สร้างความฮือฮาและเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในวงกว้างเลยทีเดียวกับการลุกขึ้นมาแก้ผ้าถ่ายนู้ดของนักเขียนชื่อดัง "คำ ผกา" (แขก ลักขณา ปัณวิชัย) เจ้าของงานแปล-งานเขียนในเชิงวิพากษ์วิจารณ์และเสียดสีสังคมโดยเฉพาะในเรื่องเซ็กซ์อย่างตรงไปตรงมาทั้ง "เซี่ยงไฮ้เบบี้" "จดหมายจากเกียวโต" ยำใหญ่ใส่ความรัก" "รักไม่เคยชิน" "กระทู้ดอกทอง" ฯ ให้กับนิตยสาร "GM Plus" ฉบับปักษ์แรกของเดือนตุลาคมพร้อมด้วยการสัมภาษณ์อย่างถึงพริกถึงขิงในหัวข้อ Woman of Power เปลือยความคิดเรื่องเซ็กซ์(แถมเปลือยตัว!) คอลัมนิสต์สาว 'คำ ผกา'
บ้างก็มองว่าเธอร้อนเงิน...บ้างก็ว่าเธอถ่ายเพราะอยากโชว์หุ่นตัวเอง (แต่ทำเป็นเอาเรื่องของวิชาการเข้ามาอ้าง) ในแวดวงของนักเขียน บางคนถึงขนาดยกเอาเรื่องของการศึกษาของเธอเข้ามาพร้อมกับบอกอีกว่าคนอย่างเธอเข้าข่ายที่ว่า "มีความรู้ท่วมหัว เอาตัวเข้าแลก" และอีกสารพัด
ในขณะที่คนนอกต่างพูดและมองกันไปต่างๆ นานา ทว่าสำหรับคนใกล้ชิดกับตัวเธอ - ผู้ที่ติดตามอ่านงานเขียนและคนที่รู้ว่าเธอคนนี้มีความคิดเกี่ยวกับเรื่อง "เพศ" ในลักษณะไหน คงจะไม่แปลกใจนักกับการกระทำของนักเขียนสาวในครั้งนี้
รวมทั้งตัวเธอเองด้วยเช่นกัน
"ตอนนี้ใครจะพูดอะไร ใครจะคิดอะไรหรือว่าเห็นแล้วจะคิดอย่างไร มันก็คงจะแล้วแต่แล้วละเพราะว่ามันเป็นเรื่องที่นอกเหนือไปจากการควบคุมของแขกแล้ว ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะตีความการกระทำครั้งนี้อย่างไรก็ได้ค่ะ กับการที่แขกลุกขึ้นมาแก้ผ้าถ่ายเนี่ยถ้าเป็นคนใกล้ชิดหรือว่าเพื่อนๆ สนิททุกคนจะไม่ตกใจนะ เป็นเรื่องที่คาดเดาได้ ถ้าไม่ทำสิคะ อาจมีคนถามว่า เฮ้ย เมื่อไรจะทำ?(หัวเราะ)"
รู้สึกดีกับภาพที่ถ่ายออกมามั้ย?
"แขกเห็นด้วยกับที่คุณนิวัติ (นิวัติ กองเพียร) ที่ท่านเขียนวิจารณ์ไว้นะ คือแขกน่าจะทำอะไรได้มันกว่านี้ มันน่าจะทำได้สนุกกว่านี้...คือถ้ามีเวลาคุยกับช่างภาพ ทีมงาน ได้มีส่วนร่วมในการคิดธีมของงานมากขึ้น"
ถามถึงเรื่องค่าตัวนักเขียนสาวหัวเราะอย่างอารมณ์ดีก่อนจะบอกเล่นๆ ว่าให้ไปถามเจ้าของหนังสือจีเอ็มเอาเอง ส่วนเรื่องของเหตุผลในการถ่ายนั้นเธอยืนยันว่าเพราะต้องการตอกย้ำในสิ่งที่ตนเองเชื่อเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของร่างกายและกระบวนการทางสังคม
"ความตั้งใจของแขกก็คือ อยากให้คนในสังคมหันมาทบทวนเรื่องของร่างกายกันใหม่ว่ามันก็เป็นเพียงสิ่งประกอบที่สังคมและประวัติศาสตร์สร้างขึ้นมาเท่านั้น ไม่ใช่แค่เรื่องทางชีววิทยา ที่สำคัญมิติทางศีลธรรมก็เชื่อมโยงกับบริบทของวัฒนธรรมของประวัติศาสตร์ ร่างกายไม่ได้มีความหมายอย่างนั้นอย่างนี้ด้วยตัวของมันเอง"
"แต่การที่สาธารณะชนมองการกระทำครั้งนี้อย่างไรเป็นอีกเรื่องหนึ่ง จะบอกว่าอยากถ่ายแล้วก็เอาเรื่องของวิชาการเข้ามาอ้างอะไรก็เป็นสิ่งที่คิดกันได้...พี่คนหนึ่งที่แขกนับถือบอกว่า บุคคลสาธารณะทุกวันนี้โดยเฉพาะก็เปลือยชีวิตตัวเองผ่านงานเขียนอยู่แล้ว การแก้ผ้าของแขกก็เป็นเพียงแค่ทำการเปลือยนั้นให้เป็นรูปธรรมเท่านั้นเอง"
"คือจริงๆ ถ้าจะให้เข้าใจในสิ่งที่แขกคิดมันคงต้องอ่านงานของแขกประกอบด้วย เพราะงานถ่ายภาพของแขกก็มีการทำงานของช่างภาพที่อาจจะไม่ได้ตีความร่างกายของแขกได้ตรงกับสิ่งที่แขกอยากสื่อเสียทีเดียว
"ถามว่าคุ้มมั้ยก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะว่าที่เราทำไปคุ้มหรือไม่คุ้ม ไม่รู้ว่าจะวัดที่ตรงไหน แต่พอใจที่ได้ทำในสิ่งที่เราเชื่อจนถึงที่สุด"
เวลาที่เราพูดถึงคำว่า "เซ็กซ์" คุณคำ ผกา อยากให้มันออกมาในรูปแบบไหน?
"อยากให้พูดเรื่องเพศที่สัมพันธ์กับการเมืองมากขึ้น หมายถึงพูดเกี่ยวกับการเมืองเรื่องเพศกันมากขึ้น ไม่พูดเรื่องเพศลอยๆ ไม่พูดเรื่องเพศโดยจำกัดว่าเป็นเรื่องลามก แต่เป็นเพศในหลายๆ มิติ เช่น เพศในเชิงอนามัยการเจริญพันธุ์ เพศกับรัฐประชาชาติสมัยใหม่ เป็นต้น"
ถ้าจะให้คำนิยามผู้หญิงที่ชื่อ "คำ ผกา"?
"ให้คนอื่นนิยามดีกว่าค่ะ..."