xs
xsm
sm
md
lg

เอาหรือไม่เอา :โลภมากลาภ(มัก)หาย/อำนาจ

เผยแพร่:   โดย: อำนาจ เกิดเทพ


ด้วยรูปแบบของรายการที่(ดูราวกับจะ)ไม่มีอะไร จึงไม่ใช่เรื่องแปลกแต่อย่างไรหากหลายคนจะรู้สึกเหมือนๆ กันว่ารายการเกมโชว์ "Deal Or No Deal...เอาหรือไม่เอา" (ทุกๆ วันจันทร์ เวลา 22.20 น.)ทางช่อง 3 เป็นรายการที่ค่อนข้างจะไร้สาระและไม่ได้สร้างความประเทืองปัญญาให้กับคนดูสักเท่าไหร่

ที่ว่าไม่มีอะไร ไร้สาระ ก็คงจะเป็นเพราะใครที่มาเล่นรายการนี้แทบจะไม่ได้ใช้ความสามารถหรือทำอะไรที่แสดงถึงการใช้ความคิดเลย

เพียงแค่เสี่ยง(ดวง)เลือกกระเป๋าจากทางรายการที่จะมีมาให้เลือก 26 ใบ แต่ละใบก็จะมีเงินจำนวนเงินที่แตกต่างกันไป ตั้งแต่ 25 สตางค์, 50 สตางค์, 1 บาท, 3 บาท, สองพันห้าร้อยบาท, 5 หมื่นบาท, 1 แสนบาท ไล่ไปเรื่อยๆ กระทั่งถึงสูงสุดคือ 1 ล้านบาท

หลังจากที่ผู้เข้าแข่งเลือกกระเป๋า(ที่ทุกคนต่างก็คิดว่าจะเป็นใบที่มีเงิน 1 ล้านบาทอยู่ข้างใน)มาเป็นของตนเองไว้เรียบร้อยหน้าที่ต่อไปก็คือก็จะต้องเลือกเพื่อที่จะทำการกำจัดกระเป๋าที่เหลือทิ้งไป(โดยมีญาติๆ ที่อาจจะเป็นพี่ เป็นน้อง เป็นลูกมาเป็นผู้ช่วยในการตัดสินใจ)ซึ่งระหว่างที่กระเป๋าหรือจำนวนเงินต่างๆ ค่อยๆ ถูกกำจัดออกไปทางรายการจะมีข้อเสนอเป็นเงินสดๆ มาให้กับผู้เข้าแข่งขันเลือกเพื่อแลกกับจำนวนเงินในกระเป๋าของผู้เข้าแข่งขัน(ที่ยังไม่รู้ว่าจะเป็นเท่าไหร่)อยู่เป็นระยะๆ

ถึงตรงนี้ผู้เล่นเกมเองต้องชั่งใจแล้วละครับว่า จะเอาเงินทางเลือกดังกล่าวดีหรือเปล่า หรือว่าจะเสี่ยงเล่นเกมต่อไปเรื่อยๆ?

ที่ผ่านมาหลายคนพอเล่นไปได้พักหนึ่ง พอเงินที่ถูกเสนอเข้ามามีจำนวนที่อยู่ในระดับที่ตนเองคำนวณแล้วรู้สึกพึงพอใจบวกกับความรู้สึกที่ว่าขืนเสี่ยงไปเดี๋ยวไม่ได้อะไรเลยก็จะรับข้อเสนอนั้นไว้ ในขณะที่บางคนก็เลือกที่จะเสี่ยงเล่นต่อไปเพราะคิดว่าตนเองได้เลือกเงินจำนวนที่สุดไว้กับตัวแล้ว

บทสรุป ผลสุดท้ายจะได้มากได้น้อยก็แล้วแต่ดวง

ตามข้อมูล "Deal Or No Deal..." ได้รับความนิยมมากๆ ในต่างประเทศ รวมทั้งกวาดรางวัลต่างๆ มาแล้วมากมาย ไม่ว่าจะเป็นรางวัลออสการ์ ทีวี อวอร์ด ที่ประเทศอิตาลีและรางวัลสุดยอดเกมโชว์แห่งปีจากประเทศเนเธอแลนด์ ซึ่งประเทศแถบบ้านเราในตอนนี้ก็มีข่าวออกมาว่าเวียดนามก็เตรียมที่จะซื้อลิขสิทธิ์รายการนี้มาทำด้วยเช่นกัน

ไร้สาระ ไม่เกิดประโยชน์อะไรเลยจริงหรือ?

