xs
xsm
sm
md
lg

โฆษณาแฝง ความไม่เนียน และ "เอ็กแซ็กท์"/อำนาจ เกิดเทพ

เผยแพร่:   โดย: อำนาจ เกิดเทพ

วันนี้หยิบเอาเรื่องเดิมๆ มาคุยกันอีกสักครั้ง...

อาจจะดูเป็นการว่าร้ายกันจนเกินไปแต่เท่าที่เห็นและที่ได้ยินได้ฟังมาอย่างไรก็คงต้องบอกว่าในความรู้สึกของใครหลายๆ คน "เอ็กแซ็กท์" ของ "บอย ถกลเกียรติ วีระวรรณ" ดูจะเป็นหนึ่งในบริษัทบันเทิงชั้นแนวหน้าที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์เรื่อง "โฆษณาแฝง" มากที่สุด

ที่ผ่านมาอาจจะเป็นเพราะความคิดที่ว่าการใช้ชีวิต(จริง)ของเราในแต่ละวันล้วนแล้วแต่ต้องเข้าไปมีส่วนร่วมกับสินค้าหลากหลายยี่ห้อรวมไปถึงความค่อนข้างจะ "เนียน" ของครีเอทีฟที่สามารถเชื่อมร้อยสินค้าที่จะโฆษณาเข้าไปไว้ในละคร/ซิทคอมได้โดยไม่ก่อให้เกิดอาการสะดุดตาหรือเสียอรรถรสในการชมใครต่อใครจึงไม่ค่อยจะใส่ใจนักว่าการแอบมีโฆษณาเหล่านี้เป็นเรื่องของการเอาเปรียบผู้บริโภคหรือความไม่ยุติธรรมอะไรสักเท่าไหร่

มาระยะหลังๆ นี้เองที่ไม่รู้ว่าเป็นเพราะความ "ได้ใจ" หรือเพราะความ "ไม่มีชั้นเชิง" ของครีเอทีฟกันแน่ถึงทำให้รู้สึกว่าละครหรือว่าซิทคอมของค่ายจะจงใจยัดเยียดโฆษณาบางชิ้นจนเกินไปอย่างออกหน้าออกตา

กระทั่งจะบอกว่า "น่าเกลียด" เลยก็ว่าได้...โดยเฉพาะอย่างยิ่งใน "เฮงเฮงเฮง" กับ "บางรักซอย 9"

เหตุผลส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะสองเรื่องนี้เป็นแนวคอมเมดี้ที่ครีเอทีฟเองคงคิดไปว่าสามารถตัดเรื่องความ "สมจริง" และความมี "เหตุผล" ออกไปโดยที่คนดูเองอาจจะไม่รู้สึกอะไรกับการที่จะยัดมุกตลกเพื่อให้ตัวละครพูดถึงสรรพคุณของโทรศัพท์ยี่ห้อหนึ่งอย่างหน้าตาเฉยโดยไม่มีเหตุผล หรือการให้ตัวละครบางตัวบอกปัดสินค้ายี่ห้อหนึ่งแต่จะเอาอีกยี่ห้อหนึ่งพร้อมกับบอกว่ามันดีกว่าอย่างโน้นมันดีกว่าอย่างนี้

เรื่อยไปจนถึงที่ว่าสินค้าบางตัวเองก็ถูกเอามาวางเอามาตั้งไว้อย่างโดดเด่นเข้าตาคนดูเสียจนเกินกว่าจะบอกได้ว่าเป็นเพียงแค่พร็อบประกอบฉาก

ในต่างประเทศการนำเอาสินค้าเข้าไปในรายการ ละคร ซิทคอมหรือภาพยนตร์ค่อนข้างจะได้รับความนิยมเป็นอย่างมากเนื่องจากเป็นการโฆษณาที่ดูไม่เป็นการโฆษณา แต่ออกจะเป็นธรรมชาติ ไม่ยัดเยียดหรือดูจงใจ ตัวอย่างง่ายๆ อาทิหนังตระกูล "เจมส์บอนด์" ที่ในแต่ละภาคจะมีบรรดาบริษัทรถยนต์ นาฬิกา ชุดสูท โทรศัพท์มือถือ มากมายหลายบริษัทพากันจองจะให้ฮีโร่คนนี้ได้ใช้สินค้า(ยี่ห้อ)ตนเอง

ที่น่าสนใจคือเคยมีผลการสำรวจพฤติกรรมคนดูทีวีชาวสเปนพบว่ามีคนจำนวนไม่น้อยเลยทีเดียวที่ไม่รู้สึกว่าการโฆษณาในรูปแบบนี้เป็นเรื่องน่ารำคาญโดยเฉพาะอย่างยิ่งหากต้องเทียบกับการที่จะต้องเสียอารมณ์ไปกับโฆษณาที่มาคั่นในแต่ละช่วงๆ

อีกอย่างหนึ่งที่น่าสนใจมากๆ ก็คือในขณะที่หลายประเทศมีการคิดราคากันอย่างเสร็จสรรพ พูดกี่ครั้งต้องจ่ายเท่าไหร่? ให้เห็นโลโก้สินค้าสิบครั้งคิดราคากันอย่างไร? ทว่าของบริษัทเอ็กแซ็กท์เองเขายืนยันว่าไอ้ที่ทำๆ ไปนั่นน่ะไม่ได้ตังค์เลย

แต่ที่โฆษณาให้ก็เพราะนัยว่าเป็นการ "ซื้อใจ" เป็นการให้ "ของแถม" กับบรรดาเจ้าของสินค้าผู้มีพระคุณทั้งหลายที่มาลงโฆษณา

ถ้าเรื่องนี้เป็นเรื่องจริงก็คงไม่ต้องสรุปแล้วมั้งว่าบริษัทนี้เขาจริงใจกับผู้บริโภคอย่างเราๆ มากขนาดไหน...

อ้อ อีกอย่างหนึ่งที่น่าสงสัยมากๆ ก็ถ้าในเมื่องานของตัวเองดีเป็นงานมีคุณภาพ(เหมือนที่ชอบคุย)จริงๆ ทำไมต้องง้อ(โฆษณา)กันขนาดนี้ด้วยหว่า?
กำลังโหลดความคิดเห็น