คลุมเครือมานานในที่สุดเรื่องข่าวลือร้ายๆ ที่เกี่ยวข้องกับค่ายเพลง "เบเกอรี่มิวสิค" ทั้งข่าวที่ว่าศิลปินแพแตก เบเกอรี่จะยุบค่าย โซนี่มิวสิคจะเข้ามาควบคุมกิจการ ฯ ก็ชัดเจนขึ้นมาแล้วอย่างหนึ่งนั่นคือการประกาศลาออกของ 3 ผู้บริหาร "สุกี้ กมลสุโกศล แคลปป์" "สมเกียรติ อริยะชัยพาณิชย์" และ "บอย โกสิยพงษ์" ที่เป็นผู้ร่วมกันก่อตั้งค่ายนี้ขึ้นมา โดยจะมีผลทันทีหลังวันที่ 31 ธันวาคม 2547 นี้
จัดให้มีงานแถลงข่าวไปแล้วในช่วงบ่ายที่ผ่านมาของวันนี้ (7 ธันวาคม) ที่เบเกอรี่มิวสิค งานนี้มี "สุกี้" คนเดียวเท่านั้นที่มาทำหน้าที่ชี้แจงข้อสงสัยต่างๆ...ส่วนจะเคลียร์ขนาดไหน หายข้องใจหรือเปล่า? ต้องลองไปฟังกัน
"ทางผม 3 คน รู้จักกันมา 10 ปี ที่ผ่านมาเรารู้ว่าเรารู้สึกอิ่มตัวอยากจะกลับไปอยู่กับตัวเองมากขึ้นเราตัดสินใจจะไปอยู่กับเพลงมากขึ้นในปีหน้าครับ"
จะไปตั้งบริษัทใหม่หรือเปล่า?
"ปีหน้าก็ต้องดูกันต่อไปแต่ตอนนี้ผมก็ยังไม่ตัดสินใจว่าจะทำยังไง"
ที่ตัดสินใจลาออกมาจากเหตุผลการรวมตัวกันของบริษัท "บีเอ็มจี" กับ "โซนี่" หรือเปล่า?
"มันหลายๆ อย่าง 5 ปีที่ผ่านมาที่ผมทำงานกับบีเอ็มจี ตอนนี้ผมอยากกลับไปอยู่กับศิลปะ ไม่อยากเป็นผู้บริหาร ถ้าองค์กรมันมารวมกันจะทำให้องค์กรใหญ่ขึ้น ผมไปอยู่ข้างนอกดีกว่า"
ศิลปินที่มีสัญญาอยู่กับเบเกอรี่จะทำอย่างไรต่อ?
"ก็มีที่หมดสัญญาไปแล้ว ส่วนศิลปินที่มีสัญญาอยู่ ผมเองก็จะดูแลต่อไป ถึงแม้ผมจะไม่ใช่ผู้บริหารเบเกอรี่อีกต่อไปแต่ก็ยังมีช่องทางประตูที่เปิดให้มาร่วมทำงานกันได้ ตอนนี้มีศิลปินที่ติดสัญญาอยู่ 10 คน รวมทั้งผม วงพรู และบอย ที่จะต้องออกอีกคนละ 1 ชุด สำหรับผมก็ถือว่าเป็นการทำงานที่แฮปปี้ที่สวมหมวกศิลปินใบเดียวไม่ได้สวมหมวกผู้บริหารด้วย"
เสียดายไหม?
"มันเป็นอดีตที่ผ่านไปแล้ว ผมก็ตัดสินใจไปแล้ว ตอนนี้ผมก็ถือว่ายังเด็กอยู่ อายุ 35 ยังสามารถทำอะไรได้อีกตั้งเยอะแยะ"
การที่บีเอ็มจีไปรวมกับโซนี่ทำให้บริหารงานยากขึ้นหรือเปล่าที่ทำให้ลาออก?
"ไม่เกี่ยวกัน เราต้องการเป็นอิสระ ต้องการความเป็นอินดี้ ถ้าคุณเป็นพาร์ทเนอร์กับใครมันจะต้องมีขอบเขต ตอนนี้เป็นจุดที่ไม่ต้องการมีขอบเขตและทำงานโดยไม่ต้องบอกใคร"
แล้ว "เบเกอรี่" จะเป็นอย่างไรในอนาคต?
"เบเกอรี่ก็ยังคงอยู่ แต่ผมก็ไม่แน่ใจ 100 เปอร์เซ็น อีกไม่นานโซนี่กับบีเอ็มจีก็จะรวมกันแล้วเบเกอรี่จะเป็นยังไงต่อไปก็คงต้องดูกันต่อไป"
มีข่าวลือว่าจะไปอยู่กับแกรมมี่
"ตอนนี้ยังไม่ได้ไปอยู่กับใครที่ไหนทั้งนั้น แต่มีการติดต่อเข้ามาอยู่แล้ว ผมตอบแบบนี้ดีกว่า ผมต้องการทำงานอย่างมีความสุข ถ้ามีใครบอกให้คุณบอยเขียนเพลงอย่างนั้นอย่างนี้คงไม่ทำ ถ้าผมทำงานกับใคร เขาต้องรับกติกาผมได้ เพราะพวกผมเป็นคนดื้อ ผมยืนยันที่อยากขอทำงานอย่างมีความสุข ถึงเวลาที่เหมาะสมก็จะรู้เองว่าผมอยู่ที่ไหน"
ศิลปินที่รู้เรื่องว่าไงบ้าง?
"ก็รับรู้มาแล้วในระดับหนึ่ง สิ่งที่ทุกคนห่วงก็คือ กลัวว่าผมจะหายไปหรือเปล่า ผมบอกเขาไปว่ายังไงก็ตามผมจะไม่ทิ้งศิลปินคนไหน"
กลัวไหมศิลปินจะออกตามเรา?
"ระหว่างนี้บริษัทกำลังเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้น รวมทั้งเราจะมีคอนเสิร์ตใหญ่ขึ้นในวันศุกร์นี้ รวมถึงวันที่ 18 ที่เชียงใหม่ ผมยังไม่อยากคิดอะไรมากอยากทำคอนเสิร์ตนี้ให้เสร็จเสียก่อน"
ทางบีเอ็มจีมีข้อเสนอเหนี่ยวรั้งอะไรไหม?
"ข้อเสนอเขามีอยู่แล้วอยู่ที่เราว่าจะรับได้หรือเปล่า"
เป็นห่วงแฟนเพลงเบเกอรี่ไหม?
"เป็นห่วงมาก แต่ถ้าพวกผมผลิตงานออกมาดีไม่ว่าจะอยู่เบเกอรี่หรือบริษัทไหน เขาก็น่าจะติดตาม"
เบเกอรี่จะไม่มี 3 คนนี้แล้วยังจะดูเป็นเบเกอรี่อยู่ไหม?
"ถึงวันนี้เบเกอรี่ไม่ได้เป็นแค่ค่ายเพลง แต่เป็นไอคอน (icon) หนึ่งเป็นสัญลักษณ์หนึ่งและผมก็หวังว่าสัญลักษณ์ สัญลักษณ์นี้ ผ่านไปอีกสิบ ยี่สิบปีข้างหน้าก็ยังคงอยู่ไม่หายไปไหน"
ผลงานของทั้ง 3 คนที่ทำไว้ตกลงว่าลิขสิทธิ์ต่างๆ จะเป็นของใคร?
"ผลงานที่ผ่านมาประมาณ 180 ชุด ผมก็ไม่มีสิทธิ์เข้าไปเกี่ยวข้องตรงนี้ถือว่าเป็นบทเรียน ผมเริ่มทำงานตั้งแต่อายุ 22 แทบไม่รู้อะไรเลย มองมาตรงนี้ก็ทำให้เราคิดว่าแทบไม่รู้อะไรเลย ยิ่งพอมีปัญหาเกิดขึ้นก็ยิ่งทำให้เรารู้ว่าเราไม่รู้อะไรเลยจริงๆ"
การลาออกครั้งนี้เป็นเพราะนายทุนเมืองนอกมาจับมือกันเป็นเหตุให้เราไม่มีสิทธิ์บริหารงานหรือเปล่า?
"ดีมากเพราะเป็นพาร์ทเนอร์ที่ดีเข้าใจการทำงานของนักดนตรีไม่เคยเข้ามาก้าวก่ายว่าจะต้องทำงานเพลงอย่างนั้นอย่างนี้ แต่องค์กรเป็นธุรกิจมันก็ต้องมีการเปลี่ยนแปลงและเมื่อการเปลี่ยนแปลงกระทบกับเรา มันเป็นชะตาที่เกิดขึ้นทำให้เราต้องตัดสินใจเลือก"
สะเทือนใจไหม?
"ไม่ได้รู้สึกสะเทือนใจ ก่อนหน้านี้เราเจอเรื่องน่าสะเทือนใจมากกว่านี้ในเรื่อง IMF เราไม่รู้ว่าจะหาเงินที่ไหนมาจ่ายพนักงาน ตอนนี้ยังไม่รู้สึกอะไร แต่พอถึงวันที่ออกไปจริงๆ ก็อาจจะรู้สึก"
ถ้าเกิดจะกลับมาบริหารที่เบเกอรี่เหมือนเดิมจะต้องมีเงื่อนไขอะไร?
"คงลำบาก"
บีเอ็มจีมีการทักท้วงอะไรไหม?
"บีเอ็มจีก็รู้จักเป็นเพื่อนกันก็เข้าใจผมหมด เขารู้ว่าผมอยากกลับไปเล่นกีต้าร์ ผมอยากเป็นศิลปิน เราค่อนข้างเข้าใจกันและกัน ผมบริหารงานเบเกอรี่มา 10 ปี ผมอยู่กับบีเอ็มจีมา 5 ปี อยู่กับบีเอ็มจีผมต้องดูแลสัดส่วนธุรกิจ 90 เปอร์เซ็นต์ ครีเอทีฟ 10 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งผมอยากให้ธุรกิจ 40 เปอร์เซ็นต์ ครีเอทีฟ 60 เปอร์เซ็นต์"
สรุปว่าตัดสินใจลาออกเพราะอะไร?
"ที่ลาออกเพราะองค์กรใหญ่ขึ้นแต่ผมไม่อยากใหญ่ พนักงานเยอะเกินไป กฎกติกาเยอะเกินไป แล้วผมเป็นศิลปินจะให้มาทำในแง่ธุรกิจเกินไปมันไม่เมกเซ้นส์"
จะไปเปิดค่ายใหม่กันสามคนเลยหรือเปล่า?
"สองคนนี้บอกแล้วแต่มึง (หัวเราะ) หากผมไปไหนเขาก็ไปด้วยเพราะเราเข้าใจซึ่งกันและกัน"
แล้วในส่วนของพนักงานจะทำอย่างไร?
"พนักงานจะได้รับค่าชดเชยตามที่กฎหมายกำหนด"
อนาคตของทั้ง 3 คน
"ยังไม่คิดว่าจะทำอะไร จะเปิดค่ายเพลงหรือเปล่าก็ยังไม่รู้ แต่ถ้าจะทำเพลงก็จะทำแบบมีความสุข เน้นเรื่องศิลปะเป็นหลัก ผมสามารถอยู่ห้องอัดได้ถึงตี 4 แต่ไม่ชอบไปประชุมตอน 9 โมง ถ้าจะเปิดบริษัทก็จะมีพนักงานสัก 10 กว่าคน คงจะดูแลได้ไม่ยากเกินไป"
คิดว่าเป็นการสูญเสียไหม?
"ถือว่าเป็นการเรียนรู้ มันถึงจุดหนึ่งที่ต้องมูฟออกไป ตั้งแต่จบมาผมไม่เคยทำงานที่ไหนเลยนอกจากที่เบเกอรี่ มันถึงจุดที่ต้องแสวงหาอะไรใหม่ ผิดครั้งเดียวยังพอให้อภัย ครั้งที่ 2 ครั้งที่ 3 ถือว่าโง่แล้ว แต่การลองผิดลองถูกก็ทำให้เรารู้ข้อผิดพลาดแล้วนำเอาไปปรับปรุงข้างหน้าครับ"