xs
xsm
sm
md
lg

สามัคคีประเทศไทย : การกลับมาของ "คาราบาว"

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เริ่มรุนแรงขึ้นทุกทีสำหรับสถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับประชาชนในพื้นที่จังหวัดภาคใต้ของบ้านเรา

ท่ามกลางความผันผวนที่ก่อให้เกิดความหวาดผวาความไม่มั่นใจในในชีวิตและทรัพย์สินเช่นนี้ การมองหาบทเพลงสักชิ้นหนึ่งไปฟังเพื่อช่วยคลายและบรรเทาอาการดังกล่าวรวมทั้งสร้างความมั่นใจให้กับตนเองน่าจะเป็นเรื่องที่เข้าที่ไม่หยอก

"สามัคคีประเทศไทย" ของ "คาราบาว" เป็นหนึ่งในคำตอบของงานเพลงที่มีสรรพคุณดังกล่าว

ไม่ถึงกับหนักหัว ไม่ถึงกับฟังแล้วชวนให้เกิดอาการเศร้าสร้อยหดหู่หรือพยายามมาสร้างอารมณ์ความกินใจเหมือนกับอีกหลายๆ อัลบั้มในแนวเพื่อชีวิตที่ออกมากันอย่างมากมายในช่วงนี้ แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่างานชุดนี้จะเบาโหวงไม่มีสาระอะไรให้แตะเอาเสียเลย(เหมือนกับหลายชุดที่ผ่านมาในระยะหลัง)

"สามัคคีประเทศไทย" เป็นงานที่ ฟังง่าย ร้องตามได้แบบสบายๆ เต้นสนุก เอาซึ้งประทับใจก็ได้ ที่สำคัญได้อารมณ์บรรยากาศและกลิ่นเก่าๆ ของความเป็นคาราบาวกลับมาเยอะพอสมควรทีเดียว

มีทั้งความโจ๊ะ มีลูกเสียดสี มีท่อนแดกดัน คำร้องง่ายๆ แต่กินใจและให้ความฮึกเหิมอยู่ในที

คุ้นหูกันไปแล้วอย่างแน่นอนก็คือ "สามัคประเทศไทย" ซึ่งถูกหยิบไปใช้เป็นเพลงโฆษณา เพลงนี้แค่อินโทรขึ้นมาแขนขาก็เกิดอาการกระตุกนึกอยากจะลุกขึ้นมาเต้นด้วยความรู้สึกและสีหน้ายิ้มๆ แบบปลาบปลื้มในสิ่งดีๆ ของบ้านเราแม้ว่าประเพณีหรือวัฒนธรรมหลายๆ อย่างจะมีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบจนไม่เหลือเค้าและจุดมุ่งหมายเดิมๆ แล้วก็ตาม

เพลงนี้ใครฟังแบบผ่านๆ อาจจะไม่ได้คิดอะไรแต่ถ้าฟังแบบตั้งใจประโยคที่ว่า "เรามีตะวันดวงเดียว ไม่มีพระจันทร์ดวงใด สว่างสดใสเท่าเรามองจากมุมนี้.." ค่อนข้างจะซ่อนความหมายที่แรงเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน

อีกเพลงหนึ่งที่เยี่ยมมากๆ ก็คงจะหนีไม่พ้น "ขวานไทยใจหนึ่งเดียว" ที่ฟังแล้วเลือดรักชาติมันพวยพุ่งขึ้นถึงขีดสุดทีเดียว

"ตำบอลของหนู" เอาสำเนียงกีต้าร์ดนตรีบลูส์แต่เล่นในเมโลดี้แบบเพลงลูกทุ่งของบ้านเรานั้นเข้าท่าทีเดียว ขณะที่ "ฤกษ์ดาวเทียม" และ "ลูกผู้ชายหัวใจสองล้อ" แม้จะแฝงการ "ขายของ" อยู่บ้างแต่ก็ไม่ถือว่าน่าเกลียดและไม่ได้ไปบดบังเนื้อหาที่แท้จริงของเพลง ที่สำคัญไม่ฮาร์ดคอร์จนเกินไปเหมือน "สาวเบียร์ช้าง"

ที่น่าผิดหวังก็คือ "ผีเสื้อราตรี" ที่ "เทียรี่ เมฆวัฒนา" ร้อง ถึงแม้จะพยายามถูกทำให้เกิดความคลาสสิกแบบ "นางงามตู้กระจก" แต่ยังห่างชั้นกันเยอะ เช่นเดียวกับ "เสพตาย ขายคุก" ที่ชื่อเพลงค่อนข้างจะน่าสนใจมากกว่าเนื้อเพลงซึ่งบอกเล่าออกมาแบบโต้งๆ อย่างไม่มีกึ๋นสักเท่าไหร่

เพราะการวางตัวของสัญลักษณ์ของวงอย่าง "แอ๊ด ยืนยง" ที่เข้าไปวุ่นวายกับเรื่องธุรกิจมากจนเกินไป ทำให้ช่วง 10 ปีที่ผ่านมาดูเหมือนว่าบรรดาสาวกของวงเขาควายวงนี้จำนวนมากจะฟังเพลงของคาราบาวด้วยความรู้สึกที่ไม่สนิทใจมากนักแถมยังมองฮีโร่ของพวกเขาด้วยความสงสัยว่าแท้ที่จริงทุกๆ บทเพลงของคาราบาวนั้นเป็นของจริงหรือเพียงแค่เปลือกนอกที่ฉาบอยู่บนแก่นของความเป็นธุรกิจการค้าการขาย?

เป็นเรื่องยากทีเดียวที่จะดึงเอาอารมณ์และความรู้สึกในอดีตให้กลับคืนมา แต่งานชุดนี้ทำให้รู้สึกได้ว่าเรื่องดังกล่าวใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ซะเลย

"สามัคคีประเทศไทย" อาจจะไม่ใช่งานที่ดีที่สุดของคาราบาว แต่ก็เป็นอัลบั้มหนึ่งที่ซื้อได้อย่างไม่ต้องกลัวว่าจะเสียดายเงิน
กำลังโหลดความคิดเห็น