ตามง้อแฟนสาวนอกวงการที่คบหากันมานานหลายปีไม่สำเร็จ นักแสดงหนุ่มผิวสีเข้ม "ทีน สราวุธ" เลยอยู่ในช่วงกำลังทำใจ พอได้มาเล่นหนังคอมเมดี้ " หลวงพี่เท่ง " คู่กับนางเอกสาวหน้าตาจิ้มลิ้ม "พิ้งค์กี้ สาวิกา ไชยเดช" หัวใจชักเริ่มคึกคัก ลองของดูอีกสักครั้งเผื่อฟลุ้คได้สาวเจ้ามาช่วยรักษาแผลใจทื่แสนบอบช้ำ
“ง้อกันอยู่พักนึงเอาเป็นว่าผมเป็นคนพูดจาอะไรง่ายๆ บอกไปว่าอะไรเป็นยังไง ถ้าส่งไปแล้วเขาไม่รับก็เคลียร์ เคลียร์ว่าก็เป็นเพียงแค่คนรู้จักกัน เป็นแค่เพื่อนกันช่างมันเถอะอาจจะไม่สนิทใจแล้วแต่ คนเรามีทางเดิน คนละทางสองทาง ทางใครทางมันอยู่แล้วพูดทีไรกูเศร้าทุกทีเลย มันยังอยู่ในช่วงที่แบบว่าใครยังมาสะกิดไม่ได้"
ความเศร้ายังไม่ทันจางหายก็มีข่าวว่าเจ้าตัวหันไปคั่วกับนักแสดงรุ่นน้องซะแล้ว เรื่องนี้จริงหรือเปล่าต้องลองฟังดู
"เมื่อวันก่อนไป 07 โชว์ มาก็คุยกับพิ้งค์กี้ว่า พิ้งค์กี้เราเป็นแฟนกันเมื่อไหร่เนียะ ยังไม่รู้ตัวเลย ก็งงเหมือนกัน น้องเขาจริงเหรอพี่ คู่อื่นเขาเป็นข่าวกันแล้วดังดีเราลองเป็นข่าวกันดูบ้างมั้ย คือคุยกันขำๆ มีคนมาถามเหมือนกันว่าทำไมทำอย่างนี้เพิ่งเลิกกับแฟนมาไม่ใช่เหรอ"
"เราไม่อยากแก้ตัวเยอะ พูดไปก็น้ำลายเหนียวคอ นิ่งๆ ดีกว่า พูดไปก็มากความมันจะจริงหรือเปล่า มันจะใช่หรือเปล่าคนเราไม่มีหรอก หรือมันจะไม่แน่ ไม่รู้ไม่ได้คุยกับน้องเขาถ้ามันจะคบกันเดี๋ยวก็เห็นเองแหละ เดี๋ยวก็เปิดตัวเองแหละ บางครั้งอาจจะเป็นแค่ข้อสงสัยว่ามันจริงหรือเปล่า "
งานนี้มีสิทธิ์ลุ้น เพราะ "หนุ่มทีน " จีบลูกสาว ต้องเข้าทางแม่ ตอนนี้เลยสนิท ซี้ปึ๊กกับคุณแม่ "น้องพิ้งค์กี้" ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
"เฮ้ยไม่มี ลุ้นอะไร ลุ้นทำไม ไม่จำเป็นต้องลุ้น ไม่ต้องลุ้นเลยลุ้นอะไร มันไม่มีสิทธิ์อยู่แล้ว เพียงแค่แบบว่าเราเหมาะกับการเป็นพี่ชายมากกว่า ได้คุยกันหลายเรื่องคุณแม่ก็สนิทกับเรา จะรู้ว่าเราเป็นคนยังไงเพราะฉะนั้นเวลาเรากะลิ้มกะเหลี่ยกะลูกเขา เขาก็จะรู้ว่ามันไม่มีอะไร"
ออกปากชมเปาะ "พิ้งค์กี้" นิสัยดี น่ารัก พร้อมเล่นมุกได้เป็นแฟนก็คงดี
"ก็เป็นคนน่ารัก (หันไปเรียกพิ้งค์กี้ก่อนจะส่งจุ๊บให้ทีนึง) เห็นมั้ย เป็นแฟนกันไม่ได้หรือเปล่าไม่ได้ซีเรียสอะไร ทำไมให้คนงงว่าจริงเหรอ บ้ามาหาว่าเราเป็นแฟนกัน ถ้าได้ก็ดีซิ ทำไมคนที่เล่นหนัง ละครด้วยกันเป็นข่าวมาแรงกว่าผมอีกก็เป็นข่าวไม่รู้ซิ ไม่ได้คิดมาก"
"มีคนบอกเหมือนกันว่าคุยกันหวานแหววในกองถ่าย เราก็บอกว่านางเอกในกองถ่ายก็มีอยู่คนเดียว นอกนั้นก็มีแฟนพี่โน้ต มีแม่พิ้งค์กี้ มีแฟนพี่ๆ ตลก แล้วเราจะไปคุยกับใครเราก็ต้องคุยกับพิ้งค์กี้ คุยไปคุยมาก็เป็นข่าวเลยว่าเป็นแฟนกันผมก็เลยมาถามตัวเองว่านี่เราจะไม่มีสิทธิ์คุยกับผู้หญิงเลยใช่มั้ย"
"มีบางคนบอกดูเหลาะแหละ ไม่น่าเป็นผู้นำครอบครัวได้เราก็แบบว่าอ้าว แล้วพวกที่เขาเล่นตลกกันไม่แย่ไปเลยเหรอ ดูอย่างอาโน้ตซิ คือเราพาดพิงกับเหตุการณ์ที่มันดูแล้วน่าสนใจ มีแฟนก็ตลกเฮฮาไป ทำหน้าที่ดูแลครอบครัวไป ล้มบ้าง เจริญบ้าง"
ภาพลักษณ์ดูเป็นคนเจ้าชู้จัด ทำให้ผู้หญิงหลายคนเลยไม่กล้าเข้าใกล้
"คำว่าเจ้าชู้ ผมว่าลิมิตของแต่ละคนที่มองคำนี้ผมว่ามันไม่เท่ากัน บางคนก็แบบว่าแค่ไปมองคนนั้น ไปยิ้มให้คนนี้ก็เจ้าชู้แล้วไปขอเบอร์ก็เจ้าชู้แล้ว นั่งติดกัน หอมแก้มกัน มีอะไรกันก็เจ้าชู้แล้ว ผมก็เลยอยากรู้ว่าไอ้คำว่าเจ้าชู้แต่ละคนมองมันในระดับไหน"
"ผมเห็นคนสวย คนน่ารักผมก็ยิ้ม บางครั้งรู้จักได้มันก็เป็นบุญของตัวเอง วันๆ ได้รู้จักแต่ผู้หญิงสวยๆ อันนี้พูดตามตรงในฐานนะเป็นผู้ชายคนหนึ่งนะถ้าถามว่าหลังจากนั้นมันมีการพูดคุย หรือมีการพาไปเที่ยวกันหรือเปล่า มีการจับมือคลอเคลียกันหรือเปล่า อันนั้นเราค่อยมาว่ากันอีกที"
ยังไม่ลืมความรักครั้งเก่า ผู้หญิงหลายคนซื้อตั๋วรอคิวมาช่วยรักษาแผลใจแต่ "หนุ่มทีน" ก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะอ้าแขนเปิดรับซักกะที
"ไม่ปิดบังมีคนเข้ามาคุย มีคนเข้ามาตีซี้ด้วย มีคนรู้ว่าเลิกกันแล้วก็เริ่มมีคนมาคุยกันมากขึ้น ผมก็จะบอกว่าบางครั้งผมก็อยากเปิดใจตัวเองที่จะรับอะไรใหม่ๆ แต่เพียงรู้สึกว่าพอจะเริ่มจริงๆ จังๆ มันก็มักเอามาเปรียบเทียบกับอะไรเก่าๆ"
"มันผิดตรงที่ผมยังเอาไปเปรียบเทียบกับความรู้สึกดีๆ ในสมัยก่อนอยู่ ไม่อยากพูดอย่างนั้นเพราะมันดูชัดเจนไป เป้าหมายจริงๆ ก็เป็นแบบนั้น มีคนมาถามว่าผู้หญิงที่เข้ามาเขาไม่ผิดทำไมเขาต้องมาเจออะไรแบบนี้ มันไม่ผิดหรอก ผิดที่เราเอง เรายังไม่เคลีร์ ทั้งที่ความจริงมันเคลียร์แล้ว แต่ความรู้สึกเรามันยังไม่ได้ อีกสักพักนึงมันก็ต้องมีการเปลี่ยนแปลงของมันไปเอง"
ที่ไม่เปิดรับเพราะรอลุ้น "พิ้งค์กี้"อยู่หรือเปล่าจ๊ะ
