อนาคตบริษัททำหนังของ "อาร์.เอส.ฟิล์ม" อยู่ในภาวะขาดทุนย่อยยับ แต่ละเรื่องที่เข้าโรงฉายตัวเลขรายได้น่าหดหู่ ทั้ง "ทวารยังหวานอยู่" และ "ซาไกยูไนเต็ด" ฟันไปได้เพียงไม่กี่สิบล้าน จนเกิดกระแสหนาหูว่าอนาคตของอาร์เอสอยู่ในอาการโคม่าอาจถึงขั้นต้องยุบทิ้ง
ในเรื่องนี้ "ราเชนทร์ ลิ้มตระกูล" ผู้กุมบังเหียนดูแลสายภาพยนตร์ในเครืออาร์เอสฯทั้งหมด ได้เปิดเผยถึงความหวังที่เหลืออยู่ว่าคงต้องวัดดวงที่ "จอมขมังเวทย์" ส่วนกรณียุบบริษัทหรือเปล่านั้นคงต้องรอดูไปก่อน
“ธุรกิจหนังตอนนี้พวกเราก็รู้กันอยู่หนังเรื่องจอมขมังเวทย์เป็นความหวังของอาร์เอสในตอนนี้ ถ้ารายได้ดีธุรกิจก็เดินได้อยู่แล้ว แต่เรื่องที่อาร์เอสจะยุบบริษัททำหนังนั้นถ้ายุบพี่คงรู้เป็นคนแรกเพราะพี่ต้องตกงานเป็นคนแรก ถาม ณ ตอนนี้ก็คือยังไม่ทราบครับ”
“นโยบายของบริษัทตอนนี้คือบริษัททำหนังก็จะยังอยู่ แค่ตอนนี้อาร์เอสจะไม่ลงทุนทำหนังเรื่องใหม่ในปีนี้ จะเอาหนังที่มีอยู่ทยอยเคลียร์เข้าโรงฉายในปีนี้และปีหน้าให้หมดก่อน ก็จะมีเรื่องเดอะเมีย, อหิงสา, แรกบิน, ผีเสื้อสมุทร, Match Point, ไทยถีบ และ สามสิงห์ ชิง (ห)มาเกิด”
“ที่ผ่านมาที่หนังอาร์เอสไม่ประสบความสำเร็จมันอาจเป็นเพราะกระแสของหนังตอนนั้นยังไม่ได้ การพีอาร์ยังไม่ดีและอาจไปชนกับหนังฟอร์มใหญ่เรื่องอื่นพอดี ในปีนี้คงต้องดูกระแสอีกทีว่าได้รับการต้อนรับหรือเปล่า ต้องดูต่อว่าจะเป็นอย่างไง”
สำหรับข่าวลือที่ว่าอาร์เอสฯ อาจจะมีการรวมกับ "พระนครฟิล์ม" นั้นบอสใหญ่บอกว่าไม่น่าเป็นไปได้ ต่างคนต่างไม่จำเป็นต้องพึ่งเงินทุนกัน
“อาร์เอสกับทางพระนครฟิล์มมีสายสัมพันธ์ที่ดีระหว่างเฮียฮ้อกับเฮียจุ้ย (ธนพล ธนารุ่งโรจน์) คงช่วยเรื่องสื่อกันได้มากกว่าพระนครฟิล์มสามารถซื้อได้ในราคาถูก เรื่องเทกโอเวอร์บอกตรงๆ พระนครฟิล์มคงไม่จำเป็นต้องเอาเงินอาร์เอสมาทำหนัง ต่างคนก็ต่างลงทุนได้อยู่แล้ว ส่วนจะมีโปรเจ็กต์ร่วมกันไหมตอนนี้ยังไม่ทราบจริงๆ”
ข่าวลือที่มาพร้อมๆ กับบริษัทจะถูกปิด ไม่พ้นบอสใหญ่คนนี้จะชิ่งจากอาร์เอสฯ เพราะ "เสี่ยเจียง" (สมศักดิ์ เตชะรัตนประเสิรฐ) รอดูดอยู่ทั้งคน
“ตอนนี้ยังอยู่อาร์เอสไม่ได้ไปไหนและคงอยู่อีกนาน เพราะถ้าจะออกจากอาร์เอสคงบอกไม่ได้ว่าเมื่อไหร่อาจจะอยู่อาร์เอสไปอีก 5 ปีหรืออีกเมื่อไหร่ก็บอกไม่ได้ มีข่าวมาตลอดว่าจะไปจากอาร์เอสแต่ก็อยู่มาจนป่านนี้ คงจะอยู่อาร์เอสจนกว่าจะเคลียร์หนังที่มีอยู่ให้ออกฉายให้หมดและอาจจะอยู่ทำต่อก็ได้ ผมสบายๆ อยู่แล้วอยู่ที่ไหนก็ได้”
“อาร์เอสก็เปรียบเสมือนบ้านอยู่มา 15 ปีแล้ว ผมถือว่าเป็นเรื่องธรรมดานะที่จะมีการเข้า-ออก และถึงใครจะออกอาร์เอสก็คงไม่เดือดร้อนก็คงยังอยู่ได้ แต่ที่เป็นข่าวขึ้นมาเพราะเวลาที่ผมคุยกับใครก็จะเป็นข่าวหมด เคยได้ยินไหมว่าผมจะไปเมเจอร์ ,แกรมมี่,สหมงคลฯ เวลาไปคุยกับผู้ใหญ่ก็อ่ะเป็นข่าว ทางเสี่ยเจี่ยงเองเค้าก็ไม่ได้ชวน เค้าเป็นผู้ใหญ่แล้วคงไม่ทำอะไรแบบนี้”