xs
xsm
sm
md
lg

"Innocence" ของ "ป๊อป" งานที่หัวใจสั่งให้ทำ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


"ถ้าเราไม่ทำมันขึ้นมา เดี๋ยวตายก็ตายตาไม่หลับแน่ๆ ซึ่งพอได้ทำเราก็ถือว่าชีวิตตอนนี้มีความสุขที่สุดแล้ว..." น้ำเสียงที่ฟังดูจริงจังจากปากของอดีตนางงามชื่อดัง "ป๊อป อารียา สิริโสดา" บอกเล่าถึงบทบาทหน้าที่ใหม่ของตนเองหลังจากทำมาแล้วมากมายทั้งนักแสดง ครู นักเขียน และในครั้งนี้กับการเป็นผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์สารคดี "Innocence" ร่วมกับไดเรกเตอร์สาวผู้มากประสบการณ์ "นิสา คงศรี"

"Innocence" บอกเล่าเรื่องราวของเด็กดอยจากโรงเรียนบ้านแม่โต๋ จ.เชียงใหม่ ที่มีความฝันอยากเห็นทะเลสักครั้งในชีวิต โดยจุดเริ่มต้นของการทำงานเกิดขึ้นจากการที่เธอได้เข้าร่วมกิจกรรมกับนิตยสารอะเดย์ในหลายปีที่ผ่านมา

"ป๊อปได้เห็นพวกเขาครั้งแรกเมื่อตอนปี 2000 ตอนไปร่วมงานกับหนังสืออะเดย์แล้วรู้สึกประทับใจ พอดีป็อปมีโอกาสไปเรียนด้านฟิล์มที่อเมริกาด้วยประกอบกับป็อปไปเจอเพื่อนคนหนึ่งชื่อนิสา คงศรี ซึ่งเคยทำงานโฆษณาและทำหนังมาก่อน เค้ามีประสบการณ์ด้านภาพยนตร์มาเป็นสิบปี เราก็เลยมาคุยกันว่าเราน่าจะทำเรื่องนี้เป็นหนังสารคดีได้นะ”

"จากนั้นเราก็เริ่มขึ้นดอยไปเก็บกันมาเรื่อยๆ ไปถ่ายทุกเดือนเลย ถ่ายมาประมาณ 2 ปีได้แล้ว ตอนนี้มีเทปที่เก็บไว้เยอะมากๆ ประมาณ 80 - 90 ชม. เรียกว่าถ่ายไปได้ 80 เปอร์เซ็นต์แล้วประมาณกลางปีคงจะได้ฉาย"

งานนี้เจ้าตัวยอมทิ้งเงินจำนวนมากไปกับการปฎิเสธงานทุกอย่าง แถมยังลงทุนควักเงินในกระเป๋าตัวเอง ทว่าสิ่งที่ได้รับกลับสาวป๊อปบอกว่าคุ้มเสียยิ่งกว่าคุ้ม พร้อมแสดงความมั่นใจว่าแม้จะไม่ถูกตลาดแต่รับรองว่าโดนใจคนดูแน่นอน

"เรื่องนี้มันมีสองนัยนะ ก็คือว่าไปทะเลเนี่ยหมายถึงเขาจบ ม.3 แล้วเขาก็จะไปสู่โลกกว้าง แล้วในเชิงภาพเนี่ยเขาไปทะเลจริงๆ อันนี้ต้องการจะเปิดโลกให้เด็กไปทะเล อีกอันหนึ่งก็คือเด็กจะต้องลงจากเขาเพื่อไปเรียนต่อ ม.4-6 หรือสายอาชีพอะไรก็แล้วแต่เขาก็เลยต้องออกทะเลจริงๆ ด้วย เหมือนต้นน้ำสู่ปลายน้ำที่เรียนอยู่บนเขาก็คือต้นน้ำและที่ไปทะเลก็คือปลายน้ำ”

