เล่นเอาช็อกทั้งวงการมาแล้วเมื่อครั้งที่ทั้งคู่เลิกกัน เพราะฝ่ายหญิงเล่นออกมาแฉชนิดไม่มีเม้ม! ว่าฝ่ายชายเลวอย่างโน้นแย่อย่างนี้ แถมยังมีช็อตเด็ดเป็นภาพถ่ายหลังโดนแฟนหนุ่มซ้อม จนเนื้อตัว-หน้าตาช้ำระบมเต็มไปหมด ...เรียกว่าจบแบบมีแค้นชนิดถ่านไฟมอดดับสนิท
แต่ไหงในวันแถลงข่าว “การแข่งขันกอล์ฟดารามหากุศล” เมื่อวันก่อน ถึงเห็นหนุ่ม “แจ็บ”เพ็ญเพชร เพ็ญกุล ยิ้มระรื่นเดินจับมือ “น้องนิ” อดีตแฟนสาวเข้ามาในงาน แถมยังสวีตหวานจ๋อยไม่มีร่องรอยการร้างลาเลยสักนิด ทำเอางงไปตามๆ กัน
เมื่อเป็นเช่นนี้ บันเทิงผู้จัดการจึงรีบฉกตัวน้องนิมาซักไซร้ให้หายสงสัยกันไปเลย แรกๆ เจ้าตัวดูท่าจะไม่ยอมปริปาก แต่เพื่อให้ทุกอย่างมันเคลียร์ ดีกว่าปล่อยให้คิดและสรุปกันเอง เธอจึงยอมเล่าให้ฟังทั้งหมด
“นิเพิ่งกลับมาคบกับพี่แจ็บจริงๆ วันที่ 12 มกราฯ เองนะ ตอนที่มีปัญหากันนิกับพี่แจ็บจะคุยกันตลอด เค้าก็บอกว่าอยากจะเริ่มต้นใหม่ แล้วเค้าก็เลิกกับคนนั้นไปแล้วและจะไม่เจ้าชู้แล้ว นิก็บอกพี่แจ็บไปว่า 3 เดือนนี้นิขอดูไปก่อนละกัน ถ้าพี่ไม่มีข่าวเรื่องผู้หญิงเลยก็ค่อยกว่ากันอีกทีนะ”
“เค้าก็ดีขึ้น จริงๆ นิกับพี่แจ็บก็คิดนะว่าสังคมจะมองยังไง ถ้าเรากลับมาคบกันอีก แต่นิคิดว่านิมองที่พี่แจ็บ ถามว่านิแคร์สังคมมั้ย…นิแคร์ เพราะเราก็ต้องอยู่ร่วมกับสังคม ไม่รู้สิ…เพื่อนบอกว่าถ้ามันจะเป็นคู่มันก็คงเป็นคู่มั้ง ชีวิตคู่มันขึ้นอยู่กับคนสองคน ก็ลองให้โอกาสเค้าดู”
อะไรที่ทำให้เราให้โอกาสเค้าอีกรอบ?
“เหตุผลเดียวที่กลับมา เพราะนิยังรักเค้าอยู่และเค้าก็ยังโอ.เค. เค้าก็บอกว่าจะทำให้ดีที่สุด อดีตก็คืออดีตเค้าไม่อยากให้พูดถึง จริงๆ แรกๆ นิไม่ยอมรับโทรศัพท์เค้าเลยนะ เพราะกลัวตัวเองใจอ่อน คนถามว่าทำไมถึงทน คำเดียวเลยคือนิยังรักพี่แจ็บอยู่ และมันเป็นคำเดียวที่ทำให้เรารู้สึกว่าเราให้อภัยเค้าได้ เค้าบอกว่าเค้า 31 แล้วแก่แล้วจะเลิกแล้ว กับผู้หญิงคนอื่นก็เลิกแล้ว แต่ 3 เดือนที่ผ่านมาก็โอ.เค.นะ ต่อจากนี้ไปนิก็ไม่มั่นใจว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น แต่นิจะพยายามทำให้ดีที่สุด เพราะปีนี้นิก็ 25 แล้ว”
ความมั่นใจในตัวแจ็บ ณ วันนี้มีมากน้อยแค่ไหน?
