ปรับโฉมคลื่นวิทยุอีกครั้ง สำหรับเจ้าแม่คลื่นวิทยุ "ฉอด-สายทิพย์ มนตรีกุล ณ อยุธยา” บิ๊กบอสส์ค่ายเอไทม์ มีเดีย ล่าสุดถึงคิว "แบงค็อก เรดิโอ 94 เอฟเอ็ม" และนอกจากจะเพิ่มงบแจกของรางวัลให้คนฟังถึงเดือนละกว่าหนึ่งล้านบาทแล้ว ยังปรับผังรายการเน้นให้คนฟังได้ฟังเพลงต่อเนื่องถึง 60 นาที เลยทีเดียว
"เราเริ่มปรับรูปแบบรายการมาตั้งแต่เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา โดยเราจะให้คนฟังได้ฟังเพลงเพราะ ตลอด 60 นาที และยังมีเกม กิจกรรมร่วมสนุกเหมือนเดิม จะสลับกันชั่วโมงเว้นชั่วโมง ชั่วโมงไหนเปิดเพลงก็จะเปิดตลอด และอีกหนึ่งชั่วโมงก็จะเป็นกิจกรรม เกมต่างๆ รวมถึงโฆษณา ที่สำคัญคนที่ฟังโฆษณา เราก็จะมีของรางวัลแจกด้วย เรียกว่า ดูโฆษณาแล้วได้รางวัลฟรีๆ ซึ่งเราเตรียมของรางวัลไว้มูลค่า 1.2 ล้านบาทต่อเดือน
เมื่อถามว่า ถือเป็นการเกทับคู่แข่งอย่างสกาย-ไฮ เน็ตเวิร์ค ที่ใช้กลยุทธ์เปิดเพลงฟังต่อเนื่องตลอด 50 นาทีหรือไม่นั้นเจ้าแม่คลื่นวิทยุเผยว่า
"การปรับครั้งนี้ ไม่ได้เป็นเพราะใครหรือคลื่นไหน เพราะหลักสูตรวิธีคิดในการสร้างสรรค์รายการต่างกัน ไม่ใช่เพียงแค่คลื่นอื่นทำ 50 นาที แล้วคลื่นตัวเองต้องมากกว่าเป็น 60 นาที เชื่อว่า ทุกคลื่นคิดหาทางที่จะทำให้คลื่นของตัวเองดีที่สุด และตอบโจทย์คนฟัง ไม่อยากให้มองว่า คลื่นวิทยุแข่งกันขนาดนั้น เพราะมันเป็นเรื่องปกติ"
"เราทำวิทยุเหมือนกัน ก็ต้องเป็นคู่แข่งกันในตลาดอยู่แล้ว แต่เวลาเราเจอกันเราก็คุยกันปกติ เรามองว่าเป็นเรื่องดีเสียอีกที่มีการแข่งขันกันเยอะ เนื่องจากในที่สุดผู้บริโภคก็เป็นผู้ได้รับประโยชน์ ทุกวันนี้ 5 คลื่นที่มีอยู่ทำรายได้ปีหนึ่งกว่าพันล้าน เราก็พอใจแล้ว โจทย์ในการทำงานทุกวันนี้คือ เราพยายามทำให้คนที่ฟังติดตามเราเหมือนเดิม และทำให้ลูกค้าที่ซื้อโฆษณาอยู่กับเราต่อไปมากกว่า”
แข่งกันอย่างนี้คนฟังก็ได้กำไรในการฟังเพลงสถานเดียว
"เราเริ่มปรับรูปแบบรายการมาตั้งแต่เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา โดยเราจะให้คนฟังได้ฟังเพลงเพราะ ตลอด 60 นาที และยังมีเกม กิจกรรมร่วมสนุกเหมือนเดิม จะสลับกันชั่วโมงเว้นชั่วโมง ชั่วโมงไหนเปิดเพลงก็จะเปิดตลอด และอีกหนึ่งชั่วโมงก็จะเป็นกิจกรรม เกมต่างๆ รวมถึงโฆษณา ที่สำคัญคนที่ฟังโฆษณา เราก็จะมีของรางวัลแจกด้วย เรียกว่า ดูโฆษณาแล้วได้รางวัลฟรีๆ ซึ่งเราเตรียมของรางวัลไว้มูลค่า 1.2 ล้านบาทต่อเดือน
เมื่อถามว่า ถือเป็นการเกทับคู่แข่งอย่างสกาย-ไฮ เน็ตเวิร์ค ที่ใช้กลยุทธ์เปิดเพลงฟังต่อเนื่องตลอด 50 นาทีหรือไม่นั้นเจ้าแม่คลื่นวิทยุเผยว่า
"การปรับครั้งนี้ ไม่ได้เป็นเพราะใครหรือคลื่นไหน เพราะหลักสูตรวิธีคิดในการสร้างสรรค์รายการต่างกัน ไม่ใช่เพียงแค่คลื่นอื่นทำ 50 นาที แล้วคลื่นตัวเองต้องมากกว่าเป็น 60 นาที เชื่อว่า ทุกคลื่นคิดหาทางที่จะทำให้คลื่นของตัวเองดีที่สุด และตอบโจทย์คนฟัง ไม่อยากให้มองว่า คลื่นวิทยุแข่งกันขนาดนั้น เพราะมันเป็นเรื่องปกติ"
"เราทำวิทยุเหมือนกัน ก็ต้องเป็นคู่แข่งกันในตลาดอยู่แล้ว แต่เวลาเราเจอกันเราก็คุยกันปกติ เรามองว่าเป็นเรื่องดีเสียอีกที่มีการแข่งขันกันเยอะ เนื่องจากในที่สุดผู้บริโภคก็เป็นผู้ได้รับประโยชน์ ทุกวันนี้ 5 คลื่นที่มีอยู่ทำรายได้ปีหนึ่งกว่าพันล้าน เราก็พอใจแล้ว โจทย์ในการทำงานทุกวันนี้คือ เราพยายามทำให้คนที่ฟังติดตามเราเหมือนเดิม และทำให้ลูกค้าที่ซื้อโฆษณาอยู่กับเราต่อไปมากกว่า”
แข่งกันอย่างนี้คนฟังก็ได้กำไรในการฟังเพลงสถานเดียว