ไม่ได้เป็นข่าวมานานพอสมควร แต่เมื่อวันวาน (6 มกราคม 2548) ที่ผ่านมาอดีตนักร้องสาวชื่อดัง "ปุ๊กกี้ ปริศนา พรายแสง" ก็กลายเป็นข่าวอีกครั้ง
ครั้งนี้แม้ประเด็น(ของข่าว)จะไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไรมากมาย แต่ภาพของเธอที่ปรากฏหราบนหน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์ "ไทยรัฐ" ก็เรียกร้องให้คนสนใจได้ไม่น้อยทีเดียว
สำหรับรายละเอียดของข่าวนั้นมีอยู่ว่า อดีตนักร้องสาวได้เดินทางไปพบกับพนักงานสอบสวนที่สน.สุทธิสาร กรณีมีคนโพสต์ข้อความด่าและขู่ว่าจะทำร้ายเธอที่เว็บไซต์ "ไดอารีคลับ ดอทคอม" (www.diaryclub.com) เว็บไซต์ที่เธอและเพื่อนๆ ทำร่วมกัน กระทั่งเธอเกิดความกลัวจึงข้อแจ้งความไว้เป็นหลักฐานและขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามตัวคนที่โพสต์ข้อความดังกล่าวให้ด้วย
เป็นอีกครั้งหนึ่งที่สาวปุ๊กกี้เธอตกเป็นประเด็นของการสนทนาอันมีสาเหตุมาจากโลกออนไลน์
ครั้งแรกที่เป็นเรื่องขึ้นมาคงยังจะพอจำกันได้เมื่อหลายปีก่อนหลังจากที่เธอเกิดตั้งครรภ์กับหนุ่ม "ต๋อง สุรพันธ์ จำลองกุล" นักร้องหนุ่มซึ่งเป็นโปรดิวเซอร์ให้กับเธอในอัลบั้ม "“ชะล่าลา ลาล่า” ก่อนที่เธอจะตัดสินใจไม่ฟังคำของแม่ โดดไปใช้ชีวิตคู่จนกลายเป็นที่ฮือฮาและช็อกความรู้สึกของใครต่อใครเพราะในตอนนั้นสาวปุ๊กกี้มีอายุเพียง 16 ปีเท่านั้น
หลังข่าวดังกล่าวเงียบหายไปพักหนึ่งเรื่องของเธอก็กลายเป็นที่พูดถึงกันอีกครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งบนโลกออนไลน์ เนื่องจากมีการนำเอาเรื่องราวรวมถึงพฤติกรรมส่วนตัวในการเป็นคนชอบเที่ยว รักความสนุกของเธอที่บันทึกไว้ในรูปแบบของการเขียนไดอารีบนเว็บไซต์ www.diaryclub.com ซึ่งเป็นเว็บที่เธอทำขึ้นมาร่วมกับเพื่อนๆ โดยเธอใช้ชื่อว่า "prisii" ไปวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางถึงพฤติกรรมและคำพูดคำจาที่ไม่ค่อยจะเหมาะสมสักเท่าไหร่
เรื่องราวของนักร้องสาวกับโลกออนไลน์กลายเป็นข่าวอีกครั้ง คราวนี้เป็นที่รับรู้และโจษจันกันยิ่งกว่าเก่า เนื่องจากนักข่าวหนังสือพิมพ์ได้นำเอาภาพใบหน้าโชกเลือดของเธอที่ถูกแพร่ไปตามอินเทอร์เน็ตมาเล่นเป็นข่าวตีพีมพ์ลงหน้าหนึ่งกันหลายต่อหลายฉบับ โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในช่วงกลางเดือนมีนาคมเมื่อปีที่ผ่านมา (2547) หลังจากที่เธอแยกทางกับสามีได้ประมาณเดือนเดียวเท่านั้น
หลังข่าวดังกล่าวแพร่ออกไปได้ทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์กันไปต่างๆ นานา บ้างก็ว่าเธอถูกหนุ่มต๋องซ้อมเพราะฝ่ายชายเป็นคนอารมณ์ร้อนและเกิดความไม่พอใจในนิสัยการเป็นคนชอบเที่ยวของเธอ บ้างก็ว่าภาพดังกล่าวเป็นภาพที่เธอหรือไม่ก็คนในครอบครัวของเธอนำไปโพสต์เอง และบ้างก็ว่าไปถึงขนาดที่ว่าไอ้น้ำแดงๆ ที่เห็นนั้นเป็นน้ำมะเขือเทศ ฯลฯ
แต่ไม่ว่าจะอย่างไร หลังข่าวดังกล่าวออกไปก็เป็นเครื่องหมายที่สื่อให้เห็นว่าความสัมพันธ์ของเธอกับหนุ่มต๋องที่ผ่านมานั้นไม่น่าจะมีความสุขนัก ที่สำคัญยิ่งทำให้ภาพของฝ่ายชายยิ่งแย่ขึ้นไปอีก
ย้อนกลับมาถึงเรื่องที่สาวปุ๊กกี้เธอเป็นข่าวหน้าหนึ่งเมื่อวันวานที่ผ่านมาอีกครั้ง เนื่องจากการไปแจ้งความของเธอได้ทำให้คนที่รับรู้ข่าวเกิดความสงสัยพอสมควรว่าจะเป็นเรื่องที่เปล่าประโยชน์หรือเปล่า?
เพราะหากเป็นคนเล่นเน็ตจริงๆ ก็จะรู้ว่าธรรมชาติของการสื่อสารบนโลกออนไลน์นั้นค่อนข้างจะเป็นอะไรที่กว้าง ไร้ขอบเขต โดยเฉพาะอย่างยิ่งการจะไปควบคุมความคิดและการแสดงออกของผู้ที่ใช้ซึ่งยังเป็นหัวข้อที่ผู้เกี่ยวข้องทั้งหลายยังถกเถียงกันถึงการหามาตราการต่างๆ ที่อาจจะออกมาควบคุมในเรื่องดังกล่าวอยู่ในขณะนี้
"จะว่าไปแล้วการนำเรื่องราวของตนเองมาเผยแพร่ในที่ๆ มันเป็นสาธารณะ แถมยังเปิดให้คนอื่นได้แสดงความคิดเห็นได้นั้น โอเคอาจจะมีกติกาอยู่ แต่ว่าสำหรับคนที่เป็นเจ้าของเรื่องเอง แล้วย่อมต้องรู้ดีว่าจะต้องมีทั้งคนด่าหรือคนชม อันนี้ต้องทำใจเลย" เว็บมาสเตอร์คนหนึ่งแสดงความคิดเห็น
"ยิ่งเป็นคนดังเป็นดาราก็ยิ่งต้องทำใจใหญ่เลยว่าต้องมีคนอื่นๆ สนใจอย่างแน่นอน ซึ่งถ้าเจ้าตัวรู้สึกว่ามันมีการดูหมิ่นหรือว่ามันมีการมาขู่ จะฆ่า จะมาทำร้ายร่างกายแบบนี้จะแจ้งความไว้ก็คงจะได้นะ แต่โดยส่วนมากแล้วเอาเข้าจริงๆ มันจับหรือว่าหาตัวผู้กระทำผิดกันได้น้อยมาก อย่างของคุณอิ๋งอิ๋งที่เคยเป็นข่าวก็เห็นเงียบๆ ไปแล้ว ไม่รู้ว่าจับได้หรือเปล่าผมเองก็ไม่ได้ติดตามข่าวก็เลยไม่รู้"
แหล่งข่าวที่เป็นเว็บมาสเตอร์ยังได้บอกต่อไปด้วยว่า จริงๆ แล้วหากจะเขียนไดอารีของตนเองในอินเทอร์เน็ตแล้วอยากให้มันเป็นส่วนตัวหรือว่าเฉพาะในหมู่เพื่อนฝูงจริงๆ ก็สามารถทำได้และก็ไม่ได้ซับซ้อนอะไรเลย
"อย่างไดอารีฮับ (http://www.diaryhub.com)ที่เขาทำอยู่ บางส่วนเขาก็มีการป้องกันคนนอกเข้าไปนะ หรืออย่างของพันทิบเองก็ต้องสมัครเป็นสมาชิกก่อนซึ่งจะทำให้การตรวจสอบอะไรมันง่ายว่าใครทำถูกหรือว่าผิดกติกาเว็บ แต่ว่าอย่างของคุณปุ๊กกี้กับเพื่อนๆ นั้นเท่าที่ดูแล้ว คนอ่านแล้วก็โพสต์เข้าไปได้เลย"
"แบบนี้ก็ต้องบอกว่าทำใจแหละครับ ว่าคงจะเจอเรื่องในทำนองนี้หรือว่าคนที่โพสต์เข้ามาหยาบๆ คายๆ ซึ่งมันก็มีผสมปนเปกันไปกับคนที่เขาเล่นเน็ตดีๆ คนที่เป็นเว็บมาสเตอร์ก็ต้องตามลบ ตามดูแลกันเอาเองแหละ..."