“ตอนแรกนิยังไม่มั่นใจ แต่ 3 เดือนที่ผ่านมา ถามว่ามันวัดถึงอนาคตจนวันที่เราแก่ตายได้มั้ย มันไม่ใช่หรอก ณ วันนี้นิมั่นใจเค้า ณ จุดนึง แต่จุดนั้นมันไม่ใช่เต็มร้อย แต่คนเรามันก็ต้องให้โอกาสกันใช่มั้ยคะ คนเรามันผิดพลาดกันได้หมด นิเองก็ไม่ใช่ว่านิดี ไม่รู้นะ นิว่าผู้หญิงเรามันไม่อยากเริ่มต้นอะไรใหม่ๆ กับใครบ่อยๆ หรอก”
“เราเจออะไรมาเยอะ แต่ถามว่านิรักเค้าด้วยความบริสุทธิ์ใจมั้ย ยังรักอยู่ ไม่งั้นคงไม่ตัดสินใจกลับมาคบกันหรอก ไม่อยากหลอกตัวเอง…ไม่เอาแล้ว เพราะนิรู้อยู่แล้วการเดินมาอย่างนี้ คนมองแล้ว นิก็คิดนะว่าจะต้องเจอคำถามจากสังคมว่า สรุปที่ผ่านมามันยังไงโดนแบบนั้นแล้วยังไง แต่คนเรามันนานาจิตตัง ห้ามความคิดกันไม่ได้”
ไม่กลัวเค้าทำกับเรา เหมือนที่เคยทำเหรอ?
“นิไม่กลัวนะ เพราะนิเชื่อคำสาบาน นิให้เค้าสาบานว่าห้ามยุ่งกับผู้หญิงคนอื่นห้ามแม้แต่จะคิด และก็ห้ามทำร้ายนิ ถ้าทำร้ายนิอีกทีขอให้ครอบครัวไม่เจริญเลยนะ เค้าก็ยกมือไหว้สาบาน นิก็ถามตัวเองนะว่าไม่มีเค้าเราอยู่ได้มั้ย อยู่ได้แต่เราไม่มีความสุข”
พอกลับมาคบกันใหม่ ความรู้สึกมันเหมือนเดิมมั้ย?
“จริงๆ ตอนแรกนิกลัวมากเลยนะ กังวลเหมือนกันนะว่าเค้าจะมาหลอกเรามั้ย เค้าโดนใครทิ้งมาหรือเปล่าหรือเห็นเราเป็นกองขยะอะไรอย่างเงี๊ยะ บอกตรงๆ ว่าคิดมากๆ แล้วพอกลับมาคบกันมันก็เหมือนมีระแวงกันใช่มะ ไม่รู้นะ แต่มันมีบางอารมณ์ที่เค้าทำได้แล้วนิไม่ อย่างเรื่องเก่าๆ พี่เค้าลืมได้ เค้าจะบอกตลอดว่าลืมได้แล้วนะ อย่าพูดถึงอีกถ้าพูดแล้วมันก็จะไม่จบ เค้าจะเป็นฝ่ายที่นิ่งกว่านิ ไม่รู้เค้าตัดไปได้ยังไง แต่ผู้หญิงมันก็ต้องมีคิดบ้าง”
ทางครอบครัวว่าไง?
“เมื่อกี้เพิ่งได้คุยกับอาอี้ อาอี้เพิ่งรู้ก็เลยมาหาเราที่บ้านมาแบบไม่รู้ตัว เพราะนิปิดผู้ใหญ่ทางบ้านไว้ เพราะท่านยังไม่ค่อยชอบใจเท่าไหร่ แต่ตอนนี้ก็โอ.เค.ท่านก็สอนว่าถ้าคบกันก็อยากให้ทำดีๆ อย่าให้มีปัญหากันอีก เรื่องเก่าก็อย่าไปคิดมัน เป็นอดีตก็ดีดมันทิ้งไปซะ ถ้าอยู่ด้วยกันแล้วแจ็บต้องดูแลน้อง เค้าก็เตือนหลายๆอย่าง และให้ช่วยกันเกิบเงิน ให้ช่วยกันสร้างอย่าช่วยกันทำลาย พี่แจ็บเค้าก็ให้สัญญาว่าจะทำตัวดีขึ้น นิก็เชื่อนะ เพราะเค้ารับปากกับผู้ใหญ่ขนาดนี้แล้ว”
“จริงๆ นิเครียดมากเลยเพราะให้เค้าสาบานไว้หลายที่ นินับถือคริสต์แต่นิเชื่อคำสาบานมากเลยนะ นิบอกเค้าว่าไม่ได้เชื่อคำพูดพี่แจ็บนะ แต่นิเชื่อคำสาบาน นิให้เค้าสาบานว่าที่เค้ากลับมาเพราะเค้าบริสุทธิ์ เค้าไม่ได้คิดร้ายกับนิ และก็บอกว่าตั้งต้นจริงๆ ไม่ใช่มาหลอกลวงหรืออะไร เค้าก็ทำตาม…ก็ดี”
ได้อะไรจากสิ่งที่ผ่านมาบ้าง?
“อย่างน้อยมันก็ทำให้นิกับพี่แจ็บโตขึ้น พี่แจ็บก็คงเข็ดแหละ นิก็เข็ด และได้คำว่าเพื่อนมากขึ้น เมื่อก่อนแม่พูดเสมอว่าให้แม่เกลียดยังดีกว่าให้คนอื่นรัก ก็คือแม่เกลียดยังไงก็ไม่ฆ่าลูก แต่คนที่เค้าบอกว่ารักเราๆ เค้าพร้อมที่จะทำร้ายเราตลอด เหตุการณ์ที่ผ่านมามันทำให้รู้ว่า เพื่อนคนไหนดีคนไหนไม่ดี นิได้เพื่อนกลับมาเยอะ”
คาดหวังกับอนาคตไว้ยังไงบ้าง?
“อนาคตนะ จริงๆ นิอยากให้เค้ารักกีฬาไปเรื่อยๆ อย่าไปรักอย่างอื่นนะ(หัวเราะ) ให้เค้าชอบกีฬาไปเถอะนิรู้สึกดี ส่วนเรื่องของอนาคตเรื่องของการแต่งงานนิไม่คิด นิอยากทำงานไปก่อนต้องช่วยกันเก็บตังค์ ทำงานมาได้เท่าไหร่ต้องให้นิหมดแต่ให้คุณแม่ได้(หัวเราะ) การแต่งงานมันเป็นพิธีๆ นึง แต่มันเป็นเครื่องยืนยันว่าเราจะไม่ทะเลาะกันมั้ย ก็ไม่ใช่ ”
ถามจริงๆว่าให้อภัยได้กี่ครั้ง?
“(คิดนาน) ไม่รู้สิ ตั้งแต่นิมีแฟนมา…ไม่เคยคิดใช้ชีวิตร่วมกับใคร มีพี่แจ็บคนเดียวที่นิจริงจัง อย่างตอนที่นิคบกับพี่พลพลก็ไม่คิดนะ”
มาถึงขนาดนี้ หากจะให้ฟังความข้างเดียวก็คงจะกระไรอยู่ เราเลยถือโอกาสนี้ให้หนุ่มแจ็บยืนยันให้ได้ฟังกันชัดๆ อีกทีจากปากของเค้าเองซิ ว่าความจริงมันเป็นยังไง?!...
“อยากลองคบกันอีกซักยก เพราะตั้งแต่ครั้งแรกก็คิดว่าจะจริงจังอยู่แล้ว แต่พอมันพลาดไปเราก็…มันอยู่ที่ความอดทนมากกว่า โอ.เค.ถ้าเกิดเราอยากใช้ชีวิตร่วมกับใครสักคน เราก็ควรจะต้องอดทน ผมเป็นคนง้อเค้าเอง(หัวเราะ) พอได้กลับไปอยู่กับตัวเอง มันก็ได้คิดว่าเออจริงๆ นิเค้าก็ดีนะ เค้าก็ดูแลเราได้หลายอย่าง แต่มันก็มีบางเรื่องที่ไม่ได้ดั่งใจ แต่ถ้าเราอดทนซักนิดนึงอนาคตมันน่าจะไปได้ดีกว่านี้”
ง้อนานมั้ย นิใจแข็งแค่ไหน?
“(หัวเราะ)จริงๆ ก็รักกันแหละครับ ก็เลยใช้เวลาง้อไม่มากแล้วตอนที่รักกันมันก็ดี แต่ตอนไม่เข้าใจกันมันนิดเดียวแค่ฟางเส้นเดียวครับ สิ่งที่ไม่ดีก็ไม่อยากพูดถึงมัน แต่สิ่งที่มันง่ายขึ้นคือเราได้รู้แล้วว่า เราต้องแก้ตรงไหนเปลี่ยนแปลงตรงไหนวันนี้เราต้องทำใจยอมรับมันให้ได้ ช่วงที่ห่างกันมันสอนเราเยอะ ได้กลับไปคิดถึงสิ่งดีๆที่เราเคยคบกันมา”
เหตุผลจริงๆ ที่อยากกลับมาคืออะไร?
“มันยังมีเยื่อใยอยู่ ส่วนนึงก็คือเค้าเป็นคนนึงที่เข้ามาในชีวิตแล้วเป็นคนดีมากๆ ก็ไม่อยากจะเสียเค้าไป เลยอยากลองอีกซักตั้งว่าพอกลับมาแล้ว เราจะไปด้วยกันได้มั้ย ใช้ช่วงเวลาศึกษากันไปด้วย ช่วงที่ห่างกัน บางครั้งอย่างเวลาไปเตะบอล นิเค้าเคยจัดกระเป๋าให้ ไปนั่งดูเรา เออ…มันก็มีบ้างที่คิดถึงแว้บเข้ามา”
“พอกลับมาอีกรอบเราก็พูดกันใหม่ อันไหนเราไม่ค่อยเข้าใจกันหรือมีอันไหนยังจูนไม่ตรงกันก็บอก มีการพูดคุยกันมีการทำสัญญาว่า ต่อไปนี้จะไม่ทำอย่างนั้นอย่างนี้นะก็มีเหมือนกัน(หัวเราะ) ข้อตกลงก็ชัดเจนขึ้นและมีการคุยกับผู้ใหญ่ทางนิด้วย ต่อไปนี้ถ้ามีอะไรจะปรึกษาผู้ใหญ่ก่อน ถ้ามีอะไรที่คุยกันไม่รู้เรื่องก็จะให้ผู้ใหญ่มาเคลียร์”
ตัวเราเองให้ความมั่นใจกับครอบครัวนิยังไงบ้าง?
“เต็มร้อยครับ คืออดทนเต็มที่เพราะตั้งใจกลับมาคบกันอีกรอบ ก็ต้องให้ใจกับเค้าเต็มร้อย ตอนนี้ก็เอาเค้าไปไหนมาไหนด้วย ไม่ได้ปกปิดอะไรก็รู้กันหมดแล้ว ก็มีไปสาบานมาครับ(หัวเราะ) สิ่งที่เค้าชอบให้เราทำหรือทำแล้วเค้าสบายใจเราก็ทำให้ได้ เป็นการสาบานกันเองครับ แต่จริงจังนะครับ เพราะแจ็บกลัวมากเรื่องสาบาน(หัวเราะ)”
แล้วเรื่องทำร้ายร่างกายล่ะ ทำให้เค้ามั่นใจมากน้อยแค่ไหน?
“โอ้โห!จริงๆ เรื่องตรงนี้มัน…ไม่พูดดีกว่า(หัวเราะ) จริงๆ ครั้งนี้ผมคาดหวังว่าจะทำให้ดีที่สุด และคาดหวังว่าอยากแต่งงานมีครอบครัวด้วยกัน ก็หวังถึงขนาดนั้นแต่มันยังบอกไม่ได้ว่าอนาคตจะเป็นยังไง แต่ถามว่าคนนี้คือคนที่เราจะแต่งงานด้วยมั้ย ก็ใช่ครับ แต่ตอนนี้ให้พูดถึงขนาดแต่งเลยคงไม่ได้ คงจะต้องสร้างเนื้อสร้างตัวกันไป และใช้ช่วงเวลาที่กลับมาดูว่าทุกอย่างจะดีขึ้นหรือเปล่า”
กลับมาคบกันแบบนี้คนต้องจับตามอง มันจะทำให้เรากดดันมั้ย?
“ไม่กดดัน คิดว่าเราทำให้ดีที่สุดแล้วกัน ตั้งใจเต็มที่คิดว่าไม่น่ามีปัญหาอะไร ชีวิตช่วงนี้ก็แฮปปี้ดีไปไหนก็เอาเค้าไปด้วยปกติ กับเพื่อนๆ ก็มีงงๆ เหมือนกัน เอ๊ะ!สรุปเอาไงเนี่ย แต่เพื่อนกันถ้าคิดจะคบกันมันก็ต้องรับแฟนเราด้วย มันก็เลยไม่มีอะไรหนักใจ”