xs
xsm
sm
md
lg

2046 : หว่องกาไวกับห้องแห่งความลับ

เผยแพร่:   โดย: ธีปนันท์ เพ็ชร์ศรี


2046 ชื่อหนังเรื่องล่าสุดของ หว่องกาไว - - ที่ในที่สุดก็เป็น “ตัวเลข” จริงๆ เสียที หลังจากที่เขาเล่นกับมันมาหลายครั้งแล้ว

ตัวเลขในหนังของหว่องแทนความหมายได้มากมาย ผมเคยชอบใจประโยคที่ 223 (ทาเคชิ ทาเนะชิโร) พูดไว้ในหนัง Chungking Express ซึ่งผมจำได้เลาๆ ว่า เขาเลิกกับแฟนสาวชื่อเมย์ในวันเอพริล ฟูล (1 เมษายน) เขาคิดว่าเธอคงล้อเล่น จึงคิดเล่นตลกกับตัวเองบ้าง ด้วยการซื้อสับปะรดกระป๋องที่จะหมดอายุภายในวันที่ 1 พฤษภาคม เหตุผลเพราะเธอชื่อ เมย์ (แปลว่า พฤษภาคม), เมย์ชอบกินสับปะรด และวันนี้เป็นวันเกิดของเขา

เขาคิดว่าถ้าทำอย่างนั้นแล้ว เธออาจเปลี่ยนใจกลับมารักกันอย่างเดิม แต่ถ้าไม่ เขาก็ซื้อสับปะรดสัก 30 กระป๋อง เมื่อล่วงเลยเข้าสู่วันถัดไป รักของเขาก็น่าจะหมดอายุอย่างนั้นบ้าง

หนังของหว่องกาไวส่วนใหญ่มักจะเป็นอย่างนี้ รายละเอียดบางอย่างดูเผินๆ แล้วก็ดูน่ารักน่าชังดี แต่ลงท้ายแล้วมันมักหนีไม่พ้นเป็นเรื่องเศร้า

หว่องอาจไม่ตั้งใจใช้ตัวเลขเพื่อแทนอะไรอย่างจริงจัง แต่โดยรวมๆ แล้ว มันหมายถึงวันเวลาที่ฝังใจ และล่วงเลย อีกทั้งตัวเลขโดยตัวของมันสื่อถึงความโดดเดี่ยวเปลี่ยวเหงา ในแง่นี้ Chungking Express ชัดเจนมาก เพราะแม้แต่ชื่อตัวละครก็ไม่ได้รับการเปิดเผย - เราได้ทราบเพียงรหัสและตัวเลข

ใน 2046 ก็มีอะไรทำนองนี้ ช่วงหนึ่งที่หนังเล่าถึงขบวนรถไฟปริศนาที่ตัวละครเอกใช้เดินทางไปหาความทรงจำอันสูญหาย มีคนบอกเล่าถึงรถขบวนนี้ว่าจะพักอยู่ตรงไหนก็ได้ แต่ตรงส่วนที่ 1224 - 1225 อุณหภูมิจะต่ำกว่าปกติ และผู้โดยสารก็จำต้องกอดกันแน่นๆ

โจวโม่หวัน (เหลียงเฉาเหว่ย) เจ้าของเรื่องเล่า บอกกับคนดูว่า 1224 และ 1225 นั้นไม่ต่างอะไรจากวันคริสต์มาส และพระเจ้าก็ไม่กำหนดให้มนุษย์เราอยู่อย่างเปล่าเปลี่ยวเดียวดายในช่วงนี้ เขาจึงตัดสินใจช่วยเหลือให้เด็กสาวคนหนึ่งพ้นทุกข์ (เฟย์ หว่อง) ทั้งๆ ที่ตัวเขาไม่อยู่ในฐานะที่จะทำแบบนั้นเลย

โจวมีความหลังหนักหนาอยู่ไม่น้อย เขาคงจะเป็นโจวคนเดียวกับที่เคยเป็นชู้รักของซูหลี่เจิน (จางมั่นอวี้) ใน In the Mood for Love และเจ็บปวดกับความสัมพันธ์หนนั้นจนเสียศูนย์ แม้ใน 2046 โจวจะพูดถึงการฝังความลับไว้ในโพรงต้นไม้และใช้โคลนอุดมันเสีย (ซึ่งฉากที่ว่านี้ปรากฏใน In the Mood for Love) แต่มันก็เป็นเพียงคำพูด เพราะเขาเองแม้จะทำแล้ว แต่ก็ยังละลืมอดีตไม่ได้

หมายเลข 2046 ในนิยายของโจวคือสถานที่แห่งหนึ่งที่ยังคงเก็บความทรงจำต่างๆ ไว้โดยไม่หมุนเปลี่ยนไปตามโลก เขาบอกว่าทุกคนเดินทางไปที่นั่น และไม่มีใครได้กลับมาอีก

โจวเองพยายามเดินทางไป 2046 ผ่านนิยายของเขา ภาพของซู่หลี่เจินลอยมาเป็นห้วงๆ ในความคิดคำนึง - เป็นการบอกอย่างตรงๆ ว่าเขายังลืมชู้รักเก่าไม่ได้ ตอนที่ได้เจอกับผู้หญิงคนนึ่งซึ่งมีชื่อว่าซู่หลี่เจินเหมือนกันนั้น (รับบทโดย กงลี่) เขาบอกกับเธอว่า “ถ้าคุณลืมอดีตได้เมื่อไหร่ ก็ออกตามหาผมนะ” แต่โจวก็เฉลยในอีกไม่กี่วินาทีถัดมาว่า เขาไม่ได้บอกประโยคนั้นกับเธอมากเท่ากับบอกแก่ตัวเอง

การจมปลักอยู่กับเรื่องที่ผ่านเลยไปแล้วของโจวไม่ได้ทำให้เขากลายเป็นคนร้ายกาจกับคนรอบข้างเท่ากับ หยกไจ๋ (ตัวละครของ เลสลี จาง ใน Days of Being Wild) ก็จริง แต่สิ่งที่เขาทำกับไป่หลิง (จางจืออี) นั้นก็เรียกเป็นความเมตตาไม่ได้อีกเหมือนกัน

โจวสอนให้ไป๋หลิงได้เรียนรู้กับความเจ็บปวด ทั้งที่เธอเป็นตัวละครเพียงตัวเดียวในหนังที่บริสุทธิ์และมีลังแห่งอดีตที่ยังว่างเปล่า การที่โจวก้าวเข้ามา (และเดินออกไป) ในชีวิตของเธอ ไม่เพียงจะทำให้ที่ว่างตรงนั้นเต็มขึ้นเท่านั้น แต่เธอจะเริ่มกลายเป็นคนพิการอย่างคนอื่นๆ เขาด้วยในที่สุด

อีกคนหนึ่งที่มีบทบาทสำคัญต่อความคิดของโจวคือสาวบาร์ชื่อ ลูลู่ (หลิวเจียหลิง) โจวพบเธอในบาร์แห่งหนึ่งแล้วเข้าไปทัก เพราะมั่นใจว่าเคยพบกันมาก่อนแล้ว เธอปฏิเสธลูกเดียวว่าไม่จริง หลังจากนั้นโจวก็ได้พบเธออีกในชื่อ มีมี่ - - เธอได้กลายเป็นคนใหม่ไปแล้ว

ลูลู่พูดประโยคที่เหมือนจะเป็นวิธีที่ทำให้เธอรับมือจากความเจ็บปวดของอดีตว่า “เธอเลือกที่จะปฏิเสธคำปฏิเสธ” กล่าวคือ ไม่ยอมรับว่าความปวดร้าวมีอยู่จริง ทันทีที่ร้องไห้ก็จะฝืนหน้ายิ้มขึ้นทันทีเหมือนกัน หลอกตัวเองอย่างแน่แน่วว่าไม่ใช่เรื่องร้ายแรงอะไร

หว่องกาไวประมวลเอาสิ่งที่เขาเคยพูดไว้ก่อนแล้วในงานชิ้นก่อนๆ มารวมในหนังเรื่องนี้ มีนักวิจารณ์หลายคนเคยพูดถึงภาวะ “ไร้อัตลักษณ์ที่แน่นอน” ของหว่องพร้อมกับยกเหตุผลเรื่องความแปลกแยกของตัวละครไปจนถึงวาระการมอบคืนเกาะฮ่องกงจากอังกฤษให้จีน - มาแล้วมากมายก่อนหน้านี้ และมันก็ยังใช้ได้กับ 2046

โจวมู่หวันไม่เคยหยุดเดินทาง เขาอาจไม่ใช่นกไร้ขาที่หยุดบินเมื่อไหร่ก็แสดงว่าตาย แต่โจวก็พยายามอย่างยิ่งยวดที่จะหาพื้นที่ส่วนตัวบางแห่ง (ที่ไม่รู้ว่ามีอยู่จริงหรือไม่) ที่ตัวเองอยู่แล้วมีความสุขที่สุด เขาอยู่ทั้งในฮ่องกง สิงคโปร์ แม้กระทั่งกัมพูชายังดั้นด้นไปแล้วอ้างว่า “หนังสือพิมพ์ส่งผมไป” รู้ทั้งรู้ว่ามันไม่ใช่ความมุ่งหมายหลัก

น้อยครั้งที่ตัวละครของหว่องกาไวจะได้พบพานกับความสมหวัง ว่ากันตามตรงคือมันเป็นเรื่องของคนผิดหวัง และไม่เคยสลัดสัมภาระนั้นลงจากหลังได้ มันเป็นความเศร้าสลดที่งดงาม ผมไม่เคยเห็นใครพูดประเด็นเดียวกันนี้ได้ดีเท่าหว่องอีกแล้ว

แม้จะไม่ใช่ความจำเป็นสูงสุด แต่การชม 2046 จะสมบูรณ์ยิ่งขึ้นถ้าได้เคยดูงานเก่าๆ ของหว่องกาไวมาก่อนแล้ว ความสนุกไม่ใช่แค่การมาจับโยงว่าหว่องเคยเล่าอะไรไว้ในหนังเรื่องไหนบ้างเท่านั้น ผมว่ามันช่วยในแง่ของการจับสาระสำคัญของหนังได้ชัดเจนมากขึ้นด้วย

อาจารย์มโนธรรม เทียมเทียบรัตน์ที่นับถือ เคยทำนายไว้ว่า 2046 เป็นจุดเปลี่ยนในชีวิตการทำงานของหว่องกาไว ต่อไปตัวละครของเขาคงจะไม่เจ็บปวดหรือเหงาพร่ำเพรื่อกันอีกต่อไปแล้ว ถือได้ว่าเป็นการสิ้นสุดภาวะนี้ของหว่องไปเสียที

ไม่รู้ว่าแกจะทายถูกหรือเปล่านะครับ แต่ผมก็หวังให้มันเป็นอย่างนั้น ไม่ใช่ว่าเบื่อแล้วหรือว่าสิ่งที่เห็นใน 2046 นั้นแผ่วไปแล้วนะครับ ตรงข้าม, 2046 ยังคงเต็มไปด้วยพลังการเล่าเรื่องที่สวยงามและอัดแน่น

คงจะดีไม่น้อยถ้ามันจะเป็นฟินาเล่ของเฟสแรกในชีวิตการทำงานของหว่องกาไว

*****

หมายเหตุ : เนื่องจากในเบื้องต้นผู้เขียนได้ระบุว่าวันเอพริล ฟูล คือวันที่ 30 เมษายนนั้น ทางผู้เขียนได้แก้ไขเป็นวันที่ถูกต้องคือ 1 เมษายนเรียบร้อยแล้ว / ขออภัยอย่างสูงในความผิดพลาดและขอบคุณทุกท่านที่ท้วงติงเข้ามา

กำลังโหลดความคิดเห็น