กลายเป็นโปรเจ็กต์ยักษ์ที่ชนกันโครมเลยทีเดียว เมื่อ "แม็ทชิ่งฯ" และ "ฮาวคัมฯ" เกิดใจตรงกันทาบเครื่องเล่นจากสวนสนุกของอังกฤษอิมพอร์ตเข้ามาสร้างความสนุกในเมืองไทย โดยของแม็ทชิ่งนั้นชิงเปิดตัวไปก่อนแล้วเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน และจะเปิดให้บริการไปจนถึง 14 กุมภาพันธ์ 2548 ที่อิมแพค เมืองทองธานี และคิดค่าผ่านประตูเพียง 20 บาทเท่านั้น
ด้านฮาวคัมฯ จะเริ่มเปิดให้บริการตั้งแต่ 2 ธันวาคม – 9 มกราคม 2548 บริเวณหน้าร้าน PUMP UP ถนนรัชดา โดยในวันที่ 2 ธันวาคมนั้นตรงกับวันคล้ายวันเกิดของ “โอ๊ค” พานทองแท้ ชินวัตร ทางฮาวคัมฯ จึงถือโอกาสนี้จัดฉลองวันเกิดให้กับโอ๊คไปในตัวด้วย โดย “ฮาน่า ทัศนาวลัย” หนึ่งในหุ้นส่วนฮาวคัมฯ ได้เปิดเผยถึงโปรเจ็กต์ยักษ์ว่า
“เครื่องเล่นทั้งหมดเราไปเอามาจากประเทศอังกฤษ ซึ่งเมื่อ 10 ปีที่แล้วเคยมีคนเอาเครื่องเล่นจากต่างประเทศมาที่เมืองไทยแล้ว ฮาวคัมฯ ก็เลยคิดว่าน่าจะมีกลับมาอีก ประกอบกับปีนี้คนไทยมีปัญหาเยอะ เราอยากหาอะไรที่มาคลายเครียดให้คนมีความสุขรับปีใหม่ เพื่อให้เด็กและผู้ใหญ่ได้ทำกิจกรรมร่วมกัน”
“สุดท้ายเราก็เลยมาลงตัวที่สวนสนุกที่อังกฤษซึ่งเป็นที่ยอมรับทั่วโลก ดังที่สุดในโลก เจ๋งที่สุดในโลกแล้ว เครื่องเล่นทุกอย่างตื่นเต้นหวาดเสียว ใครอยากเล่นต้องบินไปที่โน่นเลย แต่ตอนนี้ไม่ต้องบินไปแล้วมาเล่นที่เมืองไทยได้เลย โดยเราทุ่มงบไปประมาณร้อยกว่าล้าน”
ส่วนเรื่องที่บังเอิญเหมือนกับแม็ทชิ่ง ไปเอาเครื่องเล่นมาจากอังกฤษเหมือนกัน ซ้ำยังเปิดให้บริการไล่เลี่ยกันนั้น ฮาน่าบอกว่าไม่ใช่ปัญหาเพราะมั่นใจว่าเครื่องเล่นของฮาวคัมมีความแตกต่าง แม้จะเปิดให้บริการช้ากว่าแม็ทชิ่งก็ตาม
“ตกใจเหมือนกันพอรู้ว่าเค้าทำ ทำไมคิดตรงกันแบบนี้ แปลกมาก 9 ปีที่ผ่านมาไม่มีใครทำ พอทำดันทำพร้อมกัน แต่คิดว่าคงไม่ใช่การก็อปปี้กันหรอก เราไม่โทษเค้าว่าใครขโมยไอเดียใคร ถ้าโทษก็โทษตัวเราเองที่ไม่สืบให้ดีไม่เช็คให้ดี ทางอังกฤษเองก็ไม่ได้บอกว่าแม็ทชิ่งมาดิวไว้มันก็เลยชนกัน คิดว่าน่าจะเป็นความบังเอิญมากกว่า”
ยืนยันเดินหน้าจัดงานต่อไป....
“ของมันลงเรือแล้วเราถอยไม่ได้ ก็ถือว่าเป็นการส่งความสุขให้กับผู้คนในช่วงปลายปี แต่จริงๆ แล้วฮาน่าว่าไม่น่าจะมีปัญหานะเพราะเราจัดกันคนละสถานที่ ใครใกล้ที่ไหนก็ไปที่นั่น”
ถึงแม้สวนสนุกของฮาวคัมฯ จะเปิดให้บริการทีหลัง แต่ฮาวคัมฯ ก็มั่นใจว่าขายได้แน่เพราะมีเครื่องเล่นที่พิเศษกว่า
“ของเราไม่เหมือนกับของเค้า เรามีตัวชูโรงไม่เหมือนกัน จะมีเครื่องเล่นตัวหนึ่งที่ดังมากๆ เหมือนเราขึ้นไปบนตึก 30 ชั้นแล้วโดนตัดลิฟต์ตกลงมา เครื่องเล่นตัวนี้มีเพียง 3 ตัวในโลก 2 ตัว อยู่อังกฤษ อีกอันหนึ่งที่ฮาวคัมฯ เราเพิ่มเงินเป็นล้านเพื่อให้ได้เครื่องเล่นชิ้นนี้มา ถือว่าค่อนข้างพิเศษกว่าหวาดเสียวตื่นเต้นมันกว่า”
“มองทางด้านโลเกชั่นเราก็ได้เปรียบกว่า ของเราตั้งอยู่กลางเมือง การเดินทางสะดวกสามารถมาได้ทั้งรถเมล์ , ไฟฟ้าใต้ดิน , รถส่วนตัว สามารถมาได้หมดแต่ของทางโน้นอาจจะเดินทางลำบากนิดนึง”
ส่วนข่าวที่ว่าแม็ทชิ่งตัดราคาฮาวคัมฯ โดยจำหน่ายบัตรผ่านประตูเพียง 20 บาท ในขณะที่ฮาวคัมฯ ตั้งราคาถึง 50 บาทนั้น ฮาน่าบอกว่าไม่น่ามีปัญหา
“ข้อเท็จจริงเป็นไงฮาน่าก็ไม่ทราบนะคะ แต่ฮาน่าคิดว่าค่าผ่านประตูก็ไม่ได้ต่างกันมากนะ เรื่องนี้ไม่ใช่ปัญหายังไงเราก็ลดอยู่แล้ว เราแบ่งเป็นสองราคาปกติ 50 บาท เด็กนักเรียนนักศึกษาลดให้ท่านละ 20 บาท นั่งรถไฟฟ้าลดเหลือ 20 บาท ไปดูหนังที่เมเจอร์ก็จะให้เข้าฟรีไปเลย”
“ฮาน่าไม่คิดว่าเป็นการเสียเปรียบนะเพราะรายได้จริงๆ มันขึ้นอยู่กับเครื่องเล่น ถ้าคนเล่นเยอะเราได้กำไรจากตรงนั้นมากกว่า คนเราเข้าไปแล้วก็อดใจไม่ได้ที่จะเล่น บางคนไม่เล่นแค่เครื่องเดียว มาแล้วก็เล่นหลายเครื่อง ส่วนค่าเล่นนั้นก็มีราคาตั้ง 25 บาทขึ้นไป คิดว่าน่าจะพอๆ กับที่โน่นลดหย่อนกันไม่กี่สิบบาท”
นอกจากตั้งใจจะจัดโปรเจ็กต์นี้เพื่อส่งท้ายปีเก่ามอบความสุขให้กับประชาชนแล้ว ฮาน่าบอกว่าต้องการจัดงานฉลองวันคล้ายวันเกิดให้กับ “โอ๊ค” พานทองแท้ ชินวัตร ประธานบริษัทฮาวคัมฯ ไปในตัวด้วย
“จริง ๆ มันก็เหมือนเป็นความตั้งใจที่จะจัดให้ตรงกับวันเกิดของโอ๊ค เพราะจริง ๆ เราจัดก่อนหน้านั้นก็ได้ แต่นี่ถือเป็นการเซอร์ไพร์สวันเกิดให้เค้าด้วย เราจะมีเซอร์ไพร์สโอ๊คในวันนั้น และมีแจกของรางวัลเพียบเลยสำหรับคนที่ไปร่วมงาน เงินทุนของเรามาลงกับของแจกรางวัลทั้งหมด มีรางวัลใหญ่เป็นรถยนต์หลายคัน เราไม่ได้หวังว่างานนี้ต้องกำไรเป็นร้อยล้านพันล้าน ขอแค่ได้ทุนกำไรไม่เจ็บตัว ได้ส่งความสุขให้กับทุกคนก็พอแล้ว”
ประมาณว่าไม่ได้ตั้งใจมาค้ากำไร...
“เราแค่อยากทำอะไรสะใจให้คนแฮปปี้มีความสุขลืมเรื่องเลวร้าย ให้คนแฮปปี้ปีใหม่ก็พอแล้ว มีกำไรเล็กน้อยพอไม่ขาดทุน ไม่ใช่ไม่มายด์เรื่องเงิน แต่ขอกำลังใจหน่อยก็แล้วกัน ตรงนี้มันเป็นคอนเซ็ปต์ของเราเป็นสไตล์ของเราเองที่ค่อนข้างโมเดิร์นวัยรุ่น เป็นอะไรที่ไม่ต้องแก่งแย่งชิงดีชิงเด่นอะไร”