"สิ่งที่เราสัมผัสมีหลายอย่างมาก คนบนนั้นไม่ว่าจะเป็นครู เด็กนักเรียน ชาวบ้าน เขาไม่ได้อยู่ในโลกของวัตถุแต่ว่าเขาอิ่มนะ บางทีพ่อเด็กบอกว่าสงสารคนเมืองนะอยู่คอนโดฯ เดียวกันแต่ไม่รู้จักกันเลย สงสารคนเมืองนะต้องซื้อแอร์มาหายใจ สงสารคนเมืองนะที่ต้องกินผักที่ไม่สดเท่าที่พวกเรากินกัน เราก็เอ้อใช่ เด็กดอยเขาแข็งแรงกว่าเด็กในเมืองเยอะ เดินไปบนภูเขา 3 - 4 กิโลไปช่วยแม่พ่อปลูกผักกะหล่ำเกี่ยวข้าว โอเคเขาไม่มีวิดีโอเกมเล่นแต่ร่างกายเขาแข็งแรง จิตใจเขาแข็งแรง ดูแล้วเขามีน้ำใจไม่รู้ว่าครูที่นั่นใส่อะไรเข้าไปเขานะ”

"ที่ต่างประเทศหนังสารคดีได้รับความนิยมมาก อย่าง Fahrenheit 9/11ก็ประสบความสำเร็จมากๆ ได้รับรางวัลไปตั้งเยอะแยะ ในอนาคตประเทศไทยคงจะมีหนังแบบนี้เยอะขึ้น ป๊อปเชื่อว่าคนไทยจะสนใจหนังเรื่องนี้ ถ้าเค้าชอบดูอะไรที่เป็นของจริง ไม่มีการเซ็ตอัพ ไม่มีการเฟค เรื่องนี้โดนใจมาก”

"ป๊อปเอาเทปให้เพื่อนๆ ดู ทุกคนจะบอกว่าโดน ดูแล้วร้องไห้กันใหญ่เลย คือดูแล้วมันคือชีวิตจริง ไม่มีนักแสดง ทุกอย่างเป็นของจริงหมดเลย สิ่งที่ถูกถ่ายทอดออกมามันไม่มีสคริปต์ ไม่มีแอ็กชั่น”

ถามถึงความรู้สึกที่แท้จริง อดีตนางงามชื่อดังบอกว่าทุกอย่างเกิดขึ้นมาจากหัวใจที่อยากจะทำ
"เราไม่เคยคิดเลยนะว่าคนไทยจะเปิดรับหนังแนวนี้ได้มากน้อยแค่ไหน เราทำด้วยจากใจรัก ไม่ได้คิดถึงเรื่องธุรกิจเลยแต่เราค่อนข้างที่จะเชื่อกับสิ่งที่เราทำ มั่นใจกับสิ่งที่เรามีอยู่ในมือคือเราดูแล้วเราประทับใจของเราเองน่ะ เราโดนก็แล้วกัน เราทำขนาดนี้แล้วเราอิ่ม มันรู้สึกว่าใช่น่ะ"

"ป๊อปทำเพราะรู้สึกอยากทำ ทำเพราะใจรัก ถ้าเลือกได้ป๊อปอยากเลือกทำทุกอย่างให้ครบตามที่เราต้องการ พอป๊อปรับเงินมาป๊อปก็อยากเลือกทำสิ่งที่อยากทำ ป๊อปไม่อยากเป็นทาสที่จะต้องทำทุกอย่างเพื่อเลี้ยงกาย อยากทำอะไรเพื่อเลี้ยงใจมากกว่า”

"จะบอกว่าป๊อปติสท์ไม่ได้คิดเรื่องเงินเรื่องกำไรก็ได้นะ แต่ป๊อปแค่อยากทำให้เต็มที่ แล้วค่อยไปสะบัดผมสะบัดหน้าทีหลังก็ได้ (หัวเราะ) ตอนนี้ลอรีอัลก็ต่อสัญญาอีก 2 ปี อุ๊ย ! ดีใจมากจะได้เอาเงินไปลงทุนทำหนังต่อ (หัวเราะ) คือการทำตรงนี้ถ้าเวลาผ่านไปแล้วสัก 10-20 ปีแล้วมองถอยหลังไป เราจะรู้สึกภูมิใจมากกว่าการโกยเงินอีกน่ะ"

"ถ้าจะให้เราหาเงินตอนนี้ก็หาได้แต่มันเป็นแค่แบบว่าเลี้ยงกาย แต่นี่คือทำเลี้ยงใจแล้ว อีกอย่างเรามาถึงจุดนี้ของชีวิตเรามีพร้อมหมดทุกอย่างแล้วบ้านก็มีรถก็มีเงินทองทุกอย่างก็มีแล้วตอนนี้ชีวิตเราอิ่มด้วยวัตถุแล้วค่ะ”

ยอมรับไม่ใช่เรื่องง่ายในการทำงาน แต่ถึงแม้จะเหนื่อยหนักแค่ไหนทว่าสาวป๊อปก็ไม่คิดหานายทุนเพราะต้องการอิสระ

"ขนาดนกเป็นเจ้าแม่ประสบการณ์ก็บอกว่าเป็นงานที่เหนื่อยที่สุดในชีวิต เพราะว่าเราทำทุกอย่างเองหมดเลยน่ะ ผ้าปูที่นอนมีรึยัง ที่ทำกับข้าวมีรึยัง แล้วบางหมู่บ้านไม่มีไฟฟ้าก็ต้องมีการปั่นไฟ บางทีอุปกรณ์ฝุ่นเข้าก็ต้องเอาไปซ่อมอีก ลุยกันเองเลย ล่าสุดป๊อปช่วยขับรถขึ้นดอยตอนกลางคืนด้วย แล้วอย่างภาพบางอย่างเรารอไม่ได้นะเด็กเป็นไข้ตอนดึกทั้งที่แสงไม่พอเราก็ต้องถ่ายเอาไว้ก่อนเพราะจะมาบอกเขาว่าอย่าเพิ่งร้องไห้นะอะไรอย่างนี้ไม่ได้ไง”

“ถ้ามีนายทุนเขาจะมาช่วยเราปรุงรสด้วยนะ เอาเปรี้ยวนิดหนึ่งเผ็ดหน่อยหนึ่ง แต่เราบอกว่าเราจะปรุงแบบนี้ อิสระมันจะแตกต่างกัน อย่างตอนไปงานฟิล์มที่ปูซานก็มีนายทุนจากเยอรมนีว่าเดี๋ยวให้เงินไปทำแต่ต้องบินไปตัดต่อที่เยอรมนีนะ ญี่ปุ่นก็บอกว่าขอนักแสดงญี่ปุ่นคนหนึ่งได้มั้ย เราก็อะไรเนี่ย เขาก็จะมีข้อแม้ที่เกิดขึ้นมากมาย เราต้องใช้อะไรของเขาบอกเงื่อนไขว่าจะต้องได้กำไรเท่าไหร่ จะแบ่งเท่าไหร่เขาจะเอาไปขายที่ไหนแบบยี้ๆๆ ไม่ใช่น่ะ ”

และด้วยความที่เป็นคนที่เลือกทำอะไรเฉพาะที่อยากทำนี่แหละ ทำให้ป๊อปไม่ค่อยรับงานมาก
“ที่ผ่านมาป็อปทุ่มเทกับการทำหนังเรื่องนี้มาก ป็อปขึ้นดอยไปอยู่กับเด็กๆ ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ฉะนั้นจะให้ป๊อปมารับงานโชว์ตัวบินไปบินมาก็ไม่ได้ ป๊อปขึ้นไปอยู่บนภูเขา ถนนหนทางก็แย่มาก จะไปจะมาก็ลำบาก เราก็รับงานเท่าที่อยากทำละกัน”

"อย่างงานโฆษณาเนี่ยมันเป็นอะไรที่ง่ายถ่ายไม่กี่วันก็เสร็จแล้ว ถามหน่อยถ้าเป็นยู ยูจะรับงานแบบนี้หรือเปล่า ทำงานแปล๊บเดียวได้ตังค์แล้ว เค้าให้สินค้ามาใช้เป็นกาละมังเลย”(หัวเราะ)

"ไม่ต้องห่วงป๊อปหรอกน่า ป๊อปอยู่ได้ ป๊อปพอมีตังค์ เราทำสิ่งที่เราอยากทำดีกว่า จะให้ป็อปไปเล่นหนังเล่นละครทุกวันไม่ได้หรอก ป๊อปไม่มีความจำเป็นต้องใช้เงินขนาดนั้น"

คลิกเพื่อชมตัวอย่างภาพยนตร์สารคดี "Innocence"






กำลังโหลดความคิดเห็น