ถ้าหยิบยกเอาเรื่องการได้มาของรางวัลที่ขึ้นอยู่กับ "ดวง" เป็นสำคัญก็คงจะรู้สึกว่ารายการออกจะไร้สาระจริงๆ แต่ถ้าถามว่ารายการนี้ไม่ได้ให้อะไรเลยกับคนที่ดูอยู่หรือเปล่าก็คงจะไม่ใช่อย่างแน่นอน

"Deal Or No Deal..." สะท้อนให้เห็นอย่างชัดเจนถึงแนวคิดแบบตะวันตก โดยเฉพาะในวัฒนธรรมของการทำธุรกิจแบบทุนนิยมที่มองถึงเรื่องของผลกำไรสูงสุดเป็นตัวตั้งสำคัญ ซึ่งถ้าถามต่อไปอีกว่าดีหรือไม่ดีตรงนี้คงจะแล้วแต่ขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่นๆ ที่เข้ามาเกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบของสังคมวัฒนธรรม โครงสร้างทางเศรษฐกิจ รวมไปถึงวิธีคิดของคนในแต่ละประเทศ

แง่หนึ่งอาจจะมองได้ว่า "Deal Or No Deal..." ก็มีประโยชน์อยู่ไม่ใช่น้อยที่สอนให้คนเรามองถึงเรื่องของความ "น่าจะเป็น" "โอกาส" และ "ความเสี่ยง" ที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้ในชีวิตประจำวันก่อนที่จะตัดสินใจทำอะไรลงไปสักอย่าง จะในเรื่องของการลงทุนทางด้านธุรกิจ การเลือกซื้อของ แต่ถ้าจะมองว่า "Deal Or No Deal..." เป็นรายการที่มอมเมา เป็นการสอนให้คนเรามี "ความอยาก(ได้มากที่สุด)" ซึ่งขัดต่อหลักและวิถีการคิดการดำเนินชีวิตของคนตะวันออกที่เน้นเรื่องของความพอเพียง การมีเท่าที่มีความจำเป็น การให้ความสำคัญกับความงดงามและคุณค่าทางด้านจิตใจมากกว่าที่จะไปเน้นในเรื่องของวัตถุก็ไม่ใช่เรื่องที่ผิดอะไร

เห็นสีหน้าแววตาของคนที่มาร่วมเล่นรายการที่เต็มไปด้วยความหวัง เต็มไปด้วยความมุ่งมั่น(มากๆ )จนบางคนเกิดอาการเครียด บางคนออกอาการเสียดายอย่างสุดๆ เมื่อรู้ว่าตัดสินใจพลาด ขณะที่บางคนก็(มีสีหน้า)ไปโทษเอาผู้ช่วยซึ่งเป็นพี่ เป็นน้อง เป็นลูกที่มีส่วนทำให้ต้องทิ้งเงินก้อนใหญ่ไป

อาจจะไม่ถึงกับรุนแรงขนาดทะเลาะหรือชกต่อยอะไรกัน แต่ก็ต้องบอกว่าเป็น "พื้นฐาน" ของอารมณ์และความรู้สึกที่ออกจะน่ากลัวอยู่เหมือนกัน

ไม่ได้ว่าทุกคนที่มาเล่นเกมนี้จะเป็นคนไม่ดี เป็นคนเห็นแก่ได้ เห็นแก่ตัวอะไรนะครับเพราะหากมีโอกาสได้เลือกทั้งที เป็นใครก็ต้องอยากจะได้เยอะ(ที่สุด)กันทั้งนั้นแหละครับ

เอาเป็นว่าดูรายการนี้แล้วก็หยิบยกสุภาษิตแบบไทยๆ มาคอยเตือนความรู้สึกหรือคอยสอนลูกสอนหลานที่นั่งดูอยู่ด้วยก็แล้วกันครับว่า...โลภมากลาภ(มัก)หาย
กำลังโหลดความคิดเห็น