ทั้งๆที่ไม่ได้คาดหวังว่าจะมันฮาแจ่มแจ๋วได้ดีเท่ากับ The Mask ภาคแรกที่เคยได้พี่ใหญ่อย่าง จิม แคร์รี่ สร้างสรรค์ทําเอาไว้อย่างน่าสนใจ แต่ก็อดเสียดายไม่ได้เพราะหลังจากที่ลองปรึกษากับหลายคนที่มานั่งชมด้วยกันจนได้ข้อสรุป และเหมือนจะดูใจร้ายไปซักหน่อยที่ต้องกล่าวว่า การกลับมาของหนังแนวคอมเมดี้แฟนตาซีอย่าง Son of the Mask ไร้ซึ่งอารมณ์ขันอย่างแรง
เมื่อดาราหนุ่ม เจมี่ เคเนดี้ ซึ่งเคยฝากผลงานผ่านจอหนังในเรื่อง Scream ทั้งสามภาคมาถูกแย่งรัศมีแจ้งเกิดจากความน่ารักน่าหยิกของหนูน้อยทายาทหน้ากากเทวดา อัลวิน และหมาน้อยจอมกวน โอทิส...
มันจะไม่ให้เป็นอย่างนั้นได้ยังไง เพราะเรื่องทั้งเรื่องเหมือนจะตั้งใจขายความน่ารักแสนทะเล้น ของหนูน้อยวัยเบบี๋ บวกกับเทคนิคซีจีที่เป็นจุดเด่นเสริมสร้างความร้ายกาจแบบใสซื่อเพิ่มเข้าไปอีก เลยทําให้อดสงสารหนุ่มเจมี่ ที่เกือบจะได้โอกาสเป็นดาวตามรุ่นพี่ จิม แคร์รี่ แล้วแท้ๆ แต่ดันมาแพ้หนูน้อยและสุนัขจอมกวนที่ใช้ท่าทางแสนรู้คาบซีนเด่นไปต่อหน้าต่อตา
เรื่องราวก็ไม่หวือหวาตามประสาหนังขายนักแสดงและความสามารถของคอมพิวเตอร์กราฟิค โดยอาศัยหน้ากากอันเดิมและภารกิจตามทวงคืนของ โลกี เทพขี้หงุดหงิดตัวร้ายประจําภาคต่อผู้ซึ่งเป็นเจ้าของดั้งเดิมของหน้ากากเทวดา ถูกสั่งให้มาเก็บกวาดความปั่นป่วนของหน้ากากและปะทะกับลีลายียวนของหนูน้อยบวกความซุกซนของสุนัขขี้อิจฉา จนไล่ตามกันไปไล่ตามกันมาพาไปถึงตอนจบแบบแฮปปี้เอนดิ้ง
ไม่ใช่ว่าจะใจแข็งหรือเส้นลึก แต่มันยากที่จะอ้าปากขํากับมุกฝรั่งพูดมาก และออกจะขาดหายความกวนแบบทะลึ่งกึ่งสยิวเล็กๆซึ่ง จิม แคร์รี่ นําเสนอได้ดีมาก ที่พูดแบบนี้ไม่ใช่จะยกยอเดอะมาส์คคนเก่า แล้วมาต่อว่านาย เจมี่ ดารานําเดอะมาส์คภาคสองกันขนาดนั้น
แต่ใจจริงอยากให้ดูที่บุคลิคของเจ้าตัว และคาแร็กเตอร์หลังจากสวมใส่หน้ากากเป็นเดอะมาส์ค จนดูแล้วเหมือนจะไม่เต็มที่อย่างที่มันควรจะเป็น น้ำหนักความฮาจากมุกขยันพูดก็ดูด้อยไปหน่อย แต่ยังไงก็ได้เห็นความพยายามและคงต้องให้หนุ่ม เจมี่ พิสูจน์ตัวเองกันใหม่ในบทที่เหมาะสมกว่านี้จะดีกว่า
สําหรับความประทับใจจากหนังซึ่งดูได้ไม่มีพิษไม่มีภัยเรื่องนี้ ก็มีพอหอมปากหอมคอและน่าจะเหมาะกับการไปดูเป็นครอบครัว ชวนน้อง อุ้มลูก หรือจูงหลานเข้าไปนั่งดูด้วยก็ดูจะคุ้มกว่าการไปดูแบบคาดหวังความฮาตามลําพังหรือไปกับบรรดาหมู่เพื่อนพ้อง
ถ้าชอบอะไรน่ารักๆ หรือคลั่งน้องหมาอยู่เป็นทุนเดิม น่าจะสบายใจที่ได้เข้าไปนั่งพักสมองผ่อนคลายอารมณ์ในการชมหนังเรื่องนี้ ซึ่งมีโปรแกรมเข้าฉายกันในวันพฤหัสที่ 17 มีนาคมนี้กันเลย
