ตั้งแต่ “สุ่ย” พรนภา เทพทินกร ออกหนังสือ “รักรสแซ่บ” แฉเรื่องราวความรักที่ผ่านมาของตัวเอง โจทก์เก่าอย่าง “กฤษณ์ ศรีภูมิเศรษฐ์” ก็ออกโรงมาโต้พัลวัล ล่าสุดก็ถึงคิว “ตั๊ก” บงกช คงมาลัย โจทก์เบอร์สองที่เคยมีข่าวว่าเป็นมือที่สามระหว่าง สุ่ย กับ กฤษณ์ ก็ออกมาวิจารณ์หนังสือเล่มดังกล่าวว่าอุบาทว์ ซ้ำยังท้าทายให้สุ่ยโทรมาเคลียร์ไม่ใช่ไปเขียนหนังสือด่าลับหลัง
“เมื่อวานพี่กฤษณ์ก็ยังมานั่งคุยกับตั๊กเรื่องนี้ จริงๆ แล้วเค้าก็ไม่ได้มาซีเรียสอะไรหรอก เค้าไม่อยากให้ตั๊กออกมาตอบโต้ด้วยเพราะยิ่งจะทำให้หนังสือของเค้าดัง แต่ตั๊กโดนพาดพิงด้วยจะให้อยู่เฉยๆ ได้ไง มีคนโทรมาเล่าให้ฟังเยอะแยะไปหมด แต่ไม่คิดจะซื้อมาอ่านหรอก หนังสืออุบาทว์แบบนี้ เอาเงินไปซื้อขนมซื้อลูกอมมากินดีกว่า”
“ผู้หญิงคนนี้ชอบโปรโมตตัวอง ไม่มีการไม่มีงานทำถึงต้องมานั่งเขียนหนังสือด่าคนอื่น อาศัยเกาะคนอื่นดัง อุบาทว์ไม่มีความแมน”
“ที่ผ่านมาพี่กฤษณ์ไม่เคยให้สัมภาษณ์หรือพูดอะไรถึงเค้าเลย จบกันแล้วก็จบกันไปสิ แก่แล้วทำไมไม่รู้จักแยกแยะ ถ้าเป็นตั๊ก ตั๊กไม่ทำแบบนี้เพราะไม่ใช่นิสัยตั๊ก ถามหน่อยถ้าพี่กฤษณ์ไม่ดีจริงคุณจะคบกับเค้าถึง 3 ปีเหรอ แต่นี่เลิกกันแล้วคุณกับเอาเค้ามาด่า คุณไม่ได้เค้าคุณพาลหนิ น่าสงสารแพ้แล้วไม่ยอมรับ”
“คนเราเคยรักกันเคยดีต่อกัน ช่วงชีวิตหนึ่งเคยมีสิ่งดีๆ ร่วมกัน ทำไมคุณจดจำภาพเหล่านั้นไว้ แต่ทำไมคุณกลับทำแบบนี้ ที่ผ่านมาคุณไม่ได้รักเค้าเลยเหรอ”
“จริงๆ แล้วตั๊กไม่อยากวิจารณ์เรื่องนี้เลย ถ้าวิจารณ์แล้วมึงตาย โอเคล่ะคุณอาจจะอยู่วงการนี้มานานอยู่มาก่อน แต่มาถึงตรงนี้คุณกับตั๊กมันคนละเรื่องกันแล้ว คุณไม่มีแม้แต่ค่ายเลยด้วยซ้ำ ไม่จำเป็นที่ตั๊กจะต้องลดตัวไปอะไรด้วย ตั๊กไม่ได้แบ่งชั้นวรรณะ แต่สิ่งที่เค้าทำมันไม่ควร มาพูดแบบนี้ได้ไงไม่มีความแมนเลย ทุเรศอ่ะ ทุเรศ”
“ลงไปเลยนะ ลงไปให้หมด ลงให้ได้ทุกคำพูดของตั๊ก ตั๊กไม่เคยกลัวใครอยู่แล้ว ตั๊กกลัวแต่คนดีเห็นแล้วจะยกมือไหว้เลย แต่คนชั่วชอบเขียนหนังสือด่าชาวบ้านตั๊กไม่กลัว ทำอย่างนี้เค้าเรียกว่าพาล คุณเป็นอย่างนี้ล่ะสิผู้ชายเค้าถึงได้ทิ้งคุณ ผู้ชายเค้ารู้ว่าคุณเป็นอย่างนี้เค้าถึงได้ไม่เอาคุณ ตั๊กไม่เกี่ยวข้องก็ยังเอาไปยุ่งด้วย ไม่แปลกเลยที่พี่กฤษณ์แยกทางกับเค้า”
“ผู้หญิงคนนี้น่ากลัว คนเคยรักกันเค้าไม่ทำกันแบบนี้ ไม่น่าเห็นแก่เงินเขียนหนังสือด่าคนอื่น เป็นตั๊ก... ตั๊กไม่คบคนแบบนี้ น่ากลัว มีอะไรโทรมาคุยกับตั๊กได้ ไม่ต้องไปพาลเขียนหนังสือ เบอร์ตั๊กคุณก็มีอยู่แล้วหนิ โทรมาสิ โทรมาคุยกัน ถึงตั๊กไม่มีเวลาเพราะตั๊กมีการมีงานทำ (ย้ำเสียงหนักแน่น) แต่ตั๊กก็จะคุย”
“แต่อย่ามาฉวยโอกาสตอนที่หนังตั๊กกำลังจะออกมาสร้างชื่อเสียงให้กับตัวเองแบบนี้ เพราะมันส่งผลกระทบกับหนังของตั๊กมาก ตั๊กและทีมงานอุตส่าห์ตั้งใจทำงาน แต่ก็ต้องมาเสียเพราะมึง”
ระบายอารมณ์มาซะยาวเหยียด ได้ยินได้ฟังฝีปากแล้วก็นับว่าคมคายสู้คู่กรณีได้แน่นอน แต่พอถามว่าคิดจะออกหนังสือมาแฉบ้างหรือเปล่า ตั๊กกลับบอกว่า.....
“โอ๊ย...ตั๊กไม่เขียนหรอกหนังสือ เอาไว้ไม่มีงานทำก่อนก็แล้ว”