หลังตกปากรับคำไปอยู่ “แกรมมี่” รายการสัญญามหาชนก็ถูกเด้งดึ๋งๆ ไปอยู่วันอาทิตย์ งานนี้หวยก็เลยไปออกที่ “วันวานยังหวานอยู่” ของโพลีพลัสได้เสียบเวลาทองไป อย่างไรก็ตามโชคก็ยังเข้าข้าง “ดู๋” สัญญา คุณากร อยู่บ้าง ถึงแม้เวลานี้จะถูกคำสั่งย้ายเวลาออกอากาศ แต่แกรมมี่ก็ส่งสมุนช่วยเพียบ ทั้งเบื้องหน้าเบื้องหลังระดมสมองกันยกใหญ่ ซ้ำยังให้กระสุนมากพอที่จะไปขอเวลาสถานีอื่นอีกต่างหาก
“ต่อไปเราก็คงจะทำรายการมากขึ้น ตอนนี้ก็เสนอไปแล้ว 3 รายการ มีทั้งของช่อง 7 และช่องอื่นแต่ไม่มีช่อง 3 สองรายการผ่านไปแล้ว แต่อีกหนึ่งรายการยังไม่สรุป แต่ที่แน่ๆ มีผมเป็นตัวยืนทั้งสามรายการ”
“ถามว่าเป็นผลมาจากการร่วมกับแกรมมี่หรือเปล่า ส่วนหนึ่งก็ต้องบอกว่าใช่ แต่จริงๆ แล้วผมว่าบริษัทผลิตรายการทุกที่มีศักยภาพในการผลิตรายการเพิ่มอยู่แล้ว เพียงแต่อาจจะรอจังหวะรอโอกาส รอเงินทุน”
เมื่อได้ชื่อว่าเป็นเด็กแกรมมี่หลายๆ คนก็เลยมองว่า ต่อไปนี้รายการของดู๋จะกลายเป็นกระบอกเสียงโปรโมตแกรมมี่กลายๆ
“ในการร่วมทุนเรามีข้อตกลงกันอยู่สองอย่างคือ 1 ผมจะยังเป็นผู้บริหารการทำงานเหมือนเดิมอย่างที่เคยทำ 2 ผมจะไม่เกี่ยวข้องกับเทป รายการผมจะมีอาร์เอสหรือค่ายอื่น ๆ มาออกได้”
“การร่วมทุนของเราไม่ได้ทำให้อะไรมันลดลง แต่เป็นการรวมเพื่อเพิ่มศักยภาพมากขึ้น มีเงินทุนหมุนเวียนมากขึ้น มีวัตถุดิบมากขึ้นทั้งเบื้องหน้าเบื้องหลัง การทำงานก็ง่ายขึ้นอย่างพี่เบิร์ด ธงไชยใครๆ ก็อยากได้ไปออกรายการ แต่เราอาจจะได้ง่ายกว่าเจ้าอื่น อาร์เอสก็มาออกรายการผมได้”
ทางดู๋อาจจะไม่มีปัญหา แต่ค่ายอื่นๆ โดยเฉพาะอาร์เอสจะคิดอย่างนั้นหรือเปล่าก็ไม่ทราบได้
“ก็คงให้เค้าดูที่พฤติกรรม ที่ผ่านมาผมก็ไม่ได้ทำรายการเพื่อโปรโมตใคร ทุกอย่างยังเหมือนเดิม ผมไม่ได้ทำรายการเพื่อนักร้องเรื่องนี้ไม่สนใจใครเป็นพิเศษอยู่แล้ว”
ส่วนรายการ “ที่นี่หมอชิต” ที่แปลงร่างมาจาก “สัญญามหาชน” นั้น ดู๋แจงชัดๆ ว่าสาเหตุที่ย้ายเพราะตอนให้เกิดความเปลี่ยนแปลง ไม่ได้โดนเขี่ย แล้วก็ไม่ได้รู้สึกน้อยใจ
“ที่ต้องย้ายวันออกอากาศก็เพราะว่าผู้ใหญ่บอกว่าอยากให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไม่ใช่โดนปลด การย้ายเวลาและเปลี่ยนชื่อรายการทำให้เปลี่ยนความรู้สึกใหม่ เริ่มต้นใหม่ไม่ผูกติดกับพันธะเดิม ซึ่งการย้ายเวลาออกอากาศไปอยู่วันอาทิตย์ก็เป็นเรื่องที่ดีเพราะวันศุกร์คนส่วนใหญจะออกไปสังสรรค์ข้างนอกกลับบ้านดึก แต่ในวันอาทิตย์คนดูจะค่อนข้างนิ่ง”
“เมื่อย้ายแล้วปรากฎว่าเรตติ้งดีกว่าเดิมด้วยซ้ำ สามารถตอบสนองกลุ่มผู้ชมได้ครบถ้วนกว่าเดิม ก็ยืนยันชัดๆ ตรงนี้เลยละกันว่า ผมไม่ได้น้อยใจและก็ไม่ได้ประชดประชันใครเลย
สำหรับคอนเซ็ปต์รายการดู๋บอกว่า คงจะปรับปรุงไปเรื่อย ๆ ….
“คอนเซ็ปต์ถ้าถามผม ผมอยากจะทดลองหมดเลย เราคิดมาหลายเรื่องมากๆ ก็คงจะทดลองไปเรื่อย ๆ เวลาชั่วโมงครึ่งมี 5 เบรก แต่ตอนนี้ผมคิดช่วงต่างๆ ไว้ 4 เบรกแล้ว ก็จะสลับเอามาใช้ บางช่วงต้องใช้การผลิตนาน 1 เดือนก็อาจจะได้เห็นที”
“นอกจากนั้นแล้วเราก็ยังจะปรับจุดอ่อนที่เคยมีอยู่ด้วย เมื่อก่อนเรื่องที่เราพูดมักเป็นเรื่องที่ไกลคน สิ่งที่เราพูดถึงมันไกลตัว ต่อไปเรื่องที่เราจะเสนอก็จะใกล้ตัวมากที่สุด อย่างเรื่องหุ้นผมจะไม่คุยเพราะไม่คุ้น และก็เชื่อว่ายังมีอีกหลายๆ คนที่ไม่รู้ เราจะคุยเรื่องชาวบ้านมากขึ้น วิธีการนำเสนอผมเป็นคนที่ห่วงเนื้อหามากๆ ซึ่งเรื่องนี้ผมก็คงยังคงรักษามันไว้อยู่ แต่จะทำให้มันออกมากึ่งสาระเน้นความบันเทิงมากขึ้นกว่าเดิม”
ปรับใหม่ทั้งที่ก็ต้องมีเรื่องให้ฮือฮาหน่อย งานนี้มีการดึง “นุ่น วรนุช” นางเอกคนดังแห่งช่อง 7 มาเป็นพิธีกรด้วย
“ที่เลือกนุ่นมาเป็นพิธีกรไม่ใช่ว่าผู้ใหญ่จัดมาให้ แต่ผมเลือกเค้าเพราะผมเคยเห็นเค้าตอนที่มาเป็นแขกรับเชิญในรายการ ผมรู้สึกว่านอกจากความน่ารักความฉลาดแล้ว สิ่งที่ชัดมากในตัวนุ่นก็คือ นุ่นเป็นคนที่แสดงตัวตน นุ่นคิดอย่างนี้ นุ่นชอบอย่างนี้ นุ่นไม่ชอบอย่างนี้ ผมมองว่านุ่นมีสิ่งเหล่านี้อยู่”
“เค้าเป็นคนที่เล่าเรื่องสนุก ทีมงานก็บอกว่าเวลานุ่นเล่าอะไรมันดูน่าฟัง และคิดว่านุ่นจะพัฒนาเป็นพิธีกรที่ดีได้อย่างแน่นอน ตอนนี้ผมก็จะให้เค้าเล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในสังคมเรา ส่วนเรื่องสัมภาษณ์ก็ยังเป็นผมอยู่ แต่อย่างไรก็ตาม ผมก็มีแพลนที่ให้ช่วงเค้าช่วงหนึ่งอยู่แล้ว”
ส่วนเรื่องการทอล์คที่หลายๆ คนบ่นว่า “สัญญามหาชน” ทอล์คเบาโหวงเหวงเหลือเกิน ดู๋บอกว่า….
“เรื่องการสัมภาษณ์ก็คงต้องปรับ ผมจะไม่เลือกทำแต่ไบโอเกิดมาเป็นยังไง พ่อแม่เป็นยังไง แต่อาจจะพูดคุยเรื่องความเป็นไปของโลกมนุษย์ ก็คงต้องดูกันต่อไปครับว่าจะเป็นยังไงต่อไป ตอนนี้หลาย ๆ คนก็กำลังจับตาอยู่ว่ามันจะเป็นยังไง ใครที่คิดว่าทำรายการวันอาทิตย์แล้วจะไม่มีเรตติ้ง เดี๋ยวผมจะทำให้ดู”