กลายเป็นเรื่องที่ทำเอาครูเพลงลูกทุ่งทั้งหลายต้องออกมาสวดยับทีเดียว กรณีการถ่ายภาพเปลือยอกของนักร้องลูกทุ่งวัย 36 "เอ กุสุมา มณีกาญจน์" เพื่อเตรียมที่จะนำภาพดังกล่าวแทรกเข้าไปกับปกเทปและซีดีงานเพลงชุดใหม่ของตนเองที่กำลังจะออกมา
ในขณะที่หลายๆ คนต่างวิพากษ์วิจารณ์ถึงการกระทำของนักร้องลูกทุ่งสาวในครั้งนี้ว่าเป็นการทำลายภาพพจน์ของวงการเพลงลูกทุ่งซึ่งในระยะหลังๆ ค่อนข้างจะมีภาพที่ไม่ดีนัก ทั้งในเรื่องของเนื้อหาของเพลงที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าไม่ค่อยจะมีคุณค่า เช่นเดียวกับการแต่งตัวของนักร้องหญิงที่นับวันจะยิ่งน้อยชิ้นไม่รวมถึงท่าทางการร้องเพลงท่าเต้นที่ส่อเสียดไปในเรื่องอย่างว่า ทว่าทางฝ่ายนักร้องสาวที่กล้าโชว์เต้าของตนเองในครั้งนี้กลับมองว่าการกระทำของเธอไม่ใช่เรื่องที่ผิดแต่อย่างไรเลย
"หนูไม่ได้ไปว่าใคร หรือใครเสียหายภาพที่ลงก็เป็นภาพหนูทั้งหมด ไม่ได้เลียนแบบใครและไม่ได้ต้องการให้ใครทำตาม เนื้อหาเพลงที่ทำในอัลบั้มชุดใหม่ก็สร้างสรรค์ ไม่ขัดกับศีลธรรม หนูไม่ได้ทำลายวงการเพลงลูกทุ่ง อยากบอกแฟนเพลงว่ามิสิควีดีโอที่ทำออกมาเป็นเรื่องราวร้อยต่อกันเหมือนหนังเพราะหนูเดินทางไปถ่ายทำทั้งที่ต่างประเทศและในเมืองไทย โดยใช้เพลงเป็นตัวบอกเรื่องราว ไม่มีภาพโป๊ปรากฏในวีซีดี” (คม ชัด ลึก 9 มีนาคม 2548 หน้า 15)
สำหรับนักร้องสาวคนนี้ เธอเป็นสาวลูกครึ่งไทย-ญี่ปุ่น (พ่อญี่ปุ่น - แม่ไทย)เริ่มต้นเป็นนักร้องอาชีพตามร้านอาหาร-คาฟ่ตั้งแต่อายุ 12 มีผลงานเพลงชุดแรกออกมากับบริษัทเสียงสยามในขณะที่มีอายุ 13 ปีเท่านั้น ซึ่งแม้จะมีงานเพลงออกมาอย่างต่อเนื่อง ทว่าชื่อเสียงของเธอก็ไม่ได้ดังเปรี้ยงปร้างเป็นที่รู้จักกันในวงกว้างสักเท่าไหร่นัก
นอกจากนี้ด้วยความที่เป็นนักร้องหน้าตาดี แต่งตัวสไตล์ที่หวือหวาก็ทำให้มีข่าวลือว่าเธอเคยยืนอยู่ในสถานะของการเป็นเมียน้อยมาแล้ว แต่เจ้าตัวก็ปฏิเสธข่าวดังกล่าวไป โดยอัลบั้มชุดล่าสุดก่อนที่จะมีข่าวในครั้งนี้ของเธอก็คือ “เส้มผมบนหมอน" ซึ่งก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์เรื่องปกของอัลบั้มที่ว่ากันว่ามีแนวโน้มจะส่อไปในเรื่องอย่างว่าเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม หากย้อนกลับไปในอดีตแล้วจะเห็นได้ว่าไม่ใช่เพียงนักร้องลูกทุ่งสาวคนนี้เพียงคนเดียวอย่างแน่นอนที่เลือกวิธีการ "ขายเสียง" ด้วยการ "ขายหุ่น" ของตัวเองพ่วงไปด้วยเช่นนี้
ราวๆ ปี พ.ศ.2505 - 2507 เหล่าคณะของนักร้องเพลงลูกกรุงชื่อดัง อาทิ สุเทพ วงศ์กำแหง, ธานินทร์ อินทรเทพ,ทนงศักดิ์ ภักดีเทวา ที่เป็นที่รู้จักกันดีในชื่อของสุเทพโชว์ ก็เคยมีความคิดแปลกๆ ถอดผ้าถ่ายรูปเพื่อโปรโมตงานเพลงมาแล้วเช่นกัน
งานนี้ปรากฏว่าได้เป็นข่าวสมใจทว่าไม่รู้เป็นเพราะหุ่นของแต่ละคนไม่ถูกใจสาวๆ หรืออย่างไรไม่ทราบ ผลปรากฏว่าเสียงตอบรับจากงานเพลงชุดดังกล่าวไม่ดีเอาเสียเลย
นักร้องลูกทุ่งสาวอารมณ์ดีอย่างสาว "ฮาย อาภาพร นครสวรรค์" เอง รายนี้แม้จะไม่ได้แก้จริงๆ ทว่าเพราะชุดแนบสนิทกับลำตัวสีเนื้อที่เธอและหางเครื่องใส่ขึ้นโชว์เวลาออกคอนเสิร์ตก็ทำเอาหลายคนเกิดการเข้าใจผิดว่าเจ้าตัวไม่ได้นุ่งอะไรเลยและกลายเป็นข่าวขึ้นหน้าหนึ่งมาแล้ว โดยทางนักร้องสาวเองยืนยันว่าการสวมชุดดังกล่าวไม่ได้มีเจตนาที่จะให้ดูโป๊เปลือยหรือว่าต้องการโชว์เรือนร่างแต่อย่างไร
มาถึงร็อกเกอร์หนุ่มที่หลายคนมองว่าเขาทั้งเพี้ยนทั้งบ้า "พราย ปฐมพร ปฐมพร" หลังจากที่ออกอัลบั้ม "ไม่ได้มามือเปล่า" มาแล้วเจ้าตัวก็ออกปากว่าจะไม่ทำเพลงอีก แต่แล้วอัลบั้มที่ชื่อว่า "พราย" กับสังกัดรถไฟดนตรีของเขาก็ออกมาจนได้ และด้วยความที่เป็นตัวของตัวเองชนิดไม่ค่อยแคร์สังคมของเขานี้เอง ที่ทำให้เจ้าตัวออกปากว่าการทำงานเพลงชุดนี้ของเขาจะไม่มีการให้สัมภาษณ์ จะไม่มีมิวสิควิดีโอ จะมีอย่างเดียวก็คือการ(แก้ผ้า)ถ่ายรูปเพื่อทำโปสการ์ด
แม้จะไม่สามารถทำได้อย่างที่ตั้งใจไว้ทั้งหมด (เพราะต้นสังกัดไปเรียกนักข่าวมาสัมภาษณ์เขา) ทว่าที่หนุ่มพรายได้ทำอย่างหนึ่งก็คือการแก้ผ้าถ่ายรูป
ปัจจุบันมีนักร้องเพลงป็อปอีกหลายคนที่เข้าข่ายขายเทปพ่วงหุ่น แต่ที่เห็นกันชัดๆ ก็คือสี่สาว "เกิร์ลลี่ เบอร์รี่" ด้วยชุดเอวต่ำ เสื้อเอวลอยที่ใส่รวมไปถึงภาพในมิวสิกวิดีโอ แม้เด็กๆ เองจะดูออกว่างานนี้ต้นสังกัดอาร์เอสฯ คงจะไม่ได้ตั้งใจขายเสียงของพวกเธออย่างเดียวแน่นอน ทว่าพอนักข่าวสัมภาษณ์ทีไรเป็นต้องได้รับการปฏิเสธว่านอกจากเสียงเพลงแล้ว การสวมเสื้อผ้าด้วยแฟชั่นดังกล่าวรวมทั้งท่าเต้นของพวกเธอนั้นไม่ใช่จุดสำคัญที่พวกเธอต้องการจะนำเสนอเหมือนกับที่หลายๆ คนคิดแต่อย่างไร ซึ่งน่าสนใจทีเดียวว่าถ้าพวกเธอ 4 คนไม่แต่งตัวแบบนั้นแล้ว งานเพลงของ 4 สาว เกิร์ลลี่ เบอร์รี่จะได้รับการตอบรับเท่าที่เป็นอยู่หรือเปล่า?
ตรงกันข้ามกับนักร้องสาว "อมิตตา ทาทายัง" ที่ไม่ปฏิเสธเลยว่าการโกอินเตอร์ของเธอนั้นจำเป็นอย่างมากที่จะต้องโชว์หุ่นเพื่อก่อให้เกิดแรงดึงดูดทางเพศซึ่งจะเป็นจุดขายสำคัญ และหลังจากที่อัลบั้ม "I Believe" ของเธอวางแผงไป นับตั้งแต่นั้นมาสาวมั่นก็ตั้งหน้าตั้งตา "โชว์" ตลอด ไม่ว่าจะเป็นการตั้งใจเปิดก้น(สวมชุดป้องกันไว้แล้ว)เวลาขึ้นคอนเสิร์ตเพื่อที่ว่าบรรดาช่างภาพจะได้ไม่ต้องลำบากที่จะถ่ายภาพหวือ หรือแม้กระทั่งช่วงบนที่ดูเหมือนว่าเจ้าตัวจะภูมิใจเหลือเกินที่นับวันๆ จะยิ่งตู้มขึ้นเรื่อยๆ
ถอดแบบไม่มีเหลือเลยก็คือหนุ่ม "โอ๊ต สุรชัย" อดีตนักร้องนำวง "เฟมัส" ซึ่งเจ้าตัวก็ยอมรับอย่างไม่มีปฏิเสธเช่นกันว่า สาเหตุที่ทำให้เขาต้องถ่ายนู้ดล่อนจ้อนกระชากใจสาวๆ รวมทั้งชาวเพศที่สามนั้นก็เพื่อทำให้คนรู้จักและจำเขาได้ซึ่งจะเป็นการกระตุ้นยอดขายอัลบั้ม “OATOMETIC”(โอ๊ตโตเมติก) ที่ทำกับค่าย บางกอกโซไซตี้ (b-so) ไปในตัวด้วยนั่นเอง
"ผมคิดว่าคนเรามีความสามารถที่แตกต่างกันไป อย่างผมเนี่ยผมคิดว่าผมทำมันออกมาก็ถือว่าดีด้วย และอีกอย่างทางค่ายก็มีส่วนที่จะให้คนจำเราได้ในจุดนี้ ซึ่งผมก็ว่ามันเป็นการแสดงออกมาอย่างชัดเจนและเป็นความแปลกใหม่ในวงการก็น่าจะทำให้เกิดความสนใจได้"
"ใคร ๆ ก็อยากรวยกันทั้งนั้นแหละครับ ผมก็อยากรวย และผมก็ไม่คิดว่าผมจะรวยได้เพราะการถ่ายโป๊แต่นี่มันคือกลยุทธ์ทางการตลาด..." นักร้องหนุ่มให้เหตุผลในการกระทำของตนเอง ซึ่งก็คงจะเป็นคำตอบที่เป็นบทสรุปถึงเหตุผลของการ "ขายเทป" ที่ต้อง "ขายตัว" ไปพร้อมๆ กันได้เป็นอย่างดี