เจอหน้าหนุ่ม “กำปั้น” อดีตนักร้องวง “บาซู” ในงานประกาดสาว FHM รอบตัดสิน ที่อาร์ซีเอ ถึงกับแปลกใจ เพราะหลังจากมีข่าวว่าเจ้าตัวติดพนันบอลจนต้องขายบ้านขายรถใช้หนี้ ชื่อของเค้าก็เด้งจากวงจรบันเทิงนับตั้งแต่วันนั้น
เข้าไปถามไถ่จึงได้รู้ว่า พ่อหนุ่มขาแดนซ์ผู้นี้เพิ่งกลับจากเมืองนอกเมืองนาจ้า...
“หายไปเกือบปี ผมไปเก็บเกี่ยวประสบการณ์ที่เมืองนอกบ้าง อยู่เมืองไทยบ้าง ไปดูทางฝั่งยุโรปว่าเค้ามีเครื่องดนตรีอะไรใหม่ๆ ไปเรียนคอร์สสั้นๆ เกี่ยวกับซาวนด์ดนตรี เป็นช่วงที่เราว่าง เพราะหมดสัญญากับอาร์เอสฯ พอดี ไม่อยากปล่อยเวลาให้ว่างก็เลยโอ.เค.ไปหาประสบการณ์ดีกว่า”
“ผมไปอยู่เยอรมันประมาณ 3 เดือน ไปเล่นคอนเสิร์ตเพราะที่โน่นมีร้านอาหารไทยเยอะ เล่นกับเพื่อนๆ พี่โจอี้ก็ไปแต่ตามไปทีหลัง สิ่งที่ได้กลับมาคือประสบการณ์ มันสร้างแอคทีฟ เหมือนเติมไฟให้ตัวเองและได้รู้ว่าฝั่งโน้นเค้าฟังเพลงยังไงบ้าง”
“พอผมกลับมาก็เข้าไปคุยกับทางค่าย(อาร์เอสฯ) ตอนนี้ยังไม่อยากพูดเยอะเพราะเพิ่งทำไปประมาณ 40 เปอร์เซ็นต์ คิดว่าเสร็จไม่น่าจะเกินปีนี้ ใจผมอยากออกเดี่ยวเหมือนกันแต่มันยากเพราะเทปผีเยอะ แนวเพลงผมอยากให้แปลกออกไปไม่ซ้ำของเดิมที่เคยทำ อยากให้แฟนๆ เปิดใจรับแนวใหม่ๆ บ้างครับ”
ข่าวติดการพนันงอมแงม! มีส่วนทำให้ต้องหนีหน้าใช่มั้ย?!..
“จริงๆ ก็มีส่วนนะ อย่างก่อนหน้านี้มีงานติดต่อเข้ามาเยอะเหมือนกัน แต่พอมีข่าวขึ้นน้าหนึ่งเค้าเลยยกเลิกงานเราหมดเลย มีผลกระทบเยอะเหมือนกัน แต่ไม่เป็นไร เราบริสุทธิ์ใจว่าเราไม่ได้ทำ”
วิตกจริตถึงขั้นไม่กล้าดูบอลในที่ชุมชน เพราะกลัวจะไปย้ำภาพเดิมให้ชัดขึ้นอีก ก่อนจะตัดพ้อ! ต้องมารับกรรมทั้งที่ตัวเองไม่ใช่คนก่อ
“ข่าวที่บอกว่าผมติดพนันบอล จริงๆ การพนันผมไม่เคยเล่น แต่เป็นคนชอบดูบอล คนรอบข้างอย่างเพื่อนผมเล่นพนันเยอะ ผมเป็นคนคอยบอกว่าอย่าเล่นด้วยซ้ำ ปกติผู้ชายชอบดูบอลอยู่แล้ว แต่ผมไม่เคยเล่น ช่วงหลังมันหลอน…ผมไม่กล้าดูบอลตามที่สาธารณะ เพราะกลัวคนคิดว่าเราเล่นจริงๆ แต่ไม่เป็นไร…พอมีข่าวมันทำให้ผมรู้ว่าควรจะอยู่วงการนี้ยังไง”
“เราโดนกลั่นแกล้งเพราะผมไม่ได้ทำ มีข่าวแล้วเหมือนโดนแบน แต่เฮีย(เฮียฮ้อ-สุรชัย เชษฐโชติศักดิ์)เข้าใจ คนในอาร์เอสฯ เข้าใจ เพราะเค้ารู้ว่าเราเป็นคนยังไง บางครั้งรู้สึกแย่เหมือนกันเพราะต้องมารับผิดชอบในสิ่งที่เราไม่ได้ทำ ตอนนั้นเริ่มมีละครเริ่มมีหนังด้วย งานทุกอย่างโดนแบนหมดเลย”
ย้ำชัด มั่นใจว่าขาวสะอาดพอที่จะหวนคืนวงการฯ แต่แอบหวั่นคนตราหน้าว่าเป็นผีพนัน!!
“ลึกๆ ก็กลัวนะ แต่เราบริสุทธิ์ใจซะอย่าง เราสามารถสู้สายตาคนทั้งประเทศได้ กล้าเถียงร้อยเปอร์เซ็นต์เราไม่ได้ตอแหล คนจะเชื่อหรือไม่เชื่อคงห้ามความคิดกันไม่ได้ ผมก้าวกลับมาอย่างมั่นใจ คิดว่าค่าของคนอยู่ที่ผลของงานมากกว่า สิ่งสำคัญเราต้องเป็นแบบอย่างที่ดีของเยาวชน กลับมาก็ไม่ได้วางตัวลำบากอะไร เพราะเป็นคนง่ายๆ อยู่แล้ว”


