ว่ากันว่าหากจะดูว่านักแสดงคนไหนเริ่มมีชื่อเสียงโด่งดังเป็นที่รู้จักของคนทั่วไปแล้วหรือยังก็ให้สังเกตดูว่านักแสดงคนนั้นๆ ตกเป็นข่าวมากน้อยแค่ไหน โดยเฉพาะอย่างยิ่งข่าวที่มีการพาดหัวว่า "หยิ่ง...ยโส...โอหัง" ถ้ามีข่าวแบบนี้บ่อยๆ ก็แสดงว่าเริ่มมีชื่อเสียงแล้ว
เข้าทำนองที่เรียกกันว่า "ดังแล้วหยิ่ง"
ดังแล้วต้องหยิ่ง? ดังแล้วต้องเปลี่ยนไป(ในทางที่ไม่ดี)จริงๆ หรือ? หรือว่านิยามดังกล่าวเป็นเพียงความไม่พอใจของนักข่าวที่ตามตัวคนเหล่านี้ได้ยาก หรือว่าเป็นมุมมองของคนที่ต้องร่วมงานกับดาราเหล่านี้แล้วไม่ได้ดั่งใจก็เลยให้ข่าวให้ร้ายมันเสียเลย
ที่โดนหนาหูมากกว่าใครเพื่อนยกให้กับนางเอก "อั้ม พัชราภา ไชยเชื้อ" กับเรื่องวีนแตกและหน้าตาบูดบึ้ง มุกที่เจ้าตัวใช้เป็นประจำสำหรับบรรดาคนที่จะติดต่อกับเธอโดนก็คือ...โทรผิดแล้วค่ะ แล้วก็วางสายฉับ...โดยคนที่ใกล้ชิดกับดาราสาวคนนี้มาตั้งแต่เริ่มเข้าวงการใหม่ๆ จากการเป็นสาวแฮ็คส์ยืนยันว่าแต่ก่อนนั้นสาวอั้มเธอเป็นคนที่มือไม้อ่อนเป็นอย่างมากก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเป็นเพราะอะไรที่ทำให้เธอมีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปอย่างนี้
ส่วนสาวลูกครึ่ง "พอลล่า เทเลอร์" ขวัญใจหนุ่มๆ คนนี้ก็มีข่าวในทำนองนี้กับเขาเหมือนกันโดยเฉพาะข้อหาที่ว่าดังแล้วนาฬิกาเสียเป็นเหตุให้มาสายเป็นประจำ อีกเรื่องที่เป็นประเด็นฮ็อตฮิตนักข่าวถามไม่เลิกก็เรื่องค่าตัวที่เธอโก่งสุดๆ จากหมื่นนิดๆ กลายเป็นครึ่งแสนชั่วพริบตาแต่งานนี้เจ้าตัวก็ปฏิเสธหมด
วงการนางแบบก็ไม่เว้น ที่เป็นข่าวดังถึงกับโดนแบนไม่มีใครจ้างมาแล้วก็สาว "โอเด็ต เฮนเรียต แจ็คโคมิน" รายนี้ขอยอมรับในข้อกล่าวหาทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นเรื่องการวางตัว เรื่องของความรับผิดชอบ ทว่าหลังจากที่เริ่มคิดได้พร้อมกับปรับนิสัยเสียใหม่ ถึงตอนนี้เจ้าตัวก็ได้กลายเป็นขวัญใจของนักข่าวไปแล้ว
"ตอนนี้สบายกว่าเมื่อก่อนเยอะ เมื่อก่อนอยู่ในช่วงเก็บตัวทำอะไรมากก็ไม่ได้ ออกไปไหนก็ไม่ได้เพราะที่ผ่านๆ มามีข่าวไม่ดีซะส่วนมาก แต่พอลบภาพที่ไม่ดีออกไปได้แล้ว ทำอะไรก็อิสระมากขึ้น ด้วยความที่เราโตขึ้นด้วยเลยคิดได้แล้วว่าอันไหนดีหรือไม่ดีกับตัวเอง อันไหนควรทำไม่ควรทำ อยู่ในที่สาธารณะต้องวางตัวอย่างไร"
"โอเด็ตว่าความเป็นธรรมชาติของคนเราน่าจะเป็นสิ่งที่ทำแล้วสบายใจที่สุด ถ้าเกิดออกงานแล้วต้องไปนั่งเฟคไปนั่งปั้นหน้า มันก็ได้ไม่ตลอดรอดฝั่งหรอกค่ะ สู้ไปแล้วเราทำอะไรก็ได้อย่างนี้ดีกว่า"
มาถึงคิวของพระเอกหนุ่มอย่างนาย "น้ำ รพีภัทร เอกพันธุ์กุล" ตอนได้หนุ่มดัชชี่ใหม่ๆ งานยังไม่ค่อยชุกเท่าวันนี้ ทุกครั้งที่นักข่าวยิงคำถามเป็นต้องตอบแบบมีหางเสียงครับผม...ทุกคำและตอบได้ทุกคำถามพร้อมส่งยิ้มหวานทำหน้าตาจิ้มลิ้มน่ารักเป็นที่สุด แต่เดี๋ยวหลายคนยืนยันว่าเจ้าตัวเปลี่ยนไปแล้วแถมออกตัวก่อนทุกครั้งจะให้สัมภาษณ์ด้วยเสียงห้วนๆ ว่า...ผมตอบแต่เรื่องงานนะ เรื่องอื่นไม่ตอบ...
เรื่องดังแล้วเปลี่ยนไปนี่ถ้าจะดูพัฒนาการที่เห็นได้ชัดคงจะต้องไปกันที่กลุ่มนักล่าฝันทั้งจากเวที "ACADEMY FANTATIA" และ "THE STAR คนฟ้าคว้าดาว" ที่ต้องบอกว่าน่าเห็นใจในเรื่องของการปรับตัว เพราะจากคนเดินถนนธรรมดาๆ เพียงชั่วข้ามคืนก็ดังเปรี้ยงแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว เป็นใครก็ต้องวางตัวลำบาก
ที่โดนก่อนใครเพื่อนก็คงจะเป็นนาย "วิทย์ พชรพล จันทร์เที่ยง" โดนข้อหาว่าหยิ่งพ่วงด้วยข้อหาทิ้งแฟนด้วยเหตุผลตามข่าวที่ว่าเพราะไม่ต้องการให้ฝ่ายหญิงเป็นตัวขัดลาภยศและชื่อเสียงทั้งที่ก่อนหน้านั้นเจ้าตัวเคยให้สัมภาษณ์ว่ารักแฟนมาก อย่างไรก็ตามงานนี้เจ้าตัวยืนยันว่าเป็นการเข้าใจผิดพร้อมกับยืนยันว่าตนเองไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรเลย
"อาจเป็นเพราะส่วนตัวเป็นคนเฉยๆ แต่กับเพื่อนผมจะฮามาก ส่วนที่เปลี่ยนไปคงเป็นหน้าที่การงาน สังคมมากว่า แต่ความเป็นส่วนตัวก็มีบ้างที่ตัดความเป็นส่วนตัวออกไปเพราะเราเลือกมายืนจุดนี้เอง ส่วนเรื่องแฟน หลังเสร็จจากแข่งอะคาเดมี่ เราไม่มีเวลาให้กัน ก็เลยคุยกันว่าเราแยกคบกันสักพักดีกว่า แล้วก็ห่างกันไปเลย เราเลิกกันเพราะไม่มีเวลาให้กัน ผมกล้ายืนยันว่าเราไม่มีอะไรติดใจกัน"
ทางฟากของหมอฟันยิ้มเก่ง "จุ้มจิ้ม กิตติลักษณ์ จุลลักษเฐียร" ตอนเป็นรับบทเป็น "ตัวร้าย" ในบ้านอะคาเดมี่ฯ เนื่องจากมีข่าวว่าคะแนนเสียงที่เธอได้รับเป็นคะแนนจัดตั้งไม่ใช่จากความสามารถแต่ก็ดูเหมือนว่าจะยังมีคะแนนสงสารเธอไม่น้อย เช่นเดียวกับตอนที่ตกรอบจะขอสัมภาษณ์อะไรทีก็แสนง่าย
ทว่าครั้นพอมีชื่อเสียงเข้าสังกัดค่ายแกรมมี่ฯ งานก็เยอะเวลาให้สัมภาษณ์ก็น้อยลง เบอร์โทรศัพท์ก็เปลี่ยนไป ก่อนจะมาโดนวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักระหว่างเกิดคลื่นยักษ์สึนามิถึงบทบาทของการเป็นหมอฟันของเธอที่น่าจะทำอะไรได้มากกว่าการพูดแสดงความเสียใจหรือว่าเห็นใจผู้ประสบภัย ซึ่งหากทำจริงๆ เธอก็น่าจะได้ใจประชาชนไปได้ไม่น้อยทีเดียว
ปิดท้ายกันที่สาว "อั๊ส ชนัญญา ตั้งบุญจิตร" จากเวทีเดอะสตาร์ฯ รายนี้ค่อนข้างจะพิเศษ เพราะประเด็นดังแล้วเปลี่ยนไปนั้นยังไม่รู้ว่าจะใช้กับเธอได้หรือเปล่าเนื่องจากเพียงแค่ย่างก้าวเข้าวงการมายาอย่างเต็มตัวสดๆ ร้อนๆ กับงานแสดงละครครั้งแรกของค่ายเอ็กแซ็กท์ฯ สาวอั๊สก็ไม่มีเวลาให้สัมภาษณ์ใดๆ ทั้งนั้นขอยกให้เป็นหน้าที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์ชี้แจงทั้งหมด
"อาจจะมีส่วนเปลี่ยนอยู่บ้างในเรื่องของการพูดการจา หรือว่าการวางตัว แต่ส่วนใหญ่ก็ไม่ได้เสียหายอะไรและก็เป็นเพราะนักข่าวเองนั่นแหละที่ทำให้เปลี่ยนไป..." แหล่งข่าวที่เป็นผู้จัดการตัวนักแสดงคนหนึ่งแสดงความคิดเห็น
"เอ้า อันนี้ว่ากันแฟร์ๆ เลยนะ คือถ้าถามว่าใครที่เป็นคนที่ตื๊อเก่งที่สุดเนี่ยต้องเอานักข่าวบันเทิงไปเป็นคำตอบด้วยนะ แล้วพอพูดไปอย่างก็เอาไปเขียนอีกอย่าง ซึ่งดาราหลายคนก็เข้าใจเพราะรู้อยู่ว่าข่าวแบบนี้มันต้องการความหวือหวา จะไปพาดหัวว่าดาราพูดว่าไม่มีอะไร ไม่ใช่อย่างนั้น ใครจะมาสนใจ ทีนี้พอโดนบิดคำพูดบ่อยๆ เขาก็เริ่มเบื่อ ก็เริ่มที่จะไม่ให้สัมภาษณ์ เอา ทีนี้มาแล้ว ดังแล้วหยิ่ง ดังแล้วไม่เห็นหัวคนอื่น"
"ถ้าถามว่าดังแล้วหยิ่งมีมั้ย มี ดังแล้วเอาแต่ใจนี่ก็เรื่องธรรมดา คนเรามีเงิน มีชื่อเสียง จะให้มันเหมือนเดิมมันก็ยาก แต่มันก็น้อยเพียงแต่ว่าความมีชื่อเสียงมันก็เลยมักจะโดนเหมารวม คือฟากหนึ่งผมก็เห็นใจนักข่าวนะ เพราะบางคนโทร.ไปดีๆ ไม่ได้เซ้าซี้อะไรหรอก แต่โดนตวาดมาก็มี ซึ่งตรงนี้ผมจะบอกกับเด็กของผมว่าหากเขาโทรมาแบบนี้ก็ให้บอกกับเขาดีๆ ก็ได้ว่าเออ มันไม่สะดวกให้สัมภาษณ์จริงๆ ก็บอกไปสิว่าไม่สะดวกจะพูดครับ ไม่มีเวลาจริงๆ นะคะ"
"ตรงนี้ผมว่าพูดกันดีๆ เพื่อรักษาความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันและกันไว้ดีกว่า ก็อย่างที่หลายคนบอกนั่นแหละว่าน้ำพึ่งเรือเสือพึ่งป่า"
ภาพ Fashion sexy ของอั้ม
free download wallpaper อั้ม
แฟชั่นของพอลล่าใน mars ฉบับที่ 8
แฟชั่นของพอลล่าใน mars ฉบับที่ 14
unseen พอลล่า ภาพแฟชั่นของพอลล่าที่ไม่เคยตีพิมพ์ที่ไหนมาก่อน
free download wallpaper พอลล่า
ภาพแฟชั่นสวยๆ จากโอเด็ตพร้อมภาพเบื้องหลัง