นอกจากจะจากแกรมมี่ฯ มาอยู่กับอสมท.อย่างเป็นทางการแล้วหนุ่ม “ตุ้ย ธีรภัทร” ในฐานะของผอ.คลื่นวิทยุ 97.5 SEED ก็ยังฉกโปรดิวเซอร์มือดีของเอไทม์มาเสริมทีมอีกต่างหาก ทำเอาหลายคนมองกันว่างานนี้ระหว่างเจ้าตัวกับแกรมมี่คงจะจากกันมาไม่สวยอย่างแน่นอน...
“กับแกรมมี่ก็ยังเหมือนเดิมเราเป็นเหมือนพี่ ๆ น้อง ๆ กัน ผมไม่ได้มองเขาเป็นคู่แข่ง แต่เราได้พยายามเข้ามาเป็นสมาชิกชาววิทยุต่างหาก"
"เรื่องจะให้คอมเม้นท์อะไรเอไทม์ก็คงทำไม่ได้ เพราะผมเป็นสื่อคนหนึ่งแล้ว คงไม่กล้าไปวิจารณ์อะไรตรงนั้น บอกได้แค่ว่าไม่ได้มองเขาเป็นคู่แข่ง และเราก็พยายามที่จะใช้ภาษาของเราเล่าอะไรให้คนฟังฟัง ซึ่งภาษาของแต่ละที่ก็ไม่เหมือนกัน แต่ละที่จะมีการเล่าเรื่องเป็นของตัวเอง”
แม้จะบอกว่าไม่ใช่คู่แข่งกับเอไทม์ แต่ด้วยความที่เป็นคลื่นวิทยุที่มีกลุ่มเป้าหมายเป็นวัยรุ่นเหมือนกัน ยังไงซะตุ้ยก็ยังต้องแย่งฐานคนฟังกลุ่มเดียวกันกับเอไทม์อยู่ดี
“ผมมองเรื่องการแข่งขันเป็นมุมที่สนุก ที่ผ่านมาเคยคิดว่าวงการวิทยุเป็นอะไรที่แข่งขันและฟาดฟันกันมาก แต่ท้ายที่สุดมันก็เข้ามาอยู่ในสังคมของคนรักเพลง มันเป็นคลื่นวิทยุที่มีเรื่องของธุรกิจเข้ามาเกี่ยวพัน มันเป็นความหมายในเชิงธุรกิจ ถ้ามองในแง่ของผู้ผลิต แต่ไม่ใช่ว่าคนรักเสียงเพลงเหล่านั้นจะต้องมาเกลียดกัน ผมว่ามันเป็นคนในสังคมเดียวกัน รวมถึงผู้ฟังด้วย ดังนั้นผมจึงไม่หนักใจอะไร เพราะการแข่งขันเป็นสิ่งที่สนุก ที่ทุกคนอยากทำอะไรดีๆ ใหักับคนฟัง”
ส่วนข่าวที่ว่า แอบซื้อตัวมือดีของเอไทม์ไปร่วมงานด้วยนั้นตุ้ยบอกว่า….
“ก็เป็นคนรู้จักกัน เป็นทีมงานที่รักในเสียงเพลงเหมือนกัน เรียกว่าเป็นคนในครอบครัวใหญ่ที่รู้จักกันดีกว่า ซึ่งคนที่มาจากเอไทม์เป็นทีมโปรดิวเซอร์ชื่อตั้วกับแหลม แต่อย่าเรียกว่าซื้อตัวเขามาเลย เรียกว่าเรามีความสนใจร่วมกันตรงนี้ดีกว่า ในมุมของผมไม่ได้อยู่ตรงนี้ ส่วนเรื่องอื่นคงต้องไปถามทางผู้ใหญ่”
ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีกับการปรับเปลี่ยนช่อง 9 สู่ยุดโมเดิร์นไนน์ ทีวี บวกกับความต้องการของผอ.อสมท. "มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ" ที่จะดันธุรกิจวิทยุของอสมท.ให้ได้กำไรไม่ต่ำกว่า 15 - 20 เปอร์เซ็นต์ งานนี้ในฐานะของฟันเฟืองตัวหนึ่งหลายคนจึงอดที่จะจับตามองหนุ่มตุ้ยไม่ได้ว่าจะทำได้ดีสักแค่ไหน? อย่างไรก็ตามสำหรับเจ้าตัวแล้ว เขาบอกว่าไม่รู้สึกกดดันแต่อย่างไร เพราะสิ่งนั้นได้เปลี่ยนเป็นความท้าทายของตนเองไปเรียบร้อยแล้ว
“เรื่องกดดันมันมีอยู่ในทุกเหตุการณ์อยู่แล้ว แต่ผมคิดว่าความกดดันนี้จะกลายเป็นความท้าทายที่มีเสน่ห์ ถ้าทำงานไม่กดดันมากมันเหมือนกับทำงานไปเรื่อยๆ ไม่มีอะไร แต่ถ้ามีความกดดัน มันจะทำให้การทำงานมีสีสัน และอยากจะเริ่มต้นที่จะทำมันไป ผมว่าการทำงานตรงนี้มีเสน่ห์และท้าทายมากสำหรับผม”
“ณ วันนี้บอกได้เลยว่า ผมค่อนข้างมั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์ ที่เหลือคงเป็นหน้าที่ของคนฟังที่จะต้องตัดสิน ส่วนใครจะมองว่าผมเป็นมือใหม่มันก็แล้วแต่เค้า ใครอยากสบประมาทหรือพูดอะไรก็ได้เพราะผมไม่ได้บอกว่า เข้ามาทำงานตรงนี้เพื่อพิสูจน์อะไร ผมเป็นแค่คนคนหนึ่ง เป็นแค่เมล็ดพันธุ์เล็กๆ ที่มีทิศทางอยากอยู่บนพื้นฐานของดนตรีครับ”
ภาพแฟชั่นเท่ๆ ของตุ้ย ธีรภัทร พร้อมภาพเบื้องหลังการถ่ายทำ