xs
xsm
sm
md
lg

"เอ อนันต์" ยันกรณีจับกะเทยไถนาแทนควายก็แค่มุกตลก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


"เอ อนันต์" แจงหนังแผ่น "มิสควีน 2" เอากะเทยมาไถนาแทนควายพิสูจน์ความรักก็แค่มุกตลก ยืนยันหนังไม่ได้มีเจตนาดูถูกดูหมิ่นแต่เป็นการทำให้คนดูหนังเข้าใจเพศที่สามมากขึ้น เผยผู้กำกับก็เป็นเกย์ย่อมเข้าใจหัวอกกันดีอยู่แล้ว

เป็นข่าวให้ฮือฮากันอีกแล้ว จากกรณีองค์กรของชาวเพศที่สาม หรือกลุ่ม "บางกอกเรนโบว์" ได้ออกมาประท้วงพร้อมทั้งหนังสือประณาม "บริษัท อาร์เอสฯ" ในฐานะผู้ผลิตภาพยนตร์เทเลมูฟวี่เรื่อง "มิสควีน ภาค 2" โดยระบุว่าเนื้อหาของหนังแผ่นดังกล่าวบางตอนมีการดูถูกเหยียดหยามเพศที่ 3 อย่างรุนแรง
ด้วยการสื่อให้เห็นว่า เป็นพวกที่ทุ่มเทความรักแบบไร้ความคิด ถึงขั้นยอมให้ผู้ชายกดขี่ข่มเหงใช้ "ไถนา" แทน "ควาย" ซึ่งเป็นสัตว์ที่มีความหมายบ่งบอกถึงความ "โง่เง่า" ไม่มีสมองราวกับจะเป็นการตอกย้ำภาพลักษณ์เดิมที่เป็นอยู่ในสายตาคนทั่วไปให้ยิ่งชัดเจนเข้าไปอีก

เกิดเรื่องวุ่นๆ ขึ้น แต่ทั้งผู้ผลิต "อาร์เอสฯ" และผู้จำหน่าย "แมงป่อง" ยังไม่มีใครออกมาพูดถึงเรื่องนี้แต่อย่างไร คงมีแต่นักแสดงรุ่นใหญ่ "เอ อนันต์ บุนนาค" หนึ่งในนักแสดงนำของเรื่องที่สวมบทบาทเป็นสาวประเภทสอง ที่ได้เปิดใจกับทางผู้สื่อข่าวบันเทิงออนไลน์ว่า กับเรื่องที่เกิดขึ้นว่าตนเองรู้สึกตลกมากกว่า รวมทั้งยังรู้สึกว่าเป็นเรื่องที่ไร้สาระสุดๆ และไม่เข้าใจถึงเจตนาของการออกมาเรียกร้องสิทธิขององค์ดังกล่าวด้วยว่าต้องการอะไรกันแน่

"เราไม่รู้ว่าไปโดนอะไรเขาหรือเปล่า สิ่งที่นำเสนอมันไม่ได้เลวร้ายอะไรเลย ภาพที่ออกมาเป็นความบันเทิง ผมดูว่าพวกเขาน่ารักมากกว่า มีอะไรพิเศษในตัวเขาที่คนอื่นไม่มี ตลกดีไม่เคยมองไปในด้านลบ แต่เขากลับมองว่าตัวเองเป็นแบบนั้น ก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน"

"ผู้กำกับเรื่องนี้ คุณต้น ชานนท์ เขาก็เป็นเกย์เหมือนกัน แล้วก็กำกับหนังแนวนี้มาแล้วหลายเรื่อง ภาคแรกออกมาก็ไม่เห็นจะเสียหายอะไร แต่ทำไมพอภาคสองถึงได้เกิดปัญหา ซึ่งข่าวที่ออกมาผมเองก็ยังไม่ได้อ่านเหมือนกันเพิ่งรู้ก็ตอนนี้ที่คุยโทรศัพท์กันนี่แหละ"

นักแสดงรุ่นใหญ่ระบุต่อไปด้วยว่าสำหรับฉากที่เป็นปัญหาดังกล่าวนั้นเป็นฉากที่แสดงโดยตลกรุ่นใหญ่ "เทพ โพธิ์งาม" ในบทของกะเทยคนหนึ่งที่ไปชอบผู้ชายซึ่งมีอาชีพทำนา ก็เลยโดนผู้ชายคนนั้นแกล้งด้วยการใช้ให้ไถนาแทนควายเพื่อเป็นการพิสูจน์ความรักเสียเลย

"เป็นฉากที่พี่เทพไปชอบผู้ชายคนหนึ่ง ในเรื่องเขาชื่อขวัญ ก็ไปเทียวไล้เทียวขื่ออยู่เป็นประจำ ซึ่งผู้ชายคนนี้ก็มีมีอาชีพทำไร่ไถนาตามประสาคนต่างจังหวัด พี่เทพก็ประมาณว่าทำตัวเป็นเรียมให้คอยส่งข้าวส่งน้ำ แล้วก็ชอบผู้ชายคนนี้มาก"

"สุดท้ายก็โดนแกล้งโดยการที่ผู้ชายคนนั้นมาท้าว่า ถ้ารักเขาจริงก็ต้องยอมทำได้ทุกอย่าง ด้วยความรักก็เลยยอม ผู้ชายก็เลยเอาไม้ที่สำหรับไว้บนหลังควายมาไว้บนหลังพี่เทพแล้วให้ไถนาแทนควาย จากนั้นก็มีการโปรยข้าว คือเป็นมุกที่พี่เทพเขาเล่นเองไม่ได้ต้องการทำให้องค์กรของพวกเขาเสื่อมเสียอะไร"

ยืนยันการหยิบยกความรักของเพศที่สาม ที่ทุ่มเทให้กับชายคนรักถึงขนาดที่ยอมไถนาแทนได้นั้นไม่ได้รุนแรงอะไร แถมหนังที่ทำออกมาโดยรวมก็มีเนื้อหาที่ทำให้สังคมเข้าใจคนเหล่านี้มากขึ้นด้วยซ้ำ

"ส่วนตัวผมว่ามันก็ไม่ได้ดูรุนแรง ผมว่าเขาคิดมากไป บางมุมเป็นการสื่อให้เห็นถึงความรักที่บางครั้งต้องมีการพิสูจน์ใจกัน และต้องทุ่มเทเพื่อคนที่รักเราพร้อมที่จะทำทุกอย่างตรงนี้มันน่าดู พี่เทพเองเขาก็เล่นด้วยความสนุกสนาน มาบอกว่าเป็นควายมันเยอะไป คิดมากไป บทไม่ได้ต้องการสื่อแบบนั้น"

"คือก่อนที่จะรับเล่นหนังเรื่องนี้ผมก็ดูบทแล้วมันก็สนุกดี ที่สำคัญพี่ต้นผู้กำกับเราก็เคยร่วมงานกันมาหลายเรื่องเขาก็เป็นเกย์กำกับมาหลายเรื่องแล้ว ตอนท้ายของหนังมันจะมีสรุปไว้ ผมว่ามันทำให้คนในสังคมเข้าใจคนพวกนี้มากขึ้นด้วยซ้ำ เราไม่ได้อยากทำให้ใครเดือดร้อนแล้วผมก็ไม่ใช่คนที่ชอบดูถูกคนอื่นด้วย นักแสดงทุกคนก็ไม่ได้คิดแบบนั้นมันเป็นเรื่องของความสนุกและความน่ารักมากกว่า"

เนื้อหาต่างๆ เป็นเรื่องที่เคยนำมาสร้างเป็นละคร เป็นหนังมาแล้วหลายครั้ง ประกอบกับส่วนหนึ่งก็เป็นประสบการณ์ชีวิตของผู้กำกับ "ต้น ชานนท์" ที่นำมาถ่ายทอดไว้ เลยมองไม่เห็นความจำเป็นที่จะต้องไปขออนุญาตใคร

"ไม่รู้ว้าต้องไปขออนุญาตใคร ส่วนตัวผมเห็นว่าไม่จำเป็นเพราะก็เคยมีคนนำเรื่องพวกนี้มาทำเป็นหนัง เป็นละครแล้วหลายครั้ง เป็นเรื่องของผู้กำกับซึ่งบางฉากก็เป็นประสบการณ์ของเขาที่นำมาใส่ไว้ในหนังเพื่อความเพลิดเพลิน ผมก็เลยมองไม่เห็นว่าต้องไปปรึกษาหรือของอนุญาตใคร แล้วเขาก็เป็นแบบนั้นเชื่อว่าคงไม่ได้มีเจตนาทำร้ายใครเพราะมันก็หมายถึงการทำลายชื่อเสียงตัวเองด้วย"

"เขาออกมาเรียกร้องเพื่ออะไรตลกดี ที่ทำลงไปไม่ได้ต้องการลบหลู่หรือมีเจตนาทำให้เพศที่สามเสื่อมเสียเพราะเขาก็คนเหมือนกัน ผมอยากให้ลองไปซื้อมาดูก่อน แต่ถ้าเขาจะออกโรงมาต่อต้านก็เรื่องของเขา ผมมองพวกเขาเป็นคนธรรมดาคนหนึ่งมีสิทธิ์ที่จะมีความรัก และใช้ชีวิตเหมือนอย่างคนปกติหนังสนุก เหมือนละครเรื่องนึงที่ปกติพวกนี้ก็มีการประกวด ประชันกันอยู่แล้ว"

"ซึ่งหนังมันก็ถ่ายทำออกมาตั้งนานแล้วทั้งภาค 1 ภาค 2 แต่เพิ่งจะได้วางแผงไม่นานนี้เอง"
กำลังโหลดความคิดเห็น