนี้ได้ดี ในระหว่างที่ภาพจับให้คนดูเห็นแสงสว่างยามค่ำคืนรายทางที่เขาขับรถผ่าน - ดูสับสนวุ่นวายแบบสมัยนิยม แต่เพลงเก่าจากวิทยุคลื่นเอ.เอ็ม. ที่พระเอกของเราชอบฟัง กลับดังขึ้นมาให้ความรู้สึกขัดแย้ง ราวกับโลกสองโลกที่ไม่ได้เข้ากันเลย

สมบัติ ดีพร้อม ตัวละครเอกก็เป็นแบบนี้ คือไม่ได้แยแสโลกภายนอกว่าหมุนไปถึงไหนแล้ว ถึงเพื่อนๆ แท็กซี่หลายคนจะมีโทรศัพท์มือถือใช้ หรือออกไปทำธุรกิจส่วนตัวเพื่ออนาคตที่ดีกว่า - ก็ไม่เคยอยู่ในความสนใจของสมบัติเลย เขาเป็นพวกหาเช้ากินค่ำตัวจริง มีชีวิตอยู่อย่างเรียบง่าย ทำกิจวัตรซ้ำๆ ซากๆ บ่อยครั้งที่พาตัวเองล่องหลุดไปในโลกของละครวิทยุ ตัดขาดจากเรื่องวุ่นวายในโลกของความเป็นจริง

คงเดชสร้างตัวละครตัวนี้ขึ้นมาได้อย่างน่าสนใจ มันชวนให้คนดูคิดไปว่า เหตุผลอะไรที่ทำให้สมบัติเป็นคนแบบนี้ เขาเคยมีอดีตอันปวดร้าวและพยายามจะลืมมันหรืออย่างไร หรือว่า เขาเป็นคนที่ยึดถือในอุดมการณ์ส่วนตัวอย่างเหนียวแน่น ตามแบบอย่างของตัวละครโรมานซ์ (อย่างพระเอกในละครวิทยุก็ใช่) ที่ยืนหยัดเพื่อคุณธรรม ไม่หวั่นเกรงต่อปัจจัยต่างๆ เพื่อรักษาที่มั่นทางความคิดของตนเองเอาไว้

แล้วมันก็ถูกทั้ง 2 อย่าง สมบัติเคยผ่านเรื่องราวร้ายแรงมากๆ มาแล้ว และพยายามจะลืมมันไป ตั้งต้นชีวิตใหม่กับวิถีเรียบง่าย แต่การต่อสู้เพียงลำพังก็เหงาเหลือเกิน หัวใจของเขาไม่ใช่หัวใจที่เข้มแข็งร้อยเปอร์เซ็นต์ บางอย่างในชีวิตของเขาขาดหายและต้องการการเติมเต็ม แต่ก็ไม่รู้จะจัดการกับเรื่องนี้ด้วยวิธีไหน จนกระทั่งเขาได้มาพบกับนวล สาวบริการในอาบอบนวดแห่งหนึ่ง

เทียบกับสมบัติแล้วนวลดูจะแปลกแยกน้อยกว่า แต่ถ้าพูดถึงความเจ็บช้ำที่ได้รับ นวลนั้นสาหัสกว่าอย่างเปรียบกันไม่ได้ หนังมีฉากที่อธิบายตัวเธอได้ชัดเจนฉากหนึ่ง ตอนที่เสี่ยเชน ลูกค้าคนสำคัญของเธอถามว่าเคยร้องไห้บ้างไหม นวลตอบไปว่าเธอเลิกร้องไห้ไปนานแล้ว

มีคน 2 ประเภทเท่านั้นที่ไม่ยี่หระต่อโชคชะตาและไม่ร้องไห้ หนึ่งคือพวกที่ชาชินเสียแล้ว กับสองคือพวกที่เจ็บเกินกว่าน้ำตาจะบรรเทาได้ นวลเป็นแบบไหนไม่ทราบ แต่มันก็เจ็บปวดทั้งสองแบบ

อย่างที่เดากันได้ว่า ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็ค่อยๆ งอกงามอย่างที่คนทั้งสองเองก็ไม่คาดคิด แม้ระหว่างที่อยู่ด้วยกัน จะไม่มีอะไรคืบหน้ามากไปกว่าความเงียบ ซึ่งเพียงเท่านั้นก็คงพอแล้ว

คงเดชทำให้ผู้ร้ายจริงๆ ในหนังเรื่องนี้เป็น ความเปลี่ยนแปลงที่เอาแน่เอานอนอะไรไม่ได้ (เขาย้ำประเด็นนี้อีกครั้งในระหว่างการพูดคุยหลังชมภาพยนตร์รอบพิเศษในวันนั้น) กระแสที่วูบไหวไม่หยุดนิ่งของสังคมเมือง เป็นเหตุให้ทั้งสองต้องพลัดพราก ในแง่หนึ่งมันมาเพื่อตอบคำถามอะไรบางอย่างของตัวละคร นำไปสู่จุดคลี่คลายที่พวกเขาเองต้องยอมรับ

เฉิ่ม…มีประเด็นที่น่าสนใจ โดยมีทั้งเรื่องที่ชวนให้สลดหดหู่ ระคนไปกับการตั้งคำถามต่อคนดู หนังจะดีกว่านี้ ถ้าคงเดชแม่นในจังหวะการเร้าอารมณ์มากกว่านี้ ผมไม่แน่ใจว่าผู้กำกับเลือกที่จะไม่เร้าเองหรือเปล่า แต่ถ้าเพิ่มเติมไปอีกนิด คนดูก็จะผูกพันกับตัวละครยิ่งกว่านี้

ครึ่งแรกของหนังดูล่องลอยมากเกินไปเมื่อพูดถึงว่าช่วงครึ่งหลังมันเต็มไปด้วยชะตากรรมที่หักเหรุนแรง มันดูแล้วเกิดประดักประเดิดเล็กน้อย จะดีกว่าหรือเปล่าถ้าหนังเกลี่ยให้มันเกิดความกลมกล่อมกว่าเดิม

หม่ำเองดูทุ่มกับบทเต็มที่ แต่ก็ไม่มีอะไรโดดเด่นน่าประทับใจ จุดนี้เป็นไปได้ว่าผมอาจเห็นไปเองคนเดียว ผมรู้สึกว่าเวลาเขายิ้มแล้วมันแฝงเลศนัยอย่างไรบอกไม่ถูก ตัวนุ่นนั้นนับว่าน่าเสียดายที่บทเปิดโอกาสให้เธอเล่นอะไรได้น้อย ทั้งๆ ที่ศักยภาพระดับเธอไปได้ไกลมากกว่านี้ อันนี้ก็โทษเธอไม่ได้ คงเดชต้องรับผิดชอบไป

ทั้งนี้ทั้งนั้นปัญหาที่ว่ามา ก็ไม่ใช่จุดร้ายแรงอะไร มองรวมๆ แล้วก็นับว่า เฉิ่ม…เป็นหนังที่ดูสนุกและพอจะมองเห็นความพยายามที่จะสร้างสรรค์อะไรใหม่ๆ ให้กับวงการหนังบ้านเรา หรือมองในระดับที่ตื้นที่สุด มันเป็นหนังที่คนดูส่วนใหญ่ดูแล้วก็น่าจะชอบ

ผมเองก็รู้สึกกับหนังเรื่องนี้ในทางบวก แม้จะคิดๆ อยู่ว่า ถ้าตบๆ อะไรให้เข้าที่เข้าทางกว่านี้อีกหน่อยจะดีมาก แต่เท่าที่เป็นอยู่ก็นับว่าพอใช้ได้ ไล่เรียงดูแล้ว นี่เป็นหนังไทยเพียงไม่กี่เรื่อง – ตั้งแต่ต้นปีเป็นต้นมา - ที่ระหว่างนั่งดูแล้วไม่อยากเดินออกจากโรงกลางคัน




กำลังโหลดความคิดเห